โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

รวมแฟรนไชส์ “ขนมโตเกียว” ทางเลือกสร้างอาชีพสำหรับคนว่างงาน

ในช่วงที่ไวรัสโตวิด-19 กำลังระบาดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ส่งผลกระทบให้หลายๆ คนต้องตกอยู่ในภาวะคนว่างงาน หรือใครที่ออกจากงานมาแล้วและกำลังมองหาลู่ทางทำมาหากิน หรือมองหาแนวทางสร้างอาชีพเพื่อก้าวสู่การเป็นเจ้าของกิจการในอนาคต และเชื่อได้เลยว่าหลายคนจะต้องแอบมองๆ ธุรกิจแฟรนไชส์ไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างแน่นอน

ชี้ช่องรวย จึงอยากจะขอแนะนำแฟรนไชส์อาหารอย่างขนมโตเกียว ที่ใช้งบลงทุนไม่มาก มีระบบการบริหารที่ชัดเจน และไม่เป็นการยากในเรื่องการบริหารจัดการ เพราะเจ้าของแฟรนไชส์หรือแฟนไชส์ซอร์ได้วางรากฐานระบบการจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว โดยแฟรนไชส์ขนมโตเกียวมีหลากหลายแบรนด์ในเลือก โดยเราจะขอหยิบยกแฟรนไช?ขนมโตเกียวที่น่าสนใจมาเสนอ 3 แบรนด์ ดังนี้

1.บิ๊กโตเกียว by คุณเปิ้ล อัตราคืนทุนเฉลี่ย 1 เดือน

เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่น่าสนใจ จากการบุกเบิกเริ่มต้นธุรกิจของ คุณเจมส์ กฤติเดช อนันสลุง และ คุณเปิ้ล ขวัญสุดา สุริยบุตร จากเดิมที่ต้องการมองหาลู่ทางสร้างอาชีพเพิ่มเติม และสนใจรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์จึงไปศึกษาการทำแฟรนไชส์ในรูปแบบต่างๆ จนกลายมาเป็นบิ๊กโตเกียวที่มีสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน ปัจจุบันทำธุรกิจนี้มา 10 เดือน กับแฟรนไชส์กว่า 50 สาขา พร้อมได้ขยายสาขาแฟรนไชส์ออกไปต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง ลาว และเมียนมา

จุดเด่นของ บิ๊กโตเกียว อยู่ที่จำนวนเมนูที่มีให้เลือกมากถึง 9 สูตร ไม่ว่าจะเป็น รสดั้งเดิม รสซีฟู้ดต้มยำพริกเผา รสพิซซ่าซีฟู้ดชีส ครีมสตรอว์เบอร์รี่ ครีมฝอยทองลูกเกด โดยในแต่ละเมนูจะมีความแปลกใหม่ที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แบบฉบับบิ๊กโตเกียวเรียกได้ว่า ถ้าอยากกินขนมโตเกียวที่มีความแปลกใหม่ด้านรสชาติต้องมาที่ บิ๊กโตเกียวเท่านั้น

สำหรับประเภทการลงทุน บิ๊กโตเกียว มีให้เลือก 2 รูปแบบได้แก่ ขนาดเล็ก ด้วยเงินลงทุน 23,900 บาท และ ขนาดใหญ่ ด้วยเงินลงทุน 32,900 บาท โดยทั้ง 2 รูปแบบ ผู้ลงทุนจะได้คีออสและอุปกรณ์ครบชุด แต่จะแตกต่างกันที่ขนาดและจำนวนสินค้าที่จะได้รับ พร้อมด้วยระบบการเทรนนิ่งในด้านการทำรังสรรค์เมนูต่างๆ รวมถึงกลยุทธ์การทำธุรกิจ ซึ่งการลงทุนโดยใช้งบประมาณเท่านี้ถือว่าที่ไม่สูงมาก ผู้สนใจสามารถนำไปสร้างอาชีพสร้างรายได้ อีกทั้งระบบการจัดการไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย สามารถทำขายเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน

ในส่วนของการคืนทุนของผู้ซื้อแฟรนไชส์บิ๊กโตเกียวจะเฉลี่ยคืนทุนในระยะเวลา 1 เดือน หรือเร็วสุดเพียง 1 สัปดาห์ก็สามารถคืนทุนได้ เนื่องจากมีเมนูที่หลากหลาย ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้ง่าย แถมรสชาติยังอร่อยเข้มข้นถูกปากคนไทยอีกด้วย

บิ๊กโตเกียว ให้ความใส่ใจกับวัตถุดิบ อย่างเช่น การใช้เนื้อไก่เป็นส่วนผสมหลัก เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่ม มีการออกแบบจัดแต่งร้านที่สะดุดตา ยิ่งผู้ลงทุนรายใดมีทำเลดีก็จะช่วยสร้างผลกำไรได้มากขึ้น โดยกำไรต่อชิ้นจะอยู่ที่ 50% สิ่งที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องสั่งกับทางแบรนด์ก็จะมีเพียงแป้ง ซอส และแพ็คเกจจิ้งเท่านั้น

สนใจลงทุนแฟรนไชส์บิ๊กโตเกียวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร 081 780 6401
Line: https://line.me/ti/p/B0ht2XNPhI
FB: บิ๊กโตเกียว by คุณเปิ้ล

2.โลโซโตเกียว สร้างรายได้เสริม กำไรสูง 60%

ด้วยประสบการณ์ทำอาชีพขายโตเกียวมากว่า 10 ปี ของ คุณมานะ ฮาดสุวรรณ เจ้าของแฟรนไชส์ โลโซโตเกียว พร้อมขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เข้าสู่ปีที่ 4 ที่มีจุดเด่นในเรื่องการสรรสร้างความแปลกใหม่ โดยเฉพาะความหลากหลายของเมนูที่แตกต่างจากขนมโตเกียวทั่วไปกับความนุ่มแต่ไม่เหนียวของแป้งคุณภาพดี ซึ่งแม้จะซื้อไปนานแล้วแต่ก็ยังคงความนุ่มและรสชาติที่ยังดีอยู่

สำหรับรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์โลโซโตเกียว ในแบบชุดเริ่มต้นธุรกิจ ลงทุนเพียง 30,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ ได้แก่ คีออส และอุปกรณ์ครบเซ็ต พร้อมการสอนวิธีทำโตเกียว สูตรทำไส้ สูตรซอสแบบต่างๆ และเทคนิคการขาย ส่วนเมนูมีให้ลูกค้าเลือกได้หลากหลายกว่า 30 เมนู ราคาขายปลีกเริ่มต้นที่ชิ้นละ 5 บาท มีเมนูขายดี ได้แก่ โตเกียวไส้กรอก โตเกียวไส้ครีม กุ้งเทมปุระ และไก่ Spicy ไก่เทอริยากิและเมนูยอดฮิตที่สุดของแฟรนไชส์ทุกสาขาก็คือ เบอร์เกอร์ไก่ นั่นเอง

ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้องสั่งสินค้าจากแบรนด์เท่านั้น ได้แก่ แป้ง และแพ็คเกจจิ้ง ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ ผู้ลงทุนสามารถหาซื้อจากแหล่งค้าส่งใกล้บ้านได้ เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุน

ปัจจุบัน โลโซโตเกียวขยายแฟรนไชส์ไปแล้วกว่า 300 สาขา ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น บาเรน กัมพูชา ลาว และยังเป็นผู้ผลิตแป้งให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ อีกหลายแบรนด์อีกด้วย

สำหรับต้นทุนกำไรผู้ลงทุนจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายแต่ละวันราว 40% นั่นหมายถึงว่ากำไรต่อชิ้นจะอยู่ที่ราว 60% เนื่องจากการขายขนมโตเกียวจะไม่มีต้นทุนสะสมมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลด้วย โดยจะสามารถคืนทุนได้ในเวลา 2 เดือน และทางแบรนด์ยังได้ทำการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็น การทำ SEO บนกูเกิลเสิร์ช การทำโฆษณาบนเฟซบุ๊ก และการออกรายการต่างๆทั้งทางทีวี และยูทูป เป็นต้น

สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย โลโซโตเกียวได้ออกแพ็คเกจ 1,000 บาทขึ้นมา พร้อมสอนการเรียนขั้นพื้นฐานเทคนิคการทำเบื้องต้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่สามารถสร้างโอกาสได้ โดยหัวใจความสำเร็จการทำธุรกิจอาหาร มองว่าผู้ลงทุนต้องมีใจรัก เพราะเป็นอาชีพบริการ การจะไปต่อได้ยืดยาว เราต้องสร้างฐานลูกค้าประจำ เพื่อเกิดการซื้อซ้ำ

3.แฟรนไชส์ โตเกียวยักษ์ นายเจ ลงทุนหลักหมื่น คืนทุนไว

แฟรนไชส์ โตเกียวยักษ์ นายเจ มีความโดดเด่นในเรื่องการตกแต่งร้าน การนำหน้ายักษ์มาเป็นโลโก้ของแบรนด์ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงขนาดพิเศษของโตเกียวที่มีความใหญ่กว่าปกติทั่วไป และยังสร้างจุดเด่นด้วยการคิดค้นหลากหลายสีเพื่อเพิ่มแปลกใหม่ มีหลากหลายไส้ให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ไส้คาว – ไส้หวาน โดยเฉพาะ ไส้กะเพราไข่ดาว ถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่นำกะเพราะไข่ดาวมาเป็นไส้ของขนมโตเกียวเลยก็ว่าได้ โดยสาขาแรกของโตเกียวยักษ์ นายเจ อยู่ที่ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ บริเวณลานพระพิฆเนศ เมนูที่วางขายมีไส้ให้เลือก ได้แก่ ไส้กรอกชีส ไส้พิซซ่า ไส้ดั้งเดิม ไส้ไข่พริกเผา ไส้กะเพราไก่ไข่ดาว ราคาขายอยู่ที่ ไซส์ S เล็ก 9 บาท, ไซส์ M กลาง 39 บาท, ไซส์ L ยักษ์ 89 บาท

รูปแบบการลงทุน

-ชุดยักษ์สายลุย อุปกรณ์พร้อมขาย 39,900 บาท

-ชุดยักษ์โกยเงิน อุปกรณ์พร้อมขาย 49,900 บาท
เงื่อนไขและข้อมูลเพิ่มเติม

-ผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์จะต้องนำเสนอทำเลที่จะลงขาย พร้อมราคาค่าเช่าที่ เมื่อทำเลที่นำเสนอผ่านการอนุมัติจากทางร้าน ผู้ซื้อต้องวางจอง 30 % ของเฟรนไชส์ชุดนั้นๆ

-นัดวันมาเรียนหลักสูตรการขาย ไม่เกิน 1 เดือน หลังจากวางเงินจอง

-หลังจากเรียนเสร็จรับอุปกรณ์พร้อมขายกลับบ้านได้

ปัจจุบัน โตเกียวยักษ์ นายเจ ได้ขยายธุรกิจไปในรูปแบบของแฟรนไชส์ มีสาขาแล้วทั่วประเทศ เจ้าของธุรกิจได้เปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่ต้องการหารายได้เสริม สร้างอาชีพเพิ่มเติม เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ โดยมีรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ ดังนี้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูรูปแบบธุรกิจ หรือรายละเอียดข้อมูลแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ที่ facebook : โตเกียวยักษ์นายเจ