กรมพัฒน์ฯ อัพเลเวลเกษตรกรไทยไปสู่ตลาดออนไลน์ จัดกิจกรรม "Hook to Local หมัดเด็ด สู่ความสำเร็จด้านออนไลน์" พร้อมผนึกกำลังสภาเกษตรกรแห่งชาติ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ Shopee และ Lazada
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดกิจกรรม "Hook to Local หมัดเด็ด สู่ความสำเร็จด้านออนไลน์" พร้อมจับมือพันธมิตรจาก 3 หน่วยงานสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรไทย ได้แก่ สภาเกษตรกรแห่งชาติ โดยสร้างความรู้การตลาดออนไลน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ และแนะนำเทคนิคการเป็นพี่เลี้ยงธุรกิจ
ก่อนถ่ายทอดไปยังเกษตรกรที่อยู่ในเครือข่าย โดยมีเกษตรกรที่พร้อมเข้าร่วมโครงการแล้ว 146 กลุ่ม ใน 62 จังหวัด นอกจากนี้ยังร่วมมือกับแพลตฟอร์ม e-Commerce มืออาชีพอย่าง Shopee และ Lazada สนับสนุนเครื่องมือการตลาดออนไลน์ สร้างร้านค้าให้เกษตรกรมีพื้นที่ขายของบนโลกออนไลน์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตามที่นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งดำเนินการผลักดันเกษตรกรไทยให้สามารถเข้าสู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ได้ ช่วยพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น
สร้างความได้เปรียบทางการค้า และช่วยเพิ่มยอดขาย อีกทั้งรองรับการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบวิถีใหม่ (New Normal) พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมมือกันก้าวผ่านช่วงเวลาสำคัญของประเทศไปให้ได้อย่างราบรื่น
อธิบดี กล่าวต่อว่า "กรมฯ จึงได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ "Hook to Local หมัดเด็ด สู่ความสำเร็จด้านออนไลน์" โดยมี สภาเกษตรกรแห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศมาร่วมเป็นพันธมิตร ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความรู้ด้านการตลาดออนไลน์
รวมถึงแนะนำเทคนิคการเป็นพี่เลี้ยงธุรกิจ (Train the Trainers) ให้แก่เจ้าหน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติให้สามารถเป็นผู้นำทางการค้าออนไลน์ในพื้นที่และถ่ายทอดความรู้ไปยังเกษตรกรที่อยู่ในเครือข่ายได้ โดยขณะนี้มีเกษตรกรที่มีศักยภาพพร้อมเข้าสู่ตลาดออนไลน์สนใจเข้าร่วมกิจกรรมฯ มากถึง 146 กลุ่ม ใน 62 จังหวัด"
"นอกจากนี้ ยังได้เชิญแพลตฟอร์ม e-Commerce ระดับโลกอย่าง Shopee และ Lazada มาร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะนำองค์ความรู้ด้านต่างๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์มาแลกเปลี่ยน และที่สำคัญได้สนับสนุนเครื่องมือการตลาดออนไลน์ โดยจะสร้างร้านค้าออนไลน์ให้แก่เกษตรกรสามารถนำสินค้ามาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อต่อยอดช่องทางการตลาด พร้อมเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการชุมชนได้ คาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป"
"สำหรับกิจกรรม Hook to Local หมัดเด็ด สู่ความสำเร็จด้านออนไลน์ กรมฯ คาดหวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรไทยมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะในชุมชนของตนเองหรือแค่ภายในประเทศ แต่ยังสามารถขยายไปสู่ต่างประเทศได้ผ่านการค้าออนไลน์หรือ e-Commerce ประกอบกับเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้เกษตรกรสามารถยืนหยัดได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2564 มูลค่าการค้า e-Commerce ของประเทศไทยจะมีสูงถึง 5 ล้านล้านบาท และตั้งเป้าผลักดันยอดขายผ่าน e-Commerce ให้เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ภายใน 5 ปี" อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด