จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบกับบริษัทขนาดใหญ่และบริษัทขนาดเล็ก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีเงินทุนน้อยจะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ที่เห็นได้ชัด คือ การปลดพนักงานเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น
จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) เผยผลสำรวจผู้ประกอบการและคนทำงานถึงผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ในกลุ่มคนทำงานกว่า 1,400 คน และผู้ประกอบการกว่า 400 ราย โดยพบว่า 25% ของคนทำงานได้รับผลกระทบโดยตรง แบ่งเป็นถูกเลิกจ้างถึง 9% และถูกให้หยุดงานแต่ยังคงสถานะลูกจ้างอีก 16% ส่วนกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มเงินเดือนต่ำกว่า 16,000 บาท ในรูแบบสัญญาจ้างและอายุมากกว่า 45 ปีที่ทำงานให้กับองค์กรที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน
นอกจากนี้จาดตัวเลข “ดัชนีความสุขในการทำงานของแรงงานไทย” ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 พบว่ามีความสุขกับการทำงานอยู่ที่ 85% แต่หลังเกิดวิกฤติกลับมีความสุขลดลงเหลือเพียง 59% นอกจากนี้ยังพบว่ามาตรการ Work from Home ทำให้ความสุขในการทำงานลดลง 3 เท่า เพราะต้องทำงานหนักขึ้น ได้รับแรงกดดันมากขึ้น และมีชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานขึ้น
นางสาวพรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างคาดการณ์ไว้ว่า สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้คนไทยตกงานราว 3-8 ล้านคน ขณะที่พนักงานที่ยังทำงานอยู่พบว่า 48% ถูกให้ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ขณะที่ 45% ได้รับผลกระทบในเชิงรายได้ โดยแบ่งเป็น 27% ไม่ได้รับโบนัส ส่วน 20% ไม่ได้รับการปรับเงินเดือนขึ้น และ 14% ถูกลดเงินเดือนลง 11%- 30% ของรายได้
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่นกัน จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนนโยบาย โดย 52% ต้องให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) ขณะที่ 47% ต้องปรับนโยบายการจ้างงาน ซึ่งแบ่งเป็น 39% ต้องหยุดรับพนักงานใหม่ ขณะที่อีก 12% จำเป็นต้องลดพนักงานลง และ ยังพบความกังวลของผู้ประกอบการ โดย 52% กังวลถึงรายได้และสภาพการหมุนเวียนทางการเงิน ขณะที่ 41% กังวลในความเป็นอยู่ของพนักงาน ส่วน 38% กังวลในความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและพนักงาน และ 4% กังวลในด้านการหาพนักงานใหม่
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้การหางานเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยพบว่า มากกว่า 36% มีการค้นหาในสายงาน Digital Marketing ขณะที่ในสายงาน Graphic Designer มีการค้นหางานมากขึ้นถึง 20% ส่วนงานที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษที่ผ่าน TOEIC (Test of English for International Communication) มีการค้นหามากขึ้นถึง 15% โดยจำนวนใบสมัครที่มากที่สุดจะอยู่ในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่มากกว่า 62%
ทั้งนี้ การจ้างงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 พบว่า ผู้ประกอบการกว่า 88% คาดว่าการจ้างงานจะกลับมา ขณะที่ 33% มีแผนในการจ้างงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยพบว่า 53% จะเป็นการจ้างงานเด็กนักศึกษาจบใหม่ และคาดว่าจะมีนักศึกษาจบใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานปี 2563 จำนวนกว่า 520,000 คน
ในส่วนของ 5 อันดับสายงานที่ผู้ประกอบการจะมีการว่าจ้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ประกอบไปด้วย
-กลุ่มสายงานไอที
-กลุ่มสายงานการตลาด และงาน PR
-กลุ่มงานขาย งานบริการลูกค้าและงานพัฒนาธุรกิจ
-กลุ่มงานท่องเที่ยว งานโรงแรมและงาน Food & Beverage ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ
-กลุ่มงานจัดซื้อ