ในขณะที่ผู้คนกำลังตระหนักและกังวลถึงสถานการณ์ COVOD-19 จนส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน และเราเริ่มจะเห็นการกักตุนอาหารและสิ่งของจำเป็นกันบ้างแล้ว ถึงอย่างไร ชี้ช่องรวย ก็ไม่อยากให้คุณคุณตื่นตระหนกพร้อมทั้งตั้งรับกับสถานการณ์อย่างมีสติ และจงเชื่อเสมอว่าสถานการณ์อันเลวร้ายนี้จะต้องผ่านพ้นไปอย่างแน่นอน
ที่ผ่านมา ชี้ช่องรวย ได้ชี้แนะแนวทางและบอกต่อแนวทางการอยู่อาศัยและการป้องกันแก่ผู้ที่ยังไม่มีความเสี่ยง วันนี้ สำหรับใครที่มีความเสี่ยงหรือกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงและจำเป็นจะต้องกักตัว เรามีวิธีการดูแลตัวเองและผู้คนในครอบครัวมาฝาก ดังนี้
หากรู้ตัวว่าคุณติดเชื้อไวรัส COVID-19 เข้าให้แล้ว สิ่งที่คุณจะต้องทำอย่างแรก คือ การตั้งสติ และเรียบเรียงขั้นตอนการปฏิบัติตัวอย่างเป็นขั้นตอน
โดยสิ่งที่คุณจะต้องห้ามทำเด็ดขาด มีดังนี้
1.ไม่ไปเรียน หรือไปทำงาน
2.ไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น
3.ไม่ใช้ขนส่งสาธารณะหรือแท็กซี่
4.ไม่ไปพบปะสังสรรค์ เข้าสังคม ทำกิจกรรม หรือไปที่คนพลุกพล่าน
5.ไม่เชิญใครมาบ้าน
6.ไม่ไปช้อปปิ้งซื้อของ ยุคสมัยนี้ คุณสั่งของออนไลน์ หรือให้คนอื่นเอาของมาส่งไว้ให้คุณได้
7.ไม่เข้าใกล้ผู้สูงอายุ คนที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์
8.ไม่ออกเที่ยว
เมื่อคุณปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้แล้ว ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำต่อมา มีดังนี้
1.อยู่บ้านในห้องที่มีอากาศถ่ายเท แยกตัวจากสมาชิกในบ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
2.คอยตรวจสอบอาการตัวเอง แจ้งแพทย์ทางโทรศัพท์ ถ้ามีอาการ หรืออาการหนักขึ้น
3.ใช้ทิชชู่ปิดปากเมื่อไอหรือจาม แล้วล้างมือด้วยวิธีที่ถูกต้อง
4.ใช้ของส่วนตัว อย่างเช่นผ้าขนหนู จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำ แยกจากคนอื่น
5.ทำความสะอาดห้องทุกวันด้วยน้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
ถ้าคุณไม่ได้อยู่บ้านคนเดียว
-ให้แยกตัวอยู่ในห้องที่มีหน้าต่าง มีอากาศถ่ายเท ถ้าเป็นไปได้แยกใช้ห้องน้ำ แต่ถ้าต้องใช้ร่วมกัน คุณควรเป็นคนสุดท้าย แล้วทำความสะอาดให้ เรียบร้อยหลังเสร็จธุระ ไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น นั่นหมายถึง จาน, แก้วน้ำ, ถ้วย, ช้อนส้อม, ผ้าเช็ดตัว และเครื่องนอน
มื้ออาหาร
-ถ้าเป็นไปได้ ให้คนเอาถาดอาหารมาวางให้คุณที่หน้าประตู เมื่อคุณทานเสร็จ เอาทุกอย่างใส่ถาด แล้ววางไว้ที่ประตูอุปกรณ์เหล่านี้ต้องล้างด้วยน้ำร้อนใส่น้ำยาล้างจาน ใส่ถุงมือยางเวลาล้างจาน ตาก จานชาม ช้อนส้อม ให้แห้ง ล้างถุงมือขณะที่ยังใส่อยู่ ล้างมือหลังถอดถุงมือออก
หน้ากากอนามัย
-ถ้าคุณต้องอยู่ห้องเดียวกับคนอื่น คุณต้องล้างมือก่อน แล้วจึงหยิบหน้ากากมาสวม ถ้าคุณไม่มี หน้ากาก ต้องอยู่ห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1 ถึง 2 เมตร และถ้าเป็นไปได้ ทุกคนที่อยู่ในห้อง ควรต้อง สวมหน้ากากด้วย
-อย่าสัมผัสด้านนอกหน้ากาก และล้างมือให้สะอาดหลังถอดหน้ากากออก และคุณไม่จำเป็นต้องใส่ หน้ากาก เมื่ออยู่คนเดียว
ล้างมือบ่อยๆ
-ล้างมืออย่างถูกวิธีและบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ปิดปากและจมูกด้วยกระดาษทิชชู เวลาที่คุณไอหรือจาม ทิ้งทิชชูแล้วล้างมือทุกครั้ง
ทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
-น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ขายในซุปเปอร์มาเก็ตส่วนใหญ่ สามารถใช้กำจัดไวรัส โคโรนาได้ ทำความสะอาดพื้นผิวเหมือนปกติ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือกระดาษ เปียกฆ่าเชื้อ
-พื้นผิวที่ว่านี้คือ: พื้นผิวโต๊ะและเคาท์เตอร์ทุกชนิด ลูกบิดประตู เครื่องสุขภัณฑ์ โทรศัพท์ คีย์บอร์ด อุปกรณ์มือถือ โต๊ะข้าวเตียง
-ถ้าเป็นไปได้ ใส่ถุงมือยางล้างทำความสะอาดด้วย ล้างถุงมือในขณะที่ยังใส่อยู่ และล้างมือหลังถอด แล้ว
ซักผ้า
-เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ใส่ถุงพลาสติกแยก ให้คนอื่นใส่ถุงมือมาเก็บจากหน้าห้อง ซักผ้าด้วยผงซักฟอกน้ำร้อนที่สุดเท่าที่เนื้อผ้าจะสามารถรับได้ ทำความสะอาดทุกพื้นผิวรอบเครื่องซักผ้า ล้างถุงมือขณะที่ยังใส่อยู่ ลงมือด้วยสบู่หลังถอดถุงมือ ถ้าเป็นไปได้ อบแห้งเสื้อ และรีดด้วยเตารีดไอน้ำ และอย่าเอาเสื้อผ้าไปซักที่ร้าน
การจัดการขยะ
-ใส่ทุกอย่างที่คุณใช้ ทั้งกระดาษทิชชู หน้ากากอนามัย ลงในถุงขยะพลาสติก ปิดถุงเมื่อขยะเต็มที่ 3 ส่วน 4 ของความจุถุง ซ้อนถุงขยะแล้วมัดปากถุงอีกรอบ ขยะจากการทำความสะอาด ใช้วิธีจัดการเดียวกัน อย่าปล่อยทิ้งไว้เกิน 72 ชั่วโมง หลังจากใส่ถุง 2 ชั้นแล้ว สามารถทิ้งรวมกับขยะทั่วไปได้
สื่อสารกับแพทย์สม่ำเสมอ
-ถ้ารู้สึกว่าอาการแย่ลง ให้โทรศัพท์ปรึกษาแพทย์
การดูแลเด็ก หรือบุคคลที่อยู่ระหว่างกักกันโรค
-ถ้าคุณต้องดูแลเด็กหรือคนอื่นที่ต้องการการดูแลระหว่างกักกันโรค อยู่ห่างจากกันให้ได้อย่างน้อย 1 เมตร และหลีกเลี่ยงการสัมผัส ใช้โทรศัพท์ในการสื่อสาร ล้างมือด้วยวิธีที่ถูกต้องทุกครั้ง หลังปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ถ้ามีหน้ากาก ใส่หน้ากากทั้งสองฝ่าย เวลาที่อยู่ในห้องเดียวกัน ถ้าต้องทำความสะอาดน้ำลาย หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ บนหน้าผู้ติดเชื้อ ใช้กระดาษทิชชู ทิ้งถังขยะทันที แล้วล้างมือให้สะอาด
-ให้ผู้ติดเชื้ออยู่ในห้องที่มีอากาศถ่ายเท
-จำกัดความเคลื่อนไหวผู้ติดเชื้อในบ้าน ถ้าเป็นไปได้ ใช้ห้องน้ำแยกกับผู้อื่น
-ใช้คนดูแลให้น้อยคนที่สุด ถ้าเป็นไปได้ ควรเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงเพียงคนเดียว
-ให้ผู้ติดเชื้ออยู่ห่างคนที่มีปัญหาสุขภาพและสตรีมีครรภ์
สภาพจิตใจ
การเข้าใจและมีข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่ถูกต้อง จะช่วยลดความวิตกกังวลและความกลัว พยายามใช้ชี วิตใก้ลเคียงปกติมากที่สุด
ทัศนคติบวกเป็นสิ่งสำคัญ คิดว่าจะรับมือสถานการณ์อย่างไร จำไว้ว่า การ กักกันตัวเอง ไม่ได้คงอยู่ ตลอดไป อย่าลืมที่จะสี่สารพูดคุยกับครอบครัว เพื่อนฝูง ถึงแม้เจอตัวกันไม่ได้ คุณก็ยังมีโทรศัพท์ มี สื่อโซเชียล
การกักกันตัวเอง แน่นอนว่ามีช่วงเวลาที่น่าเบื่อและหงุดหงิด อาจกระทบอารมณ์ความรู้สึกของคุณ เตรียมใจให้พร้อม นั่งคุยกับคนในครอบครัว และจะได้ใช้หรือไม่ วางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://today.line.me/TH/pc/article/9e6nzx?utm_source=copyshare
และขอขอบคุณที่มา : SpringNews