โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

กรมเจรจาฯ ชวนใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลการค้า-ระบบให้คำปรึกษาออนไลน์ เสริมแกร่งผู้ประกอบการแข่งขันตลาดอาเซียน

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ชวนผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จากคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (NTR) สืบค้นข้อมูลการค้าสำคัญของอาเซียน และระบบ ASSIT ให้คำปรึกษาทางออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อช่วยเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในตลาดอาเซียน พร้อมแนะใช้ FTA สร้างแต้มต่อทางการค้า

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า อาเซียนมีเครื่องมือสำคัญที่สมาชิกอาเซียนได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความได้เปรียบทางการค้าแก่ผู้ประกอบการ ได้แก่ (1) ระบบคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (National Trade Repository: NTR) ซึ่งสามารถสืบค้นตรวจสอบข้อมูลการค้าสำคัญของสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ผ่านทางเว็บไซต์คลังข้อมูลการค้าไทย www.thailandntr.com

ทั้งเรื่องการค้าสินค้า การค้าบริการ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และ (2) Online Helpdesk ของอาเซียน หรือการให้ความช่วยเหลือตอบข้อสงสัยและข้อร้องเรียนผ่านทางออนไลน์ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่พบปัญหาการค้าในภูมิภาคอาเซียน สามารถสอบถามและได้รับคำตอบจากผู้รับผิดชอบโดยตรง เช่น การขอความชัดเจนของมาตรการนำเข้าสินค้าของประเทศผู้นำเข้า และการร้องเรียนปัญหาการค้าที่เห็นว่าไม่เป็นไปตามกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศของอาเซียน เป็นต้น

นางอรมน เสริมว่า สำหรับการให้คำปรึกษาทางออนไลน์ จะดำเนินการผ่านระบบ ASEAN Solutions for Investments, Services and Trade หรือ ASSIST ทางเว็บไซต์ assist.asean.org ซึ่งเป็นช่องทางกลางของอาเซียน ปัจจุบันเว็บไซต์ ASSIT จะให้บริการรับคำถามและข้อร้องเรียนทั้งเรื่องการค้าสินค้า และการค้าบริการ พร้อมเตรียมเปิดให้บริการข้อร้องเรียนเรื่องการลงทุน จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้ามาใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมแกร่งให้กับธุรกิจ ให้สามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งสองเว็บไซต์สามารถสืบค้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นางอรมน เพิ่มเติมว่า นอกจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการค้าของเว็บไซต์ข้างต้น ผู้ประกอบการควรใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างแต้มต่อขยายตลาดส่งออก โดยปัจจุบันไทยมีเอฟทีเออยู่ 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง ซึ่งประเทศคู่ค้าเหล่านี้ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว และส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกสินค้าสำคัญ ติดอันดับ 10 ของโลก เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ทุเรียนสด ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวจากแป้งข้าว เป็นต้น

ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม-พฤษภาคม) ไทยมีมูลค่าการค้ากับอาเซียน 41,218 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น