ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันมีจำนวนร้านกาแฟสดเกิดขึ้นแทบจะทุกช่วงเวลา และในขณะเดียวกันจำนวนนักดื่มกาแฟก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่แพ้กันอีกด้วย คำถามคือ โอกาสของตลาดเครื่องดื่มประเภทนี้จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่หรือไม่ หากวิถีชีวิตของผู้คนเข้าสู่ยุคการเปลี่ยนแปลง

โดยเฉพาะในยุคของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนรูปแบบการสั่งซื้อ และแนวทางการดื่มจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เป็นเรื่องที่น่าติดตาม

หากจะเอ่ยถึงเทรนด์การดื่มกาแฟในแต่ละยุคสมัย เราจะพบว่านับตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายมาเครื่องดื่มกาแฟที่เรามักจะพบเห็นโดยทั่วไปจะเป็นร้านชงกาแฟเล็กๆ ที่มีจำนวนเมนูให้เลือกไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่มักจะนิยมสั่งเป็น โอเลี้ยง โอยั๊วะ กาแฟใส่นมร้อนๆ หรือกาแฟแบบไม่ใส่นมน้ำตาล และรูปแบบกาแฟส่วนใหญ่มักจะเป็นแบบเกล็ดกาแฟที่ต้องใช้ถุงชง กับหม้อน้ำร้อน ฯลฯ เป็นต้น

เมื่อถึงอีกยุคสมัยหนึ่ง เมื่อ “กาแฟสด” เข้ามาตีตลาดพร้อมกับมีจุดเด่นในเรื่องความเข้มข้นของรสชาติ วิธีการชง เครื่องชงกาแฟที่ดูทันสมัยขึ้น และความหลากหลายของเมนูที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ม็อคค่า ลาเต้ คาปูชิโน่ อเมริกาโน่ เป็นต้น ที่สำคัญยังถูกปากคนไทยเสียด้วย ซึ่งในช่วงแรกเราจะได้ลิ้มรสรสชาติกาแฟสดนี้จากร้านกาแฟระดับบนที่มีราคาแพง แต่ในปัจจุบันเมื่อเครื่องดื่มประเภทนี้ได้การตอบรับที่ดีจากตลาดและผู้บริโภค จึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาจับธุรกิจนี้ โดยเปิดเป็นร้านกาแฟสดเล็กๆ หรือเป็นในรูปแบบของคีออสตามแหล่งผู้คนพลุกพล่าน รวมไปถึงร้านรถเข็นเล็กๆ ก็เริ่มที่จะนำเอากาแฟสดมาเร่ขายแล้ว

จนมาถึงในยุคปัจจุบัน เมื่อเทรนด์รักษ์สุขภาพเข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตของผู้คน ทำให้รูปแบบการดื่มกาแฟเปลี่ยนไปอีกขั้น โดยเราจะได้ยินคำว่า “กาแฟเพื่อสุขภาพ” กันหนาหูขึ้น โดยรูปแบบเริ่มมีการนำเอาวัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาผสมอยู่ในกาแฟด้วย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟผสมโสมเกาหลี กาแฟนมข้าวโอ๊ต กาแฟเห็ด กาแฟน้ำส้ม และกาแฟน้ำมะพร้าว และเชื่อว่าอีกหน่อยบาริสต้าคงต้องหยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์กับกาแฟแก้วโปรดของคุณแน่นอน

และที่กำลังเป็นกระแสน่าจับตามองในตอนนี้ คือ “กาแฟไนโตรสกัดเย็น” หรือ Nitro Cold Brew ที่เป็นกาแฟชงแบบสกัดเย็น แล้วนำไปอัดไนโตรเจนในเครื่อง Nitrogen tap คล้ายการทำเบียร์สดที่จะได้กาแฟรสละมุน และฟองครีมบางๆ ละเอียดนุ่ม ให้รสสัมผัสคล้ายๆ คราฟท์เบียร์

และยังมี “กาแฟดริป” หรือกาแฟที่ชงผ่านฟิลเตอร์นั้น ยังสามารถครองใจคอกาแฟได้อย่างเหนียวแน่น เพราะกาแฟที่บดและดริปแบบสดๆ จะทำให้เราได้ดื่มด่ำกับรสชาติและกลิ่นของกาแฟได้ชัดเจนที่สุด

และสุดท้ายคือ “กาแฟแคพซูล” เทรนด์กาแฟแห่งอนาคตที่ช่วยให้การดื่มกาแฟเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะเพียงแค่เลือกรสชาติกาแฟที่ถูกใจที่บรรจุอยู่ในแคพซูล เอาใส่เครื่องชงก็ได้ดื่มกาแฟได้ในเวลาไม่กี่วินาที

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าของร้านอย่างคุณจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อย่างไร ชี้ช่องรวย ก็อยากจะแนะนำให้คุณทำการตลาดโดยผ่านช่องทางของโซเชียลมีเดียเป็นหลัก การจัดโปรโมชั่นก็ยังมีความสำคัญ การผูกบริการกับระบบเดลิเวอรี่ก็จะช่วยให้ยอดขายของคุณเพิ่มขึ้นด้วย และที่อยากแนะนำอีกข้อ คือ การคิดค้นรสชาติกาแฟแนวใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ ซึ่งคิดว่าหากคุณลองคิดโน่นนิดเพิ่มนี่หน่อย เชื่อว่าคุณจะได้กาแฟรสชาติใหม่ประจำร้านคุณก็ได้นะคะ

แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไป แต่จะพบว่ารูปแบบการชงกาแฟก็ได้มีการปรับเปลี่ยน ผ่านการประยุกต์เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในแต่ละช่วงวัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของรสชาติของแต่ละคนว่าคือเมนูไหน ซึ่งจากการวิเคราะห์ของ ชี้ช่องรวย มองว่า ธุรกิจกาแฟสดจะยังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าของร้านด้วยว่าจะรู้จักพัฒนาสูตร รูปแบบการให้บริการของผู้คนแต่ละรุ่นอย่างไร การติดตามข่าวสารโลกอย่างทันท่วงทีจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ยังไงก็ขอให้โชคดีกับธุรกิจที่คุณรักนะคะ