ภายหลังจากที่มั่นคงเคหะการ ประกาศโรดแมปแผนการดำเนินงานในปี 2563 พร้อมทั้งเผยแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ ด้วยการเพิ่มทุนจำนวน 1,000 ล้านบาท เปิดบริษัทในเครืออย่าง “พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์” โดยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งขยายธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ภายใต้ชื่อ “โครงการบางกอก ฟรี เทรด โซน” พร้อมเดินหน้าจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ “พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์”พร้อมทั้งเตรียมจัดตั้งกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ เชื่อช่วยดันสัดส่วนกำไรกลุ่มธุรกิจเพื่อขายและกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและบริการสู่ 50:50 ได้ตามแผนธุรกิจ 5 ปี
วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและบริการ เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่มั่นคงฯ ถือหุ้น 100% และเป็นผู้พัฒนาโครงการบางกอก ฟรี เทรด โซน (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ) ซึ่งเป็นโรงงานให้เช่าที่มีอัตราการเติบโต อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง
“วรสิทธิ์” เผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 อัตรารายได้จากค่าเช่าเติบโตถึง 30% และมีอัตราผู้เช่ากว่า 90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 จากพื้นที่เช่ากว่า 150,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีการก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มเติมอีก 70,000 ตารางเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2563 โดยคาดว่าจะสามารถพัฒนาโครงการเต็มพื้นที่ประมาณ 280,000 ตารางเมตร ภายในสิ้นปี 2563
“จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จึงได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จํากัด” เพื่อดำเนินธุรกิจผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวจะถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจของ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ที่จะช่วยให้บริษัทฯ มีสัดส่วนของกำไรในกลุ่มธุรกิจเพื่อขายและกลุ่มธุรกิจเพื่อเช่าและบริการอยู่ที่ 50:50 ภายใน 5 ปี ตามแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างแน่นอน”
สำหรับ โครงการบางกอก ฟรี เทรด โซน (BFTZ) เป็นโครงการที่พัฒนาโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (PD) ถือว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจากตั้งอยู่บนถนนบางนาตราด กม.23 นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ และศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญ สามารถเชื่อมโยงฐาน การผลิตในการขนส่งสินค้าทั้งทางบกทางอากาศและทางทะเล มีความได้เปรียบในเรื่องการการเดินทางและขนส่ง เนื่องจากอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง อาทิ นิคมอุตสาหกรรมบางพลี และนิคมอุตสาหกรรมบางปู ประกอบด้วยอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงาน สิ่งสำคัญคือ โครงการนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่สีม่วง (ที่ดินประเภทอุตสาหกรรมและคลังสินค้า) จากปัจจัยต่างๆ ส่งผลให้โครงการ BFTZ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อัตรา การเช่าพื้นที่อยู่ที่ประมาณกว่า 90% โดยกลุ่มผู้เช่าหลักคือ ญี่ปุ่น มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 34%
ทั้งนี้ BFTZ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ประกอบด้วย พื้นที่เพื่อการเช่า (Leasable Area) 700 ไร่ และพื้นที่เพื่อการสาธารณูปโภค อาทิ ถนนสาธารณะ โรงบำบัดน้ำเสีย และส่วนการรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ ฯลฯ อีก 300 ไร่
“นอกจากการอนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยแล้ว ล่าสุดได้ออกหุ้นกู้มูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 1,650 ล้านบาท อายุ 3 ปี 11 เดือน 19 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2566 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ซึ่งสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท โดยพร้อมเสนอขายในวันที่ 2 – 11 ธันวาคม 2562 โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าใจการออกหุ้นกู้ครั้งนี้เป็นเพิ่มโอกาสและช่องทางการลงทุนที่ดีให้แก่กลุ่มนักลงทุน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงและการเติบโตให้แก่ มั่นคงฯ อีกด้วย”