“วีรศักดิ์” สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำแผนพัฒนาธุรกิจบริการปี 63 เจาะตลาดดันกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุเป็นพระเอก รองรับสังคมผู้สูงอายุโต มั่นใจยังมีโอกาสในผู้บริโภคกลุ่มนี้อีกมาก เร่งชี้ช่องผลักดันให้ ธุรกิจร้านอาหาร ดูแลผู้สูงอายุ บริหารทรัพย์สิน และเสริมสวย ออกผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อบริการแก่กลุ่มสูงวัย รวมถึงเตรียมหลักสูตรพิเศษ เรียนจบแล้วมีผลิตภัณฑ์ใหม่ตอบโจทย์ตลาดพร้อมออกขายทันที
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดกิจกรรม “การพัฒนาศักยภาพการตลาดธุรกิจสู่สังคมผู้สูงอายุ” หรือ DNA Business Camp เดินหน้าขยายตลาดของธุรกิจบริการภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ ไปยังกลุ่มผู้สูงอายุ ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหาร ,ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ , ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน และธุรกิจเสริมสวย เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2563 ที่คาดว่าจะมีผู้สูงอายุมากถึง 12.6 ล้านคน หรือ 19.22% ของประชากรในประเทศ หากธุรกิจสามารถออกผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อบริการแก่กลุ่มผู้สูงอายุ ก็จะมีโอกาสขยายธุรกิจได้เพิ่มขึ้น
โดยธุรกิจร้านอาหารในตลาดผู้สูงอายุ จะผลักดันการสร้างสรรค์เมนูเฉพาะผู้สูงอายุ หรืออาหารที่สามารถรับประทานเพื่อควบคุมโรคในวัยของผู้สูงอายุ เช่น ความดันสูง เบาหวาน และหัวใจ เป็นต้น โดยมีโภชนาการของอาหาร การใช้วัตถุดิบ ปริมาณอาหาร และสารอาหาร ที่เหมาะสม เพราะยุคนี้ ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงและใช้งานอุปกรณ์การสื่อสารได้คล่องตัว จึงเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
สำหรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ที่ปัจจุบันมีอัตราการเติบโตมากขึ้นและกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบที่พักระยะสั้นหรือระยะยาว สถานพักฟื้น และอาคารชุดสำหรับผู้สูงอายุ จะผลักดันให้มีมาตรฐานสากลเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2561 มีธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่จดทะเบียนนิติบุคคล จำนวน 273 ราย มีรายได้จำนวน 175.24 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจบริการสาขานี้ ยังมีโอกาสสำหรับผู้ประกอบธุรกิจอีกมากมายที่จะกระโดดเข้ามาสู่ตลาดผู้สูงอายุ
ส่วนธุรกิจบริหารทรัพย์สิน เป็นธุรกิจต่อเนื่องจากธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จะผลักดันให้มีการบริหารจัดการนิติบุคคลส่วนกลาง เช่น อาคารชุด คอนโดมิเนียม ให้มีระบบระเบียบและมีมาตรฐาน เพื่อให้สามารถเข้ามามีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการให้เกิดความเรียบร้อย และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคมผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจเสริมสวย ซึ่งเป็นธุรกิจที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ใกล้ชิดกับชุมชน รวมถึงมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ผ่านมาได้ส่งเสริมให้ร้านเสริมสวยสามารถพัฒนามาตรฐานการให้บริการได้แบบมืออาชีพไปแล้ว จะพัฒนาให้รองรับพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่มีเวลาส่วนตัวมากกว่ากลุ่มคนวัยทำงาน และจะใช้เวลาว่างนี้ไปร้านเสริมสวยเพื่อดูแลความสวยงามของตนเองและสร้างความผ่อนคลาย จึงเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจที่จะสร้างบริการเฉพาะผู้สูงอายุขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายพร้อมดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ให้เข้าร้านได้มากขึ้น