โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

‘ศรีเมือง’ มะม่วงดองแช่อิ่ม ของกินเล่นวิถีชาวบ้าน ยกระดับถนอมอาหาร เสิร์ฟถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ

เห็นแล้วเปรี้ยวปาก กินแล้วสดชื่น ต้องยกให้ “มะม่วงดองแช่อิ่ม” ของกินเล่นเบา ๆ เมนูพื้นบ้านยามว่างที่ได้รับความนิยมจากคนไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง สามารถลิ้มรสได้ ด้วยกระบวนการทำจากวิถีชาวบ้าน ที่ผ่านการแปรรูป

เพิ่มมูลค่าผลไม้ธรรมดาให้สามารถเอร็ดอร่อย วางจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี ด้วยรสชาติครบเครื่อง ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม และกรอบอร่อย แถมยังช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวน รวมถึงคนในพื้นที่ให้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัวอีกด้วย

คุณยุวเดช แช่มวงษ์ กรรมการผู้จัดการ หจก.ศรีเมือง 12490 ผู้ผลิตมะม่วงดองแช่อิ่ม จังหวัดสุพรรณบุรี ภายใต้แบรนด์ “ศรีเมือง” เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ว่า เดิมทีครอบครัวประกอบอาชีพทำนาทำไร่ จนกระทั่งพี่ชาย เห็นชาวบ้านถนอมอาหารประเภทผักและผลไม้ ด้วยการ “ดอง” เมื่อลองกินก็ติดใจในความอร่อย

ช่วยจุดประกายความสนใจเข้ามาทำธุรกิจมะม่วงดองแช่อิ่ม ก่อนที่ตัวเองจะเข้าสานต่อธุรกิจและพัฒนาให้กลายเป็นมะม่วงดองแช่อิ่มศรีเมือง ส่งขายให้กับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกประเภทร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ตั้งแต่ปี 2544 ยาวนานจนถึงทุกวันนี้กว่า 19 ปี

จากความมั่นใจวัตถุดิบที่ลงตัว พร้อมเสิร์ฟถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศ คุณยุวเดช เล่าว่า มะม่วงที่นำมาใช้ในการผลิตเป็นสายพันธุ์ “โชคอนันต์” จากความไม่นิยมที่จะกินผลดิบ เพราะเนื้อแข็งจนเกินไป กลับกลายมาเป็นจุดเด่นด้วยการนำมาแปรรูปเป็นมะม่วงดองแช่อิ่มได้อย่างอร่อย

เหลือเชื่อ เมื่อนำมาผลิตและวางจำหน่ายถึงผู้บริโภค เนื้อของมะม่วงยังคงความกรอบ พอดีกับการกินและถูกปากอย่างมาก ที่สำคัญ! การปรุงแต่งน้ำแช่อิ่มเป็นสูตรโบราณ สูตรตั้งเดิมยาวนานมากว่า 30 ปี โดยใช้วัตถุดิบที่แสนธรรมดา ๆ เพียงน้ำตาล เกลือ และน้ำส้มสายชูเท่านั้น

อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ภายในโรงงาน ล้วนลงมือประดิษฐ์ขึ้นมาเอง โดยเป็นผลของการศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ แม้ตัวเองจะเรียนจบบริหารมาก็ตาม แต่สนใจเรื่องเทคโนโลยี ช่วยให้พัฒนาอุปกรณ์ ตอบโจทย์กับการผลิตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการผลิตตู้แช่อิ่มที่ลองผิด ลองถูกมาพอสมควร ก่อนที่จะลงตัวเป็นถังขนาดใหญ่ ทำจากสแตนเลส เกรด 316 ทนกรด ทนเคมี ช่วยอำนวยความสะดวกและลดเวลาได้อย่างมาก เพราะหากเป็นวิธีการทำดั้งเดิมจริงๆนั้น การแช่อิ่มต้องใช้กำลังคน คอยคนมะม่วงอยู่ตลอดเวลา

ด้านการวางแผนการผลิต ต้องลงมือคัดสรรวัตถุดิบด้วยคุณภาพ อย่างมะม่วงโชคอนันต์ นอกจากรับซื้อในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ยังรับซื้อในจังหวัดอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และเชียงราย โดยควบคุมวัตถุดิบคัดอย่างละเอียด เพื่อคุณภาพสินค้าที่ดีที่สุด ตั้งแต่กระบวนการรับซื้อที่ลอยน้ำดูความแก่และอ่อนของผลมะม่วง ต้องให้มีผลผลิตที่เพียงพอต่อการจัดส่งจำหน่ายให้กับเซเว่น อีเลฟเว่น

หลังจากกระบวนการผลิตเมื่อรับซื้อมาแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการดองในถังพลาสติกขนาดใหญ่เป็นเวลา 1 เดือน เมื่อครบกำหนดเวลาก็จะนำมา ปอกมะม่วง คว้านเม็ดออก และหั่นให้เป็นชิ้น เฉลี่ยวันละ 5-6 ตัน ที่สำคัญต้องใช้ฝีมือแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ และนำไปล้างให้สะอาด เพื่อเข้าสู่กระบวนการแช่อิ่ม 3 วัน จากนั้นนำมาบรรจุใส่ซอง เฉลี่ยวันละ 20,000 ถุง สูงสุด 25,000 ถุง เดือนละ 600,000 ถุง

เคล็ดลับของศรีเมือง คือการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่ มะม่วงไม่ค้างคืน ทำให้สินค้าได้รับความนิยมและเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆที่ลูกค้าจะซื้ออยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าทั้งชายและหญิง นักศึกษา คนขับรถขนส่งสินค้า ขายดีตามปั๊มน้ำมัน หน้าหอพัก หรือโรงเรียน ส่วนการทำตลาดผ่านเซเว่น อีเลฟเว่น แม้จะมีอีก 2 ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายเหมือนกัน แต่ไม่มองว่าเป็นการแข่งขัน เพราะทำงานช่วยเหลือกันเหมือนพันธมิตรดีกว่าคู่แข่งทางการค้า โดยให้ลูกค้าเป็นผู้เลือกหรือตัดสินในการบริโภคเอง ว่าชอบแบรนด์ใดที่พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด

ที่สำคัญ! การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะด้านการสร้างมาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการขอเครื่องหมายต่างๆ ที่เป็นสากล หรือการใช้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยได้รับบริการจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ผ่านโครงการสินเชื่อพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ดอกเบี้ย 1%ต่อปี วงเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้รับการเติมทุนเพิ่มอีก 7.3 แสนบาท หากไม่ได้ส่วนนี้มาเติมเต็ม การเดินหน้าของธุรกิจทำได้ยากแน่นอน

อนาคตธุรกิจของศรีเมือง นอกจากจะทำรายได้ให้บริษัทแล้ว ยังสร้างรากฐานให้ชาวบ้านมีรายได้ ส่งต่อสู่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านพี่ป้าน้าอามีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว มีความเป็นอยู่ดีขึ้น รวมถึงมีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นไม่ขัดสน ทั้งหมดนี้ล้วนมาจากการที่รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร และช่วยสนับสนุนการสร้างอาชีพให้ด้วย กลายเป็นธุรกิจครอบครัวขนาดใหญ่เติบโตอย่างยั่งยืน