ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ในฐานะผู้นำด้านพื้นที่การจัดนิทรรศการและการประชุมในระดับประเทศและภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับความสำเร็จตลอดระยะเวลา 2 ทศวรรษของการดำเนินกิจการ และในปี 2563 นี้ ไบเทคพร้อมเดินหน้าเพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางงานไมซ์ (Meeting, Incentive, Conventions and Exhibitions: MICE) ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยแผนกลยุทธ์และการเตรียมพร้อมองค์กรอย่างเข้มข้น ตั้งเป้าอัตราการใช้พื้นที่จัดงานภายในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2562 โดยมุ่งเน้นการเจาะตลาดการจัดงานสัมมนาและการประชุมระดับนานาชาติ ที่คาดการณ์ว่าจะได้ต้อนรับงานประชุมระดับโลกที่สำคัญเพิ่มขึ้นในศักราชนี้
กลยุทธ์ที่ไบเทคใช้ในการดำเนินงานเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากการพัฒนาพื้นที่การจัดงานนิทรรศการและการประชุม อาทิ “ภิรัช คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์” และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้จัดงาน และผู้มาร่วมงานที่ศูนย์ฯ แล้ว ไบเทคยังเล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน จึงได้จัดสรรพื้นที่บริการในลักษณะ “Mix used complex” ด้วยการผสมผสานพื้นที่ใช้งานให้มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งเป็นสำนักงาน พื้นที่พักผ่อน หรือร้านค้าปลีกต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการที่คนรุ่นใหม่ต้องการทำกิจกรรมหลายๆ อย่างในช่วงเวลาและสถานที่เดียวกัน
นอกจากนี้ การพัฒนาด้านการให้บริการที่ไบเทคยึดถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจกับกลยุทธ์ “Smart Service” ที่ประกอบไปด้วย
• Smart Location: ด้วยความได้เปรียบในเรื่องสถานที่ตั้ง ที่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ และพื้นที่อีสเทิร์นซีบอร์ด
• Smart Accessibility: ความสะดวกสบายในการเดินทางมาที่ไบเทค ด้วยทางเชื่อม Skywalk จากสถานีรถไฟฟ้า BTS
• Smart Service: การให้บริการในด้านต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้นความประสงค์จะใช้ศูนย์ฯ ไบเทคเป็นสถานที่จัดงาน จนกระทั่งเสร็จสิ้นงาน
• Smart Facility: การให้บริการลูกค้าด้วยระบบ Digital Platform ที่มีความทันสมัยและสะดวกต่อการให้บริการลูกค้าในยุคปัจจุบัน มาพัฒนาเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการให้บริการ อาทิ Application ที่สามารถสำรองที่จอดรถล่วงหน้า เป็นต้น
นางสาวปนิษฐา บุรี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางไมซ์ที่สำคัญ กอปรกับแผนงานทางธุรกิจของไบเทคที่มีเป้าหมายการเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของการจัดงานไมซ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทางศูนย์ฯ ได้พัฒนาศักยภาพในการให้บริการด้านต่างๆ บนพื้นฐานของการเป็นสถานที่จัดงานมาตรฐานระดับโลก ดังเช่นการขยายพื้นที่ให้บริการลูกค้าเพิ่มขึ้นจากเดิม 35,000 ตารางเมตร เป็น 70,000 ตารางเมตร ซึ่งเรียกว่าเป็น “Double Space and Double Capacity” เพื่อรองรับตลาดการจัดนิทรรศการและการประชุมทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการสร้าง Skywalk เชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้า BTS บางนา และอาคารภิรัชทาวเวอร์แอทไบเทค ที่เปิดให้บริการไปเมื่อปลายปี 2560 ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางมาร่วมงานที่ศูนย์ฯ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจของศูนย์ฯ เป็นอย่างมาก
“โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคมีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ด้วยอัตราการใช้พื้นที่เพื่อจัดงานนิทรรศการ การประชุม และสัมมนาภายในศูนย์ฯ ไบเทค จำนวน 139 งาน เฉลี่ยอยู่ที่ 42% และที่สำคัญคือไบเทคได้รับการยอมรับจากผู้จัดงานทั่วโลกที่เลือกไบเทคเป็นสถานที่สำหรับจัดงานสัมมนาและงานประชุมสำคัญระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง รวมถึงงาน World congress ระดับโลกถึง 4 งาน ได้แก่ IEEE PES GTD ASIA 2019, 8th Education International World Congress 2019, World Veterinary Poultry Association Congress 2019 และ World Environment Education Congress 2019
“และในปี 2563-2564 ศูนย์ฯ ไบเทค มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นสถานที่จัดงานสัมมนาและการประชุมที่น่าสนใจระดับ World Congress อีก 5 งาน อาทิ 40th World Universities Debating Championship 2020, Micronutrients Forum 5th Global Conference 2020, 20th International Congress for Tropical Medicine and Malaria (ICTMM) 2020, 20th World Congress of Psychiatry 2020, 21th PENSA Congress 2020 ที่เป็นการตอบย้ำถึงการตอบรับที่ดีถึงความเป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการและการประชุมในระดับสากล” คุณปนิษฐา กล่าวสรุป
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค หรือ Bangkok International Trade & Exhibition Centre: BITEC ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 88 ถนนเทพรัตน กิโลเมตรที่ 1 เขตบางนา กรุงเทพมหานคร โดยครอบคลุมทุกสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการจัดคอนเสิร์ตหรือไลฟ์สไตล์อีเว้นท์ สำหรับผู้ที่สนใจข่าวสารและการจัดงานต่าง ๆ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ เว็บไซต์ http://www.bitec.co.th/default-en.html หรือ โทร 02-726-1999