เมื่อเอ่ยถึง สระบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ อีกจังหวัดหนึ่งที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง และเมื่อเอ่ยถึงความโดดเด่นของจังหวัดนี้ ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นธรรมชาติ วิถีชีวิตที่น่าสนใจ และสินค้าที่ขึ้นชื่อไม่ว่าจะเป็น กะหรี่ปั๊บ ของ อ.มวกเหล็ก ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง ได้แก่ ผ้าตีนจก ผ้าไหม ผ้ามัดหมี่ และ ข้าวเสาไห้ ของ อ.เสาไห้ ฯลฯ เป็นต้น
นอกจากเหนือจากสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อแล้ว ในส่วนของความเป็นธรรมชาติที่จังหวัดสระบุรีก็ยังถือว่าเป็นจุดเด่นของพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หนองแค ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ และความเป็นอยู่ของผู้คนที่มีความเรียบง่าย ในบรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ จนนำไปสู่การพัฒนาเป็นธุรกิจ “โฮมสเตย์” สำหรับผู้ที่สนใจหลีกหนีความซ้ำซากจำเจหรือความวุ่นวายจากสังคมเมือง มาพักผ่อนกับธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ซึ่งธุรกิจนี้ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวในปัจจุบันอย่างมาก
จึงเป็นที่มาของการจับมือร่วมกันระหว่าง Airbnb ที่ได้เดินหน้าแคมเปญระดับโลก Beyond Big Cities โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเดินหน้ามุ่งประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ของประเทศไทย กับสถิติจำนวนผู้เข้าพักในสระบุรีที่เติบโตมากถึง 115 % จากปีที่ผ่านมา โดยนักเดินทางส่วนใหญ่มาจากในประเทศไทยรวมทั้ง สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และสหราชอาณาจักร
สำหรับแคมเปญ Beyond Big Cities หรือ “นอกเหนือจากเมืองใหญ่” ที่ Airbnb มุ่งโปรโมทจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ (emerging destinations) ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากแคมเปญที่ได้
โปรโมทจังหวัดบุรีรัมย์ก่อนหน้านี้ โดย Airbnb ได้เปิดตัวเดสทิเนชั่น มาร์เก็ตติ้งวิดีโอ ที่นำเสนอความสวยงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น รวมทั้งสถานที่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งถ่ายทอดผ่านมุมมองของชุมชนเจ้าของบ้านพัก Airbnb ที่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทั้งในประเทศและต่างประเทศนอย่างอบอุ่น
ทั้งนี้วิดีโอที่โปรโมทสระบุรีจะนำไปเผยแพร่บนแพลตฟอร์มของ Airbnb สู่สายตาของนักเดินทาง Airbnb ทั่วโลก นอกจากนั้น ยังได้มีการทำเว็บเพจ http://www.airbnb.com/saraburi ขึ้นมาโดยเฉพาะมีข้อมูลท่องเที่ยวในจังหวัดสระบุรีในรูปแบบสองภาษาคือภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยลิงก์บ้านพักและประสบการณ์ของ Airbnb ในจังหวัดสระบุรีและบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
ด้าน นางมิช โกห์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Airbnb กล่าวว่า Airbnb ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะกระจายผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนนอกเหนือจากเมืองใหญ่ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของทางรัฐบาล Airbnb มีความยินดีที่จะเปิดเผยว่าจังหวัดสระบุรีเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่สำหรับนักเดินทาง Airbnb ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่พร้อมด้วยเจ้าของที่พักที่อยากแบ่งปันที่พักและวิถีชีวิตชุมชน ตลอดจนประสบการณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าสนใจอีกมากมาย เรามุ่งมั่นที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วประเทศอย่างต่อเนื่องในการประชาสัมพันธ์จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ในประเทศไทย
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยว่า ในนามของกรมการพัฒนาชุมชน เรารู้สึกยินดีกับการที่ Airbnb ได้ช่วยสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และสร้างเสริมความเข้มแข็งให้แก่เจ้าของที่พักโฮมสเตย์ในสระบุรีที่มีความกระตือรือร้นที่จะแบ่งปันวิถีชีวิตให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยการริเริ่มดังกล่าวนี้ เราจะใช้เป็นต้นแบบนำไปขยายผลในชุมชนอื่นๆ พร้อมกับการสนับสนุนให้เกิดความพร้อมเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว เพราะเราอยากเห็นชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเผยแพร่เสน่ห์ ความสวยงาม สิ่งที่ดีๆ ของไทย รวมทั้งทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็งและยั่งยืนอีกด้วย(นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดย Airbnb ได้ประกาศความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นครั้งแรกในปี 2561 เพื่อสนับสนุนเจ้าของที่พักโฮมสเตย์ และส่งเสริมการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน)
ด้าน นายสำเนียง สิมมาวัน ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตกองพัฒนาและส่งเสริมการบริหารงานท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเสริมว่า การทำงานร่วมกับ Airbnb เป็นการช่วยให้โฮมสเตย์หรือบ้านพักที่มีห้องว่างไม่เกิน 4 ห้อง หรือผู้เข้าพักไม่เกิน 20 คน ของคนไทยที่ขาดศักยภาพในการประชาสัมพันธ์ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น และช่วยส่งเสริมให้เจ้าของโฮมสเตย์ไทยสามารถมอบประสบการณ์ท้องถิ่นไทยที่แท้จริง เราหวังที่จะเห็นคนไทยเริ่มทำธุรกิจโฮมสเตย์ของตนเองและได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวผนวกกับการสนับสนุนจาก Airbnb ด้วยแล้วผู้ประกอบการโฮมสเตย์ไทยจะสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวหลายล้านคนจากทั่วโลก
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากทั้งประเทศไทยและทั่วโลกต่างหันมาใช้บริการ Airbnb ซึ่งมีความต้องการอยากเข้าพักในบ้านพักท้องถิ่นที่มีความโดดเด่นและได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวอันแท้จริง โดยในปี 2561 มีผู้เข้าพักในประเทศไทยผ่าน Airbnb มากกว่า 1.9 ล้านคน และล่าสุดจำนวนผู้เข้าพักในจังหวัดสระบุรีมีการเติบโตถึง 115% จากปีที่ผ่านมา (อ้างอิงจากข้อมูลภายในของ Airbnb ระหว่างมกราคม – กรกฎาคม 2562)
จังหวัดสระบุรีอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 2 ชั่วโมง โดยมีการคมนาคมที่สะดวกไม่ว่าทั้งทางรถยนต์หรือรถไฟ ซึ่งตลาดหลักคือ นักเดินทางจากกรุงเทพฯ ในขณะที่ข้อมูลนักเดินทางส่วนใหญ่ที่เดินทางไปเยือนสระบุรีมากที่สุดปัจจุบันคือ ไทย, สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ และ สหราชอาณาจักร ตามลำดับ
จากแรงขับเคลื่อนของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความพิเศษของ Airbnb ที่สามารถทำให้การท่องเที่ยวในทุกๆ วันกลายเป็นการเดินทางที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร รวมทั้งสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากออก เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเจ้าของบ้านพักในสระบุรีมีความภูมิใจที่ได้เปิดบ้านของตัวเองเพื่อแสดงวัฒนธรรมบ้านเกิดให้กับผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลก จากฐานข้อมูลภายในของ Airbnb เจ้าของที่พัก Airbnb ในสระบุรี 70% ได้รับการรีวิวระดับ 5 ดาวจากผู้เข้าพัก ส่วนเจ้าของที่พักเองก็ให้คะแนนผู้เข้าพักโดยเฉลี่ย 5 ดาว
Airbnb ใช้เทคโนโลยีและการเข้าถึงคนทั่วโลก พร้อมร่วมมือกับเจ้าของที่พักท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ ในการช่วยส่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่นและเศรษฐกิจในจังหวัดสระบุรีในการโปรโมทการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
จังหวัดสระบุรีและบริเวณใกล้เคียงพร้อมมอบประสบการณ์ที่พักและประสบการณ์อันหลากหลาย อาทิ
- บ้านบ้าน โฮมสเตย์
- บ้านกลางสวน
- คลีนฟาร์ม
- บ้านธิดา เรือนไทย ริมน้ำ
- บ้านสวนบัวอยู่ประนอมใจ
- ดวงยี่หวา โฮมสเตย์
อ.ไพวัลย์ ศรีศิลป์ อายุ 56 ปี หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจ บ้านบ้าน โฮมสเตย์ ในพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี เล่าถึงความเป็นมาของการทำธุรกิจนี้จากความไม่ตั้งใจ โดยการปลูกบ้านไม้ทรงไทยซึ่งเป็นความชอบส่วนตัวกับสามี ซึ่งตั้งใจจะปลูกบ้านเพื่อให้ลูกหลานได้มาอยู่อาศัย แต่ปรากฎว่าต่างคนต่างมีงานทำและได้ไปอยู่อาศัยในที่ทำงาน จึงต้องอยู่กันเพียง 2 คน ซึ่งพื้นที่บริเวณบ้านกว้างขวางเกินไป
จึงทำให้เกิดแนวคิดการที่จะทำเป็นธุรกิจโฮมสเตย์ขึ้น โดยการสนับสนุนของ Airbnb ในการฝึกอบรมให้ความรู้ และด้วยศักยภาพของพื้นที่ชุมชนแห่งนี้ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความเป็นธรรมชาติ บริเวณรอบๆ บ้านรายรอบไปด้วยท้องทุ่งนาข้าว และยังใกล้แหล่งอาศัยของค้างคาวแม่ไก่ สวนผักผลไม้บริเวณรอบบ้าน จนค่อยๆ ต่อยอดไปเป็นกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำอาหารพื้นบ้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถทำเองได้โดยทาง อ.ไพรวัลย์จะเป็นผู้สอนให้
สำหรับการตกแต่งบรรยากาศของ บ้านบ้าน โฮมสเตย์ จะเน้นไปที่ความเรียบง่าย เงียบสงบ มีความสะอาดน่าอยู่อาศัย โดย อ.ไพวัลย์พยายามจัดบรรยากาศภายในบ้านให้มีความอบอุ่นเป็นกันเอง เหมือนได้อยู่ในบ้านของตนเองพร้อมทั้งครอบครัว
ในส่วนของเมนูอาหาร อ.ไพรวัลย์บอกว่าจะดูก่อนว่าลูกค้ามีข้อจำกัดในเรื่องของการรับประทานอาหารในเรื่องใดบ้าง เช่น ทานเผ็ดได้หรือไม่ หากทานเผ็ดไม่ได้ก็จะปรับเปลี่ยนเมนูในเหมาะสมกับกลุ่มนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการสาธิตหรือสอนทำอาหารพื้นบ้านให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย เช่น สอนการทำน้ำสมุนไพรอย่างน้ำใบเตย อัญชัญ การทำอาหารพื้นบ้าน หรือแม้แต่พาลงสวนผักและผลไม้ที่ทางบ้านบ้านโฮมสเตย์ตั้งใจอย่างมากเพื่อให้นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมทำระหว่างวัน หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินชมหรือขี่จักรยานชมวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ก็สามารถทำได้ โดยในบริเวณพื้นที่ของชุมชนจะมีค้างคาวแม่ไก่รอนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย
อ.ไพรวัลย์บอกว่า บ้านบ้าน โฮมสเตย์สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวจำกัดจำนวนเพียง 4 คนเท่านั้น เพราะต้องการที่จะดูแลได้อย่างทั่วถึง ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยและคนญี่ปุ่นที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยส่วนใหญ่กลุ่มนักท่องเที่ยวจะมาพักกันเป็นครอบครัว หรือในกลุ่มเพื่อนๆ เป็นต้น
สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยวพักผ่อนในแนวนี้สามารถดูรายละเอียดของโฮมสเตย์อื่นๆ ได้จากทางเว็บเพจ http://www.airbnb.com/saraburi รับรองว่าคุณจะชื่นชอบและประทับใจในบรรยากาศที่หาได้ยากยิ่งในสังคมเมือง ลองติดตามดูนะคะ
เจาะโอกาสธุรกิจ “โฮมสเตย์” สระบุรี