อย. ส่งเสริมให้คนไทยมีภาวะโภชนาการที่เหมาะสม ปีใหม่นี้ชวนผู้บริโภคเลือกซื้อกระเช้าผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลด หวาน มัน เค็ม ลดความเสี่ยงโรค NCDs ซึ่งขณะนี้มีผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองแล้ว จำนวน 1,442 ผลิตภัณฑ์
นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้ลงพื้นที่ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขานครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนที่ต้องการซื้อกระเช้าของขวัญช่วงเทศกาลปีใหม่ให้หันมาซื้อกระเช้าที่มีสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้รับ โดย อย. ขอแนะนำการเลือกซื้อกระเช้าหรือจัดกระเช้าด้วยตนเอง ดังนี้
เลือกกระเช้าที่บรรจุผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” บนฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้รับหรือคนที่ท่านรักได้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมต่อสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ
เลือกกระเช้าที่มีลักษณะห่อหุ้มอยู่ในสภาพดีและมีการแสดงฉลากรวม โดยเป็นฉลากที่แสดงรายการผลิตภัณฑ์อาหารที่จัดรวมในภาชนะ และข้อความต้องแสดงรายละเอียด ได้แก่ ชื่อหรือประเภทหรือชนิดของอาหาร วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือควรบริโภคก่อนของอาหารแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า
ทั้งนี้ เมื่อนำกระเช้าไปมอบให้แก่ผู้รับ ไม่ควรแกะฉลากรวมออก เนื่องจากผู้รับสามารถตรวจสอบรายการผลิตภัณฑ์อาหารและวันหมดอายุว่าตรงกับฉลากหรือไม่ หากเลือกอาหารกระป๋องจัดในกระเช้า ควรดูลักษณะกระป๋อง ต้องไม่บุบ หรือโป่งพอง หรือมีรอยรั่ว ดูตะเข็บหรือรอยต่อต้องเรียบร้อยแน่นหนา และกระป๋องไม่เป็นสนิม ที่สำคัญ ควรสังเกตฉลาก ต้องแสดงข้อความรายละเอียดครบถ้วน เช่น เลข อย. ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า วัน เดือน ปี ที่หมดอายุ และส่วนประกอบ เป็นต้น
รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ขอให้เทศกาลปีใหม่นี้เริ่มต้นด้วยการให้สิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพแก่กัน โดยเฉพาะการมอบกระเช้าของขวัญปีใหม่ หากต้องการจัดกระเช้าด้วยตนเอง ควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ และ/หรือเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการต่อผู้รับ
ซึ่งมีหลากหลายประเภทผลิตภัณฑ์วางจำหน่าย ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองสัญลักษณ์โภชนาการดังกล่าวแล้วทั้งสิ้น 1,442 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ที่แสดงสัญลักษณ์ดังกล่าวได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเพื่อสุขภาพ และร้านค้าทั่วไป