รายได้ต่อเดือนของคุณไม่พอใช้ ไม่มีเงินเก็บไม่มีเงินออม ใช้เงินตามอารมณ์ บางครั้งก็ต้องหยิบยืมผู้อื่นใช่หรือไม่? ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งที่คุณตอบว่า “ใช่” นั่นหมายถึงเส้นทางในการดำเนินชีวิตของคุณไม่มั่นคงเสียแล้ว ต่อให้คุณมีเงินมากมายเท่าไร ก็ไม่อาจหลุดพ้นวงจรนี้ได้ ตราบใดที่ยังขาดวินัยทางการเงิน ถึงเวลาต้องปฏิวัติตัวเองช่วงปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้น ถ้ายังนึกไม่ออกว่าจะเริ่มอย่างไร เรามีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน
จัดสรรปันส่วน
รายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือน แนะนำให้แบ่งเงินออกเป็น 5 ส่วนดังนี้
1.เงินออม
เงินก้อนนี้เอาไว้ใช้หลักจากเกษียณ จัดสรรง่ายๆ ด้วยการเปิดบัญชีฝากประจำ เมื่อเงินเดือนเข้าให้หักเงินออมไว้ 10% ของเงินเดือน
2.เงินสำหรับชำระหนี้
เงินเดือนเข้าเมื่อไรต้องจ่ายให้ครบทันที ทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต โดยเฉพาะบัตรเครดิตที่เรารู้กันอยู่ว่าดอกเบี้ยมหาโหดเพียงใด อย่างน้อยก็ควรจ่ายขั้นต่ำ และทางที่ดีไม่ควรมีบัตรเครดิตเกิน 2 ใบ หากยังไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายของตัวเองได้
3.เงินลงทุน
หรือเรียกว่าการใช้เงินทำงาน แบ่งเพื่อใช้ในการลงทุนรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นหุ้น ซื้อพันธบัตร หรือซื้อประกันออมทรัพย์ เพื่อทำให้เงินงอกเงย อย่างไรก็ตามการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
4.เงินสำรองฉุกเฉิน
เรื่องไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น การเจ็บป่วยทั้งตัวคุณเอง และคนในครอบครัว เป็นต้น เงินส่วนนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้คุณสามารถชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ควรเก็บเงินสำรองไว้ใกล้ตัว เมื่อถึงเวลาเดือดร้อนก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที หรือถ้าไม่ฝากธนาคารก็ควรฝากแบบออมทรัพย์ ไม่ควรฝากประจำ
5.ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนั้นได้แก่ ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า งานสังสรรค์ต่างๆ ในแต่ละเดือนควรกำหนดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ชัดเจน เพราะคนส่วนใหญ่จะเผลอฟุ่มเฟือยในส่วนนี้มากที่สุด ซึ่งจะทำให้กระทบกับเงินส่วนอื่นๆ
หนทางสู่วินัยทางการเงินอย่างยั่งยืน
เมื่อจัดสรรปันส่วนเงินในแต่ละเดือนลงตัวแล้ว การสร้างวินัยก็ไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงมีความมุ่งมั่นตั้งใจ และทำอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจาก
1.ทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย
พกสมุดเล่มเล็กๆ ไว้กับตัวเอง เพื่อจดรายจ่ายทุกรายการเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินแค่บาท สองบาท คุณจะรู้ว่าในแต่ละเดือนคุณจ่ายไปกับสิ่งจำเป็นเท่าไร และไม่จำเป็นเท่าไร แล้วในเดือนถัดมาสามารถตัดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกได้เท่าไร
2.ออมอย่างมีความสุข
ถ้าเครียดกับการออมเงินจนเกินไป จะกลายเป็นกดดันตัวเอง ส่งผลให้ไม่มีความสุข ดังนั้นควรสร้างความยืดหยุ่นแผนการใช้เงิน ให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
3.เคลียร์หนี้ให้หมดในเร็ววัน
การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ก่อนที่จะแบ่งเงินเพื่อการออม หรือการลงทุนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แนะนำว่าอย่าสร้างหนี้ใหม่และรีบเคลียร์หนี้เก่าให้หมดก่อน เพราะคุณต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ทุกเดือน ซึ่งดอกเบี้ยทั้งปีอาจจะมากกว่ายอดหนี้เสียอีก ถ้าคุณปราศจากหนี้ หนทางในการออมของคุณก็จะปลอดโปร่งขึ้น