การจะเปิดร้านอาหารสักร้าน หลักการที่สำคัญหากอยากให้ร้านมียอดขายแบบปังๆ ก็คือ จะต้องตั้งอยู้บนทำเลที่เป็นแหล่งชุมชน หรือมีผู้คนพลุกพล่าน แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากในเรื่องทำเลแล้ว เราควรจะมององค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งร้าน การจัดวางโต๊ะเก้าอี้ ทิศทางการจัดวางห้องครัว สีสันร้าน ซึ่งร้านอาหารส่วนใหญ่จะนำเอาการศาสตร์ของ”ฮวงจุ้ย” มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับร้าน
ชี้ช่องรวย จึงขอนำเอาหลักการจัดร้านตามหลักการของศาสตร์ฮวงจุ้ยมานำเสนอ เผื่อใครที่มีแผนจะเปิดร้านอาหารจะขนาดเล็กไปถึงใหญ่ก็ตาม เพื่อนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวคุณ ดังนี้
ทำเล...เรื่องสำคัญของฮวงจุ้ย
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า “ทำเล” เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญสำหรับการเปิดร้าน และ "ฮวงจุ้ย" จะเข้าไปช่วยปรับความสมดุลของพื้นที่ในร้าน สำหรับร้านอาหารนั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่ "การเลือกทำเล" รองลงมาเป็นเรื่องของการจัดพื้นที่ให้เหมาะสมกับประเภทของร้านอาหารนั้นๆ ซึ่งใครที่มีแผนจะเปิดร้านอาหารจึงควรหาทำเลสำหรับเปิดร้านให้ได้ก่อน จากนั้นจึงคิดหาประเภทของอาหารที่จะขายให้เหมาะสมกับทำเลที่เราได้มา เพราะทำเลแต่ละแห่งก็มีความเหมาะสมกับการขายอาหารที่แตกต่างกัน ซึ่งในศาสตร์ฮวงจุ้ยได้แบ่งทำเลที่น่าสนใจสำหรับร้านอาหารเอาไว้ 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ร้านอาหารที่ต้องการคนที่ผ่านไปมามากๆ ได้แก่ ร้านอาหารตามสั่ง ร้านก๋วยเตี๋ยว ฟาสต์ฟู้ด กับร้านอาหารอีกประเภทหนึ่งคือ ร้านอาหารที่เน้นบรรยากาศ แม้จะมีผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่มีทำเลที่ตั้งเป็นพื้นที่เปิดโล่งและมีบรรยากาศสวยงาม
เทคนิคการจัดสมดุลของพื้นที่ภายในร้านอาหาร
การจัดพื้นที่ให้เหมาะสมถือว่ามีความสำคัญ โดยแบ่งเป็นพื้นที่หลักๆ ดังนี้
1.ห้องครัว
ปัจจุบันร้านอาหารที่จัดแบบครัวเปิดกำลังได้รับความนิยมค่อนข้างมากไม่ใช่เพียงเพราะความสะดวกในการจัดพื้นที่ แต่ยังสามารถโชว์การทำอาหารเพื่อดึงดูดสายตาของลูกค้า การจัดผังอุปกรณ์ให้เหมาะสม มีศิลปะสร้างแรงดึงดูดควรแก่การมองและสะดวกต่อการใช้งาน
2.พื้นที่หน้าร้าน
สิ่งแรกที่ต้องตระหนัก คือ จะขายอะไรต้องโชว์สิ่งนั้นให้ลูกค้าเห็น อีกทั้งเรื่องของการจัดวางโต๊ะแคชเชียร์ที่ควรหันหน้าออกไปทางหน้าร้าน ตำแหน่งด้านซ้ายคือ "มังกรเขียว" ด้านขวาคือ "เสือขาว" ในทางฮวงจุ้ยแล้ว ด้านซ้ายต้องนิ่ง และด้านขวาควรต้องเคลื่อนไหว ดังนั้น ตำแหน่งโต๊ะแคชเชียร์จึงควรตั้งด้านขวาทำมุมกับประตูเพื่อดักเงินทอง
3.การตั้งป้ายหน้าร้าน
ควรตั้งในลักษณะที่เรียกว่า "ตั้งป้ายให้ตัดมังกร" ซึ่งหมายถึงการตั้งป้ายให้สะดุดตา เพื่อกระตุ้นความสนใจของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ดังนั้น การตั้งป้ายที่ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของขนาด แต่ต้องมีความเหมาะสมกับพื้นที่ และสอดคล้องกับทิศทางการเดินของลูกค้าหรือทิศตัดมังกร
ไม้เด็ดสำหรับร้านอาหาร การทำกิจการร้านอาหารนั้นไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติเท่านั้นที่ต้องถูกปากลูกค้า รูปแบบการจัดตกแต่งร้านก็ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงด้วยอีกเช่นกัน ซึ่งตามศาสตร์แห่งฮวงจุ้ยนั้น ร้านอาหารที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีองค์ประกอบซึ่งถือเป็นอาวุธสำคัญ 5 อย่าง ได้แก่
1.รูปภาพ
ในที่นี้หมายถึง เอกลักษณ์ของร้าน เช่น การจัดครัวที่อยู่หน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าได้เห็นลีลาการทำอาหารของเชฟที่เต็มไปด้วยศิลปะและความสนุกสนาน หรืออาจนำภาพอาหารที่ให้บริการภายในร้านมาประดับตามผนัง สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการดึงดูดลูกค้าทั้งสิ้น
2.รสชาติ
ในธุรกิจร้านอาหาร รสชาติคือเรื่องที่สำคัญ อาหารอร่อยไม่ว่าร้านนั้นจะไปแอบซ่อนอยู่ที่ไหน ก็ยังมีคนตามเข้าไปกินแน่นอน
3.กลิ่น
ถือเป็นอาวุธระยะไกลเพื่อล่อลูกค้าให้มาเข้าร้าน ตัวอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟสตาบัคส์ ที่ใช้กลิ่นเป็นอาวุธล่อลูกค้าให้มาเข้าร้าน
4.เสียง
ได้แก่การใช้ดนตรีเพื่อสร้างบรรยากาศภายในร้านอาหาร บางครั้งรสชาติของอาหารอาจเป็นเรื่องรอง ถ้าหากลูกค้าต้องการมาเสพบรรยากาศภายในร้าน มากกว่าที่จะมารับประทานอาหาร
5.สัมผัส
ข้อนี้มีความหมายเช่นเดียวกับบรรยากาศ เป็นเรื่องของการดีไซน์ตกแต่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกผ่านทางสายตา และเมื่อลูกค้าก้าวเข้ามาในร้านก็จะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เจ้าของร้านต้องการสื่อผ่านฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ
ครัว... ตัวแทนแห่งความมั่งคั่ง
"ครัว" ตามแนวคิดของศาสตร์ฮวงจุ้ยเป็นการให้ความหมายแทนคำว่า "ความมั่งคั่ง" และคำว่าอาหารในภาษาจีนก็ออกเสียงอย่างเดียวกับคำว่า "มั่งคั่ง" เช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้วห้องครัวจึงเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความร่ำรวย ดังนั้นครัวที่ดีซึ่งถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแบบง่ายๆ ควรจะต้องมีองค์ประกอบ ดังนี้
1.การจัดวางพื้นที่การทำงานให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวก คล่องตัว
2.มีแสงสว่างที่เหมาะสม
3.มีการระบายอากาศที่ดี
ด้วยองค์ประกอบ 3 ข้อข้างบน ครัวแบบนี้จึงจะนำเงินทองมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ
"เตา" เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของครัว
เพราะเตาเป็นสัญลักษณ์ทางการเงิน หากใช้งานได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหา เงินทองก็จะไหลมาเทมาเข้าร้านได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าหัวเตาเกิดอุดตัน จุดไม่ติด ธุรกิจก็อาจติดขัดมีอุปสรรคนานัปการตามหัวเตาไปเลย สำหรับตำแหน่งของเตานั้นควรตั้งอยู่กลางห้อง และให้หันหลังให้ประตู การที่เตาไปตั้งอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งของห้องครัวนั้น ทางแก้คือการติดกระจกเงาหรืออลูมิเนียมฟอยล์ไว้ที่ผนังหลังเตา เพื่อเป็นการเสริมพลังให้แก่เตา เกิดพลังหมุนเวียนที่ดี แถมยังช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องครัวอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.mangpood.com