จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ในขณะนี้ หน้ากากอนามัยกลายเป็นที่ต้องการของประชาชน โรงพยาบาลจนสินค้าขาดตลาด ด้วยเหตุนี้ จ.สุรินทร์ จึงได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยนำเอา “ผ้าไหม” ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อประจำจังหวัดมาเพิ่มมูลค่าด้วยการนำมาทำเป็นหน้ากากอนามัย ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนผู้บริโภคเป็นอย่างดี
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 นอกจากสร้างภาวะตื่นกลัวการระบาดของโรคไปทั่วโลกแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาตามมาคือ หน้ากากอนามัยขาดแคลนทั่วประเทศ รัฐบาลมีนโยบายให้จังหวัดต่าง ๆ รณรงค์ให้ประชาชนทำหน้ากากอนามัยจากผ้าใช้เอง
จังหวัดสุรินทร์ซึ่งเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหม มีการทอผ้าไหมประมาณ 1,400 หมู่บ้าน จากจำนวนทั้งหมด 2,128 หมู่ จึงมีนโยบายรณรงค์ให้ชาวสุรินทร์ทำหน้ากากอนามัยจากผ้าไหม นอกจากป้องกัน COVID-19 แล้ว ยังส่งเสริมค่านิยมด้านแฟชั่นไทยสร้างมูลค่าเพิ่มให้ไหมสุรินทร์ สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน และเตรียมการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในสภาพซบเซาทั้งโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ นายรองรัตน์ จงอุตส่าห์ นายอำเภอท่าตูม ได้ประสานร้านสะเร็นอินดี้คราฟ ที่ตำบลโพนครก อำเภอท่าตูม ซึ่งผลิตของที่ระลึกงานบัวขาวมาราธอน ให้ลองทำหน้ากากผ้าไหมสุรินทร์ เพื่อจำหน่าย ขนาดยาว 23 ซ.ม. กว้าง 12 ซ.ม. เป็นผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ ราคาขายชิ้นละ 90 บาท ถ้าสั่งทำ 100 ชิ้น อย่างน้อย 1 สัปดาห์ได้หรืออาจเร็วกว่านี้
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถโทรศัพท์สั่งได้ที่หมายเลข 0937745416 มีหลากสีหลายลายให้เลือก
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์