ท่ามกลางการเติบโตของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่พาให้ทั้งผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น และ ร้านอาหารเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน “พนักงานขับ” หรือ ไรเดอร์ ก็เป็นอีกอาชีพที่เติบโตและมีบทบาทสำคัญบนห่วงโซ่ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ในฐานะ Touchpoint ผู้มอบคุณภาพบริการโดยตรงกับลูกค้า จนกระทั่งช่วงโควิด - 19 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าพนักงานขับส่งอาหารกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่โตสวนทางกับอาชีพอื่น จากความต้องการใช้งานของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จนเกิดเป็นโอกาสทางอาชีพครั้งสำคัญของเมืองไทย ที่เมื่อได้มองลึกลงไปแล้ว พบว่านอกจากจะสร้างรายได้จนเป็นอาชีพหลัก ก็ยังมีมุมมองของความภูมิใจในอาชีพที่คนนอกอาจไม่รู้
เช่นเดียวกันกับ “กฤตธี ยังเฟื่องมนต์” นักบินจากสายการบินภายในประเทศแห่งหนึ่ง วัย 36 ปี ซึ่งเคยทำอาชีพพนักงานขับส่งอาหารมาก่อนหน้าจะเป็นนักบินเมื่อ 4 ปีก่อน ก็เลือกจะกลับมาเป็นพนักงานขับ LINE MAN อีกครั้ง เพื่อหารายได้ในช่วงที่สายการบินต้องหยุดพักจากโควิด-19
“ตอนนั้นผมต้องการมองหาอาชีพเสริมที่อิสระ และผมมีมอเตอร์ไซค์และโทรศัพท์มือถืออยู่แล้ว จึงไปสมัคร แรก ๆ ที่เริ่มทำก็ตื่นเต้นอยู่บ้าง แต่เมื่อทำไปสักพักจึงเห็นเลยว่าอาชีพพนักงานขับสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้เลย เพราะเริ่มวิ่งตั้งแต่ 6 โมงครึ่งจนถึง 1 ทุ่ม จะมีรายได้ต่อวันอยู่ที่ประมาณ 1,000 - 2,500 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะรับงานซอย (วิ่งระยะใกล้ ปักหลักตามแหล่งต่างๆ) หรืองานไหล (วิ่งไปเรื่อยๆ ตามระยะทางของงานต่องาน) แต่สำหรับผมมีงานที่ไหนผมก็รับ เฉลี่ยแล้ววันละ 10-15 รอบ หากขยันมากก็มีถึง 20 รอบ” กฤตธี กล่าว
นักบิน LINE MAN มืออาชีพรายนี้ยังบอกอีกว่าการเป็นคนขับเดลิเวอรี่ เป็นอาชีพที่ทำให้เป็นนายตัวเอง สามารถควบคุมเวลาได้เอง เป็นงานบริการที่ตนชอบและสนุกไปกับงาน ได้รู้จักร้านอาหารใหม่ๆ ความชอบลูกค้า และเส้นทางลัดรอบกรุงเทพมากขึ้น รวมทั้งน้ำใจจากร้านอาหารและลูกค้าที่เขาได้รับช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ น้ำดื่ม และทิป ก็ทำให้เขามีมุมมองด้านบวกกับอาชีพพนักงานขับเดลิเวอรี่มากขึ้นไปอีก
สำหรับความภูมิใจในอาชีพ กฤตธีมองว่า พนักงานขับเดลิเวอรี่ เป็นอีกอาชีพที่น่าภูมิใจไม่น้อยไปกว่าการเป็นนักบินซึ่งเป็นอาชีพหลักของเขา “ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้คนอื่นมองเราอย่างไร ถ้าเราภูมิใจ บริการดี สุภาพ ดูสะอาดเรียบร้อย และปฏิบัติตามกฏจราจร ความตั้งใจก็นำมาสู่ความภูมิใจ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร”
นักบินหนุ่มยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า พร้อมจะกลับมาเป็น “พี่ LINE MAN” อยู่เสมอ หากว่างจากการบิน เมื่อสายการบินเริ่มกลับมาบริการเป็นปกติแล้วก็ตาม
