จากการแพร่ระบาดของ โควิด 19 ที่ส่งผลกระทบในทุกด้านโดยเฉพาะภาคธุรกิจทุกระดับชั้น ทำให้ต้องมีการปรับตัวเพื่ออยู่รอด ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ในระยะของการแพร่ระบาดเท่านั้นที่จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังจาก โควิด 19 คลีคลาย พฤติกรรมของผู้บริโภคอาจเปลี่ยนตามไปด้วย หรือ NEW NORMAL นั่นเอง วันนี้ ชี้ช่องรวย ได้รวบรวมพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปมาให้คนทำธุรกิจได้วิเคราะห์และปรับตัวรับมือ
1.ผู้บริโภคใส่ใจความสะอาดเป็นอันดับแรก
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า โควิด 19 สามารถแพร่ระบาดได้หลายทางมาก ทำให้ผู้บริโภคเน้นเรื่องความสะอาดอย่างมากเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจที่จะสร้างความมั่นใจด้านความสะอาดในสินค้าและบริการได้
ซึ่งในภาพรวมทุกธุรกิจเริ่มมีการปรับตัว ตัวอย่าง ธุรกิจร้านอาหาร จัดโต๊ะรับประธานอาหารห่างกัน มีฉากกันระหว่างทานอาหาร ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออยู่ตลอดเวลา รับรับความต้องการลูกค้าด้วยบริการแบบเดลิเวอรี่ เหล่านี้ล้วนมาจากพฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค
2.ผู้คนหันมารักและดูแลสุขภาพมากขึ้น
ที่ผ่านมาเทรนรักสุขภาพกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก แต่นั่นอาจจะไม่มากพอหลังมีการแพร่ระบาดของ โควิด 19 ยิ่งทำให้ผู้คนตื่นตัวมาก ผู้คนจะตระหนักว่าการมีภูมิคุ้มกันที่ดีเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ทำให้ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ธุรกิจเดิมควรมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบโจทย์การรักสุขภาพของผู้บริโภคให้มากขึ้นเำราะหลังจากนี้อันดับแรกที่ผู้บริโภคจะมอง คือ ความปลอดภัยจากโรถนั่นเอง
3.เทคโนโลยีมีบทบาทมากกว่าเดิมหลายเท่า
จากเดิมที่เทคโนโลยีมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมากพอสมควรอยู่แล้ว ณ ปัจจุบันผู้คนจะมองหาเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์มากขึ้นไปอีก เช่น เทคนิคการขายที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันมีกานำเทคโนโลยีการขาย AR หรือ VR ในกลุ่มสินค้าเครื่องสำอาง โดยใช้แอปพลิเคชั่น AR ให้ลองแต่งหน้า หรือสินค้าแฟชั่น ให้ลองชุด จากนั้นสั่งสินค้าออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวใช้เทคโนโลยี
4.ผู้บริโภคหันมาอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าเดิม
เพราะวิกฤติบังคับให้ผู้บริโภคจำต้องเดินข้ามกำแพงแห่งความเคยชินเดิมในการจับจ่าย ซึ่งในที่สุดก็จะคุ้นชินและกลายเป็น New normal เทคโนโลยีจะเชื่อมให้ผู้ผลิตต้นทางติดต่อได้โดยตรงกับผู้ซื้อปลายทาง แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์และการส่งสินค้าจึงเข้ามามีบทบามอย่างมากเหมือนเป็นฮีโร่ในยามยากของผู้บริโภค
5.ทุกการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับเหตุผลและความจำเป็น
จากการการแพร่ระบาดของ โควิด 19 ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองและวิกฤติครั้งนี้ที่ทำให้เรารู้ว่าอะไรที่มีความจำเป็นในชีวิตและอะไรเป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือย ดังนั้นการจับจ่ายใช้สอยด้วยเหตุผลจะเป็นที่นิยมมากกว่าอารมณ์ อาทิ การซื้อที่อยู่อาศัยที่จะเน้นความคุ้มค่ามากกว่าความสวยงามและราคาที่เกินจริง สินค้าและบริการที่ฟุ่มเฟือยจะถูกลดลงและเปลี่ยนมาเป็นเงินออม เช่น สินค้าเครื่องประดับราคาแพง ร้านอาหารและคาเฟ่
6.งานบริการจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากขึ้น
จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคเลือกที่จะลดความเสี่ยงในทุกทางอย่าง บริการนวด การเสริมสวย การพบแพทย์หรือรับยาออนไลน์ โดยผ่านการนัดหมายเวลาเพื่อป้องกันการรวมตัวกันโดยไม่จำเป็น เพราะนอกจากเวลาจะเป็นสิ่งที่มีค่าแล้ว ความเสี่ยงในการรวมตัวกันจะถูกลดโดยการนัดหมายด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
7.ผู้บริโภคเตรียมความพร้อมรับมือวิฤตรอบใหม่
ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตระหนักถึงการเตรียมตัวที่จะรับมือกับงิกฤตครั้งใหม่ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม ที่ผ่านมา โควิด 19 เป็นวิกฤตที่ไม่มีใครตั้งตัวและไม่คิดว่าจะร้ายแรงไปทั่วโลก นี่จึงเป็นวิฤกตตัวอย่างที่ทำให้ผู้บริโภคตื่ตัวไม่ว่าจะเป็น พยายามพึ่งพาตนเองและเสริมทักษะพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็นในชีวิต หรือการทำงานจากบ้านที่เกิดขึ้นได้จริงๆ ในช่วงรักษาระยะห่างทางสังคม เป็นต้น