วันนี้ ชี้ช่องรวย มีแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่วิธีนี้จะต้องทำก่อนเลิกงานหรือก่อนกลับบ้านนั่นเองมาดูกันว่ามีอะไรบ้างกับ 16 สิ่งที่ควรทำ "ก่อนเลิกงาน" เพื่อพัฒนาตัวเอง
1.ประเมินตัวเอง
เขียนลงในกระดาษแล้วประเมินดูตัวเองว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เขียนลงไปเหล่านั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน หากไม่จำเป็นก็ควรจะคัดออกและเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เพื่อลดปัญหากับการทำงานตามมาทีหลัง การวางแผนและการประเมินตัวเองก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จในอนาคต
2.ทบทวนตารางการทำงานล่วงหน้า
เช็คให้ดีว่าวันรุ่งขึ้นมีนัดหมาย การประชุมอะไรไว้รึเปล่า เพื่อเป็นการเตือนความจำล่วงหน้าและยังช่วยลดความเสี่ยงจากการผิดพลาดต่าง ๆ ได้
3.พูดคุยกับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน
ก่อนเลิกงาน หาเวลาสัก 5-10 นาทีคุยกับหัวหน้างานของเรา อัพเดทโปรเจคหรือความคืบหน้าของงานที่กำลังทำอยู่ หรือพูดคุย สอบถามเพื่อนร่วมงานของเราด้วยเช่นเดียวกัน หากมีการสื่อสารอยู่เสมอจะช่วยให้งานเสร็จได้ตามเวลา
4.ปัด กวาด เช็ด ถู
ให้เวลาอย่างน้อย 15 นาที ในแต่ละวันก่อนกลับบ้าน ทั้งทำความสะอาดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย และเช็คอีเมล์ของเราให้หมดว่ามีงานอะไรที่ตกค้างรึเปล่า หรืองานที่จะต้องทำในวันถัด ๆ ไป
5.เคลียร์งานให้เสร็จ
ในช่วงเวลาก่อนเลิกงานเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะหากมีงานค้างเยอะเช้าวันใหม่ก็จะกลายเป็นวันที่วุ่นวายสำหรับคุณ ถ้าหากคุณมีการวางแผนงานมาเป็นอย่างดีแล้ว จะช่วยให้การทำงานแต่ละวันนั้นงานไม่เยอะทับถมจนเกินไป
6.เอาใจใส่
อย่าเพิ่งกลับบ้านถ้าหากว่ายังไม่ได้ตอบอีเมล์ เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งมารยาทที่คนทำงานพึงกระทำ ไม่ใช่พอถึงเวลาเลิกงานแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านเลยทันที แต่ควรเอาใจใส่กับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ รวมทั้งหัวหน้างานอีกด้วยเพื่อเปลี่ยนให้บรรยากาศออฟฟิศเป็นเหมือนครอบครัว ๆ หนึ่ง
7.ทำสิ่งใหม่ๆ
การบริหารเวลาการทำงานดี ก็จะช่วยให้คุณเริ่มงานใหม่ในตอนเช้าได้อย่างสดใส พอทุกอย่างลุล่วงไปได้ด้วยดีคุณก็สามารถสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ มาได้ ดังนั้นการวางแผนทำงานหรือโปรเจคใหม่จะช่วยให้คุณสามารถก้าวหน้าทางอาชีพ และพัฒนาทักษะการทำงานได้อีกด้วย
8.มองย้อนดูในแต่ละวัน
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักลืมที่จะทำ หรือละเลย เพราะหากว่าไม่ได้กลับมาคิดทบทวนในสิ่งที่ทำลงไป อาจจะทำให้คุณกลับมาพลาดซ้ำที่จุดเดิมอีกก็เป็นได้ หรืออาจทำงานซ้ำ ทำให้เสียเวลามากกว่าเดิม
9.เขียนความสำเร็จ
เขียนอย่างน้อย 3 สิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน เพื่อเพิ่มกำลังใจในการทำงาน ไม่ใช่เพียงแค่คิดอยู่ในหัว แต่ให้เขียนลงบนกระดาษแล้ววัน ๆ หนึ่งกับการทำงานจะเป็นวันที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับคุณ
10.การบอกลา
ในชีวิตการทำงานสามารถสร้างให้เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันได้แล้วการทำงานของคุณก็ช่วยให้มีความสุขมากขึ้น และการบอกลาเพื่อนร่วมงานก่อนกลับก็เป็นอีกกิจวัตรนึงที่คุณควรกระทำ เพราะจะช่วยให้เชื่อมความสนิทสนมกันมากขึ้น รวมทั้งการทักทายในตอนเช้าด้วยเหมือนกัน อย่าลืมว่าเพื่อนร่วมงานของเรานั้นจะต้องทำงานด้วยกันไปตลอด ดังนั้นการเชื่อมสัมพันธ์ให้สนิทกันมากขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็น
11.การเรียงลำดับความสำคัญของการใช้อีเมล์และการใช้โทรศัพท์ที่ผิด
ถึงแม้คุณจะเตรียมตัวมาทำงานเป็นอย่างดี แต่ถ้าหากเรียงลำดับความสำคัญที่ผิดพลาด การทำงานในวันรุ่งขึ้นของคุณก็อาจจะยุ่งเหยิงในที่สุด ดังนั้นควรวางแผนให้ดีเพราะว่าบางครั้งอีเมล์อาจจะถูกมากใกล้กับเวลาเลิกงาน หรือเลิกงานไปแล้ว ควรเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลังโดยพิจารณาในแต่ละอีเมล์ว่างานไหนที่สำคัญกว่าและจำเป็นจะต้องส่งก่อนก็ควรจัดมาเป็นลำดับแรก ๆ ที่ควรตอบอีเมล์กลับ แต่ถ้าหากว่าจะต้องใช้เวลาในการทำโปรเจคตัวนี้นานหน่อย คุณอาจจะส่งตอบกลับไปวันเวลาจะทำเสร็จที่กำหนดให้ชัดเจน
12.กลับบ้านด้วยทัศนคติที่ดี
เขียนหรือจดบันทึกในแง่ดี ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน เพื่อนร่วมงานแล้วส่งให้เพื่อนร่วมงานของคุณ เพียง 2-3 ประโยคก็สามารถช่วยให้เพื่อนร่วมงานของคุณมีความสุขได้ และจะทำให้บรรยากาศการทำงานดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย
13.การตัดขาด
ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดโทรศัพท์มือถือ แต่อย่างให้ปิดระบบเตือนของอีเมล์เข้ามา จะได้ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงาน หาเวลาว่างติดต่อกลับสำหรับบางสายหรืออีเมล์ที่ยังไม่ได้ตอบกลับ หมายถึงธุระส่วนตัวที่ไม่ได้เกี่ยวกับงาน ซึ่งไม่จำเป็นถึงขนาดจะต้องตัดขาดทั้งหมดเพียงแบ่งเวลาให้ดี โดยเฉพาะเวลาทำงานก็ควรจะโฟกัสกับการทำงานให้เต็มที่
14.มีการวางแผนที่รอบคอบ
ความเครียดจากการวางแผนที่ไม่รอบคอบ หรือมีเวลาที่จำกัดมาก เวลาที่อยู่ในออฟฟิศอาจจะต้องลงมือทำงานซะมากกว่าคิดงาน ดังนั้นการคิดงานหรือวางแผนงานจึงไม่ได้ถูกจำกัดแค่ที่ออฟฟิศเท่านั้น แต่คือทุก ๆ ที่ที่เราสามารถคิดงาน วางแผนงานได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยลดความเครียดจากการทำงานได้ไม่มากก็น้อย เปลี่ยนบรรยากาศการวางแผนงานบ้าง เผื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ หรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
15.ปล่อยความเครียดไว้ที่ประตู
เมื่อคุณเดินออกจากประตู (ออฟฟิศ) ให้ทิ้งความเครียดไว้ข้างหลัง ให้ความเครียดมันจบลงแค่วันนั้น ๆ อย่าเก็บความเครียดมาใช้ในวันถัดไป สิ่งที่รอคุณอยู่ที่บ้านคือครอบครัว ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาความเครียดไปฝากครอบครัว แค่ให้มอบความสุขและความรักมาแทนที่
16.กลับบ้าน
ขั้นตอนสุดท้ายคือ เก็บของ ปิดไฟ กลับบ้าน !! ไม่จำเป็นจะต้องกลับบ้านเป็นคนสุดท้าย อย่ากลายเป็นคนที่บ้างาน เอาแต่ทำงานจนลืมแบ่งเวลาให้ส่วนอื่น ๆ การเป็นคนทำงานหนักนั้นดี แต่ถ้าหากทำงานหนักทุกเรื่องกับเรื่องที่ไม่จำเป็นอาจจะทำให้คุณต้องเหนื่อยเปล่า ดังนั้นควรกลับด้วยรอยยิ้มและความสุข พร้อมที่จะเริ่มงานวันใหม่อย่างสดใส
ขอบคุณข้อมูลจาก : jobsdb