ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนไปทั่วโลก ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของประชากรทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น หันมานิยมสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจสื่อบันเทิงออนไลน์ตอบโจทย์ในยุค New Normal มากขึ้น แนวความคิดของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ธุรกิจหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะมาแรงมาก ณ ตอนนี้ คือ ธุรกิจขายสินค้ามือสอง นั่นเอง

เหตุผลเพราะวิกฤตโควิด-19 ทำให้ใครๆ ต่างก็มีรายได้ลดลง การจะจับจ่ายซื้อของก็ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความประหยัด ตลาดสินค้ามือสองจึงกลายเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสวนทางกับเศรษฐกิจโลก

จากการศึกษาของ Berenberg Bank ของเยอรมนี คาดการณ์ว่า ในปี 2020 ตลาดสินค้ามือสอง มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาจจะแตะระดับอยู่ที่เกือบ 10% ของตลาดสินค้าทั่วโลก คิดเป็นมูลค่าตลาดกว่า 20,000 ล้านยูโร หรือราว 70,000 ล้านบาท และมีการประเมินว่าอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดสินค้ามือสองจะเติบโตแตะระดับที่ 15-20%

ซึ่งในส่วนของภาคพื้นเอเชีย สินค้ามือ 2 ที่คนเอเชียนิยมซื้อมากที่สุดมีอยู่ 7 ประเภทหลักๆ ที่คนเอเชียเลือกที่จะซื้อเป็นสินค้ามือ 2 มากที่สุด ได้แก่ รถยนต์ รถจักรยาน หนังสือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (กล้องถ่ายรูป, โทรศัพท์มือถือ) เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน (ตู้เย็น, โทรทัศน์, เครื่องซักผ้า) ของใช้ส่วนตัว (เสื้อผ้า, กระเป๋า, นาฬิกา, รองเท้า)

สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Global Market Insite (GMI) ของสหรัฐอเมริกา ที่ชี้ว่า สินค้ามือ 2 ได้แผ่อำนาจไปหลายประเทศเอเชียในปัจจุบัน เช่น ประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ เป็นต้น ที่น่าสนใจก็คือ สัดส่วน ‘ผู้หญิง’ ที่ชอบซื้อสินค้ามือ 2 มีมากกว่า ‘ผู้ชาย’ อยู่ที่ 35% ต่อ 25% (เฉลี่ยระหว่างปี 2017-2019)

กลับมาที่ไทยบ้านเรา สินค้ามือสองที่หลายคนนิยมซื้อกันมีทั้งของใช้ส่วนตัว เครื่องใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงของชิ้นใหญ่อย่าง รถยนต์ แต่สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และผู้บริโภคมองว่าเป็นสินค้าควรค่าแก่การจ่ายเงิน รวมถึงเป็นสินค้าที่มีการเติบโตมากที่สุด นั้นคือ “สินค้าแบรนด์เนม” หรือ “สินค้าหรู” รวมถึงสินค้าทำมือ ที่ยังไม่ได้เสื่อมสภาพมากจนเกินไป และพวกเขาก็ยอมรับได้ในสภาพและตำหนิต่างๆ

ดังนั้น จากแนวโน้มดังกล่าว สินค้ามือสอง คาดว่าน่าจะเป็นสินค้าเรือธงที่จะสร้างรายได้ให้กับใครหลายคน ใครที่ต้องการมีรายได้เพิ่ม ลองหันกลับมามองของใช้ส่วนตัวของคุณดูสิว่า มีเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือของใช้ในบ้านที่ไม่ใช้แล้วแต่ยังคงอยู่ในสภาพดี ลองนำมาเปลี่ยนเป็นรายได้เข้าสู่กระเป๋าช่วยบรรเทาความทุกข์ยากในช่วงนี้ ไม่แน่นะคะ คุณอาจจะมีมุมมองใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การต่อยอดการเป็นเจ้าของกิจการในอนาคตก็ได้ ใครจะไปรู้