ก้าวเข้าสู่ปีพุทธศักราชใหม่ 2563 “ปีชวด” แน่นอนว่าแฟรนไชส์ยังคงเป็นธุรกิจเนื้อหอมที่ยังรอให้นักธุรกิจหรือนักลงทุนเช่นคุณเข้ามาศึกษาถึงโอกาสและช่องทางที่จะสร้างกำไรและรายได้ให้คุณอย่างเป็นกอบเป็นกำ
จากปัจจัยแง่บวกไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐยังคงให้การสนับสนุน Start Up ธุรกิจเอสเอ็มอีและแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง จึงไม่ต้องวิตกกังวลเลยว่าธุรกิจที่คุณลงมือจะสำเร็จหรือไม่อย่างไร เพียงคุณตอบคำถามก่อนว่า คุณพร้อมหรือยังที่จะเดินหน้าขยายธุรกิจในวิถีแฟรนไชส์อย่างที่ควรจะเป็น
จากบทความของ อ.จิรภัทร สำเภาจันทร์ ที่ปรึกษาการตลาดและธุรกิจแฟรนไชส์ ได้กล่าวถึงโอกาสและความพร้อมของการเดินหน้าเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ในศักราชใหม่ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้
ว่ากันด้วยเรื่องของการขับเคลื่อนธุรกิจแฟรนไชส์ของภาครัฐตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งปี 2563 นี้ โดยภาครัฐก็พยายามสนับสนุนธุรกิจ Start Up ธุรกิจเอสเอ็มอีและแฟรนไชส์กันอย่างต่อเนื่อง โดยงานรัฐบาลที่ดูแลภาคเศรษฐกิจ ก็พยายามประโคมโหมกระพือเรื่องเศรษฐกิจฟื้นแล้วๆ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น (ที่ปลุกไม่ขึ้นมานานมาก) ให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการเปิดตัวเลขการส่งออกที่ดีเติบโตสูงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หรือข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศไทยสูงสุดในรอบหลายปี รวมถึงตลาดหุ้นที่พุ่งทะยานในเชิงบวก เป็นต้น
ด้วยสัญญาณเศรษฐกิจที่ดี และรัฐบาลพยายามอัดงบการลงทุนพื้นฐาน จนกระทั่งภาคเอกชนมีการลงทุนอัดเข้ามาเสริม เมื่อเป็นเช่นนี้จะส่งผลให้การลงทุนภาค SMEs กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งธุรกิจแฟรนไชส์ก็ย่อมเติบโตตามไปด้วยเช่นกัน
ในการลงทุนทำธุรกิจSMEs ของคนรุ่นใหม่ นอกจากขยายโดยทำธุรกิจออนไลน์ซื้อมาขายไปแล้ว ธุรกิจแฟรนไชส์ ยังเป็นแนวโน้มที่ยังขยายตัวได้อีกมากทีเดียว และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างสูงในอนาคต สิ่งที่อยากจะฝากบอกไปยังผู้อ่านทุกท่าน คือ ธุรกิจสามารถเลือกวิถีแฟรนไชส์ นำมาใช้ในการขยายตลาด ขยายพื้นที่ ขยายหน้าร้าน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผมอยากเสนอให้ท่านลองพิจารณาว่าธุรกิจของท่านสามารถขยายแฟรนไชส์ได้หรือไม่ โดยมีหลักเกณฑ์พิจารณาดังนี้
1.ธุรกิจแฟรนไชส์ ไม่ใช่ความสามารถพิเศษส่วนบุคคล ถ้าธุรกิจท่านไม่ใช่งานที่พึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวสูงที่ลอกเลียนแบบได้ยาก สอนกันยากและสอนกันนานแล้วละก็ สามารถพัฒนาเป็นแฟรนไชส์ได้ครับ แต่ถ้าท่านเป็นหมอดูที่มีชื่อเฉพาะทางที่มีคนศรัทธา เป็นแพทย์ที่ต้องไปร่ำเรียนเทคนิคพิเศษที่ยากสุดๆ อันนี้ระบบแฟรนไชส์คงไม่ตอบโจทย์ (แต่ธุรกิจส่วนใหญ่สามารถขยายด้วยระบบแฟรนไชส์ได้)
2. ธุรกิจที่ท่านทำต้องการผู้ร่วมขยายงานที่ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องธุรกิจนี้มาก่อน แต่สามารถวางระบบให้ทำงานได้ และบางส่วนสอน อบรม ถ่ายทอดความลับทางการค้า ให้เรียนรู้ได้ เช่น ถ้าเป็นธุรกิจอาหาร แต่ท่านสามารถออกแบบระบบให้ครัวที่ร้านไม่จำเป็นต้องทำกับข้าว โดยใช้ฝีมือพ่อครัวระดับชั้นยอด เพราะออกแบบให้มีซอสพิเศษแสนอร่อย และการเตรียมอาหารบางส่วนมาแล้ว ทำให้คนธรรมดาๆ เรียนรู้วิธีทำอาหารของร้าน จนกระทั่งได้รสชาติมาตรฐาน เหมือนๆ กันทุกจาน ก็เป็นอันใช้ได้
3.ถ้าธุรกิจของท่านต้องการขยายตัวให้รวดเร็ว แต่ไม่ต้องการกู้เงิน หรือขยายเพิ่มทุนจำนวนมากๆ มารองรับการขยายงาน ระบบแฟรนไชส์เป็นวิธีที่ใช้เงินลงทุนในการจัดวางระบบ และเปิดร้านของตนเองจำนวนหนึ่ง และสาขาที่เหลือก็ขยายด้วยระบบแฟรนไชส์ ทำให้ใช้เงินนักลงทุนมาเปิดสาขาของธุรกิจ และตัวธุรกิจเองก็ได้เงินทุนมาจัดแจงดูแลสาขาใหม่จากเงินของนักลงทุนเอง
4.ธุรกิจแฟรนไชส์มองกระบวนการมากกว่าตัวสินค้า ในธุรกิจแฟรนไชส์ จะต้องจัดกระบวนการให้รองรับต่อการบริหารจัดการที่แบ่งหน้าที่ระหว่างแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี และทำกระบวนการให้ราบรื่น ประทับใจลูกค้า แม้สินค้าจะไม่ถึงขนาดดีสุดยอด แต่ก็ดีตามระดับมาตรฐานที่ผู้บริโภคคาดหวัง และสร้างประสบการณ์ที่ดี ที่มีสาขาจำนวนมากรองรับ
5.ธุรกิจแฟรนไชส์ คือ ช่องทางการจัดจำหน่ายที่มากกว่าแค่ตัวแทนจำหน่าย ยกตัวอย่าง ถ้าธุรกิจท่านต้องการแค่หน้าร้านขายของ ก็อาจนำสินค้าไปฝากขาย หาหน้าร้านในห้างโมเดิร์นเทรดมาช่วยขาย แต่แฟรนไชส์ต้องใส่ Shop Brand (ตรายี่ห้อร้านค้า) และกระบวนการให้บริการ เข้ามาทำให้มีอะไรมากกว่าแค่สินค้า ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายเลือกพัฒนาธุรกิจให้ขยายด้วยระบบแฟรนไชส์ เพื่อลดการแข่งขันและการบีบคั้นในช่องทางขายผ่านโมเดิร์นเทรดที่นับวันๆ จะเรียกผลประโยชน์จากผู้ผลิตมากขึ้น และมีคู่แข่งในชั้นวางมากขึ้น
6.ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ทำได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเลือกพัฒนาธุรกิจให้เป็นแฟนเข้ามาใช้บริการ หาหน้าร้านในห้างมาช่วยขายแม้จะไม่ถึงขนาดดีสุดยอดแต่ก็ดีตามระดับมาตรฐาน จริงอยู่ที่ธุรกิจอาหารนิยมใช้ระบบแฟรนไชส์ในการขยายสาขา แต่จริงๆ แล้วธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็สามารถขยายด้วยระบบแฟรนไชส์ได้เช่นกัน เช่นในสหรัฐอเมริกา มีแฟรนไชส์ นิติบุคคลบริหารอาคารชุด ซึ่งมีขนาดธุรกิจหลายพันล้านเหรียญเลยทีเดียว
7.ธุรกิจแฟรนไชส์จะโตได้ต้องเริ่มจากการวางระบบภายในให้ดีและพร้อม ไม่ใช่เริ่มจากการขายแฟรนไชส์โดยยังไม่พร้อม โดยในธุรกิจที่น่าสนใจแปลกใหม่ไฟแรง มักมีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์โดยยังไม่พร้อม ถ้าใจอ่อนขายแฟรนไชส์ไปโดยไม่พร้อม ก็จะได้ทั้งเงินและปัญหาตามมาได้ ดังนั้นธุรกิจท่านที่จะขยายแฟรนไชส์ต้องเริ่มจากการวางกลยุทธ์ที่ดี ก่อนเปิดขยายแฟรนไชส์
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกท่านพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนว่า ธุรกิจท่านพร้อมเลือก วิถีแฟรนไชส์ เป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจหรือไม่ ถ้าใช่ เตรียมตัวพร้อมและลุยเลยครับ
ขอขอบคุณบทความธุรกิจจาก : อ.จิรภัทร สำเภาจันทร์ ที่ปรึกษาการตลาดและธุรกิจแฟรนไชส์
และขอขอบคุณที่มาจาก : สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (FLA)