โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

บอกสูตร 5 สารพัด “ชากุหลาบ” ทำดื่มเองเพื่อสุขภาพก็ได้ หรือต่อยอดทำขายก็ไม่ผิด

สำหรับใครที่ชื่นชอบการดื่มชา โดยเฉพาะชากุหลาบที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องความหอม ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลาย แถมยังมีสรรพคุณในเรื่องการระบาย คุณสาวๆ ที่รักสุขภาพไม่ควรพลาดเลยนะคะ โดยชี้ช่องรวย ได้นำเอา 5 สูตรการชงชาที่ดีต่อสุขภาพมาให้ลองทำดื่มกันดู แล้วหาโอกาสเรียนรู้เผื่อจะได้ไปเปิดร้านขายชาสร้างรายได้เข้ากระเป๋ากันด้วยนะคะ

1.ชาดอกกุหลาบ-กระเจี้ยบ (สูตรเย็น)

มีฤทธิ์ช่วยในการระบายที่มากขึ้นจากดอกกระเจี๊ยบ มีรสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน แถมมีกลิ่นหอมๆ จากชากุหลาบด้วย

ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

1.ชาดอกกหุลาบอบแห้ง ประมาณ 8 ช้อนโต๊ะ

2.น้ำเชื่อมกระเจี๊ยบ 4-6 ช้อนโต๊ะ

3.น้ำเลมอน หรือ น้ำมะนาว2-3 ช้อนชา

4.น้ำแข็งตามชอบ

5.ผิวเลมอน หรือ มะนาวฝานซีก

วิธีทำน้ำชาดอกกุหลาบ

1.นำดอกกุหลาบอบแห้ง โดยชงในน้ำร้อนในแก้วหรือกากงชา ให้ลวกน้ำร้อนทิ้งก่อน 1 รอบเพื่อกระตุ้นให้ชามีกลิ่นหอมเสร็จแล้วพักไว้ 5-8 นาที

2.สกัดชาออกเหลือแต่น้ำชากุหลาบที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ

วิธีทำน้ำเชื่อมกระเจี๊ยบ

ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

1.กระเจี๊ยบอบแห้ง 1 ถ้วย

2.น้ำ 2 ถ้วย

3.น้ำตาล3/4 ถ้วย-1ถ้วย

4.เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ

1.นำทุกอย่างรวมกัน เคี่ยวไฟอ่อนจนน้ำตาลเดือดละลาย

2.กรองสกัดดอกกระเจี้ยบออกให้เหลือแต่น้ำ จะได้น้ำเชื่อมดอกกระเจี๊ยบอันหอมหวาน รสชาติที่ได้จะต้องเป็นรสชาติหวานอมเปรี้ยวนะคะ (เพิ่มลดความหวานได้ตามชอบใจ)

วิธีชงชาดอกกุหลาบ-กระเจี๊ยบ

-ผสมเลมอนหรือมะนาวที่เตรียมไว้ เพิ่มน้ำแข็งตามชอบใจ ตกแต่งแก้วด้วยเลมอน หรือ มะนาวฝาซีก

2.ชานมกุหลาบ (สูตรเย็น)

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1.ดอกกุหลาบอบแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ

2.น้ำร้อน 1 แก้ว

3.นมสดยี่ห้อที่ชอบ ½ ถ้วย (ถ้ากลัวอ้วนแนะนำเป็นสูตรพร่องมันเนย)

4.น้ำผึ้ง / หญ้าหวาน (ประยุกต์ใช้สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือผู้จำกัดน้ำตาล)

วิธีทำ

1.แช่ชาดอกกุหลาบลงในแก้ว หรือ กาน้ำชาในน้ำร้อน เทน้ำทิ้ง 1 รอบ เหลือแต่ชากุหลาบ เพื่อกระตุ้นให้ชามีกลิ่นหอม

2.เทน้ำร้อนลงไปใหม่ แช่ให้ท่วมดอกกุหลาบ พักไว้ 5-8 นาที แล้วสกัดชาออก ใส่แก้วพักไว้

3.ต้มนมสดจนเดือดเป็นฟอง เทใส่แก้วชากุหลาบ

4.เติมน้ำผึ้ง ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ

Tip : กรณีผู้ป่วยเบาหวาน หรือ ผู้จำกัดน้ำตาล สามารถนำหญ้าหวานใช้แทนน้ำผึ้งได้ โดยวิธีการทำน้ำหญ้าหวาน สกัดเหมือนชากุหลาบในข้อ1-2 ข้างต้น

3.ชานมกุหลาบสตรอเบอรี่ใส่บุก

ส่วนผสมสำหรับ 2 ที่

1.ดอกกุหลาบอบแห้ง 10-15 ดอก

2.น้ำร้อน 1 แก้ว

3.นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ (ปรับใช้ LOW SUGAR / น้ำผึ้ง / หญ้าหวานแทนได้รสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ได้ความหวานเหมือนกัน)

4.สตรอเบอรี่สด 1 ถ้วย

5.บุกต้ม ½ ถ้วย

วิธีทำ

1.สกัดชากุหลาบตามวิธีข้างต้น

2.ใส่ชากุหลาบผสมนมข้นหวานลงไป คนจนส่วนผสมให้เข้ากัน (ปรับเป็นน้ำผึ้ง/หญ้าหวานได้)

3.นำสตรอเบอรี่สดลงปั่นจนละเอียด กรองจนส่วนผสมเนียน

4.ใส่น้ำแข็งลงแก้วพร้อมเสิร์ฟ เติมนมกุหลาบลงไป3/4 ส่วน ใส่สตรอเบอรี่ลงไป ตามด้วยบุกให้เข้ากัน

TIP : กรณีผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้จำกัดน้ำตาล แนะนำให้ใช้หญ้าหวานแทน และไม่ต้องใส่บุก ให้ใส่เป็นลูกเดือยแทนได้

4.ชากุหลาบน้ำผึ้ง

สูตรนี้สำหรับคนธาตุหนัก ถ่ายยาก ช่วย DETOX ช่วยระบาย ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร้างกาย สูตรนี้เป็นสูตรสุขภาพนะคะ เนื่องจากไม่มีการเติมน้ำตาล เราจะใช้น้ำผึ้งในการให้ความหวานค่ะ

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1.ชาดอกกุหลาบ 1-2 ช้อนโต๊ะ

2.น้ำร้อน 1ถ้วย

3.น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าหอมหวานแนะนำ น้ำผึ้งยี่ห้อจิตรลดา หรือ น้ำผึ้งดอกลำไยแท้)

วิธีทำ

1.สกัดน้ำชากุหลาบตามวิธีข้างต้น

2.นำน้ำกุหลาบที่ได้มาผสมกับน้ำผึ้งแท้ (สามารถเพิ่ม-ลดปริมาณน้ำผึ้งได้ตามชอบ)

TIP : สูตรนี้ทานได้ทั้งร้อนและเย็น กรณีชงเย็นให้ใส่น้ำผึ้งเพิ่มลงไปได้ ตามชอบได้เลย และเติมน้ำแข็งลงไป

5.ชากุหลาบซีลอนผสมโกจิเบอรี่ (ร้อน และ เย็น)

สูตรนี้จะได้ความหอมหวานจากชากุหลาบ และ ยังได้รสชาติหวานอบเปรี้ยวอีกด้วย

ส่วนผสมสำหรับ 1 ที่

1.ชาดอกกุหลาบ 1-2 ช้อนโต๊ะ

2.ชาซีลอน 2 ช้อนโต๊ะ (แบบซองชงก็ใช้ได้คะ1-2 ซอง)

3.น้ำร้อน 2 ถ้วย

4.น้ำเชื่อมรสวานิลลา (ไม่มีใช้น้ำเชื่อมธรรมดาได้)

5.น้ำแข็ง(กรณีทำสูตรเย็น)

วิธีทำ

1.สกัดน้ำชาดอกกุหลาบตามวิธีข้างต้น

2.ผสมชาซีลอนลงไป เสร็จแล้วนำมาผสมกับน้ำเชื่อม

3.นำโกจิเบอรี่แช่ในน้ำร้อนให้นิ่มสักพักหนึ่ง

4.เอาโกจิเบอรี่มาผสมในน้ำชากุหลาบที่ผสมกับชาซีลอนเรียบร้อยแล้ว

5.เติมน้ำแข็ง เพิ่มความอร่อย

TIP : ใครกลัวอ้วน ให้เปลี่ยนจากน้ำเชื่อมเป็นน้ำผึ้งได้