โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

อยากเปิดร้านขายสินค้าราคาเริ่มต้น 20 บาท กับ 2 หลักการ 9 วิธี ทำให้ครบรับรองขายดีมีกำไรแน่นอน

สำหรับใครที่มีอยากจะเป็นเจ้าของกิจการร้านขายสินค้าราคาเริ่มต้น 20 บาท ชี้ช่องรวย มีแนวทางการทำธุรกิจ และวิธีการมาฝาก ดังนี้

เริ่มต้นเลือก 2 รูปแบบการลงทุน ได้แก่

1.ซื้อแฟรนไชส์

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์กลายเป็นโจทย์ที่ตอบรับความต้องการของคนที่อยากจะเป็นเจ้าของกิจการ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิดลองถูก โดยข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์ร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 คือ เจ้าของแฟรนไชส์จะทำการจัดส่งสินค้ามาให้ ในวงเงินที่ทำสัญญาไว้ หรือใช้เงินลงทุนซื้อสินค้าขั้นต่ำจากเจ้าของแฟรนไชส์มาขายในร้านที่มีอยู่ได้เลย โดยสินค้าจะมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเขียน เครื่องครัว เครื่องมือช่าง สินค้าตกแต่งบ้าน สินค้า IT สินค้าแฟชั่น ของเล่น ฯลฯ การซื้อแฟรนไชส์ร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 ยังได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์ตลอดอายุสัญญาด้วย ทำให้ง่ายต่อการดำเนินธุรกิจ ส่วนข้อเสีย คือ การซื้อแฟรนไชส์ร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 นั้นมีข้อจำกัดในการเอาสินค้าจากร้านค้าส่งอื่นๆ มาขาย อาจทำให้เราแข่งขันกับร้านคู่แข่งไม่ได้ในอนาคต ถ้าเจ้าของแฟรนไชส์มีสินค้าไม่มากพอ

2.หาสินค้าจากแหล่งค้าส่งมาจำหน่าย

วิธีการแบบนี้ถือว่าเหนื่อยมาก บางครั้งอาจวิ่งหาของไม่ทัน ต้องมีคนช่วยวิ่งเรียกว่า ทำรายได้ไม่คุ้มเสีย เสียค่าใช้จ่ายในการวิ่งมาก และก็ใช้เวลามาก ทำให้เจ้าของร้านไม่มีเวลาเฝ้าหน้าร้าน บางครั้งต้องปิดร้าน เพื่อหาสินค้ามาขายในร้าน ทำให้ขาดรายได้ไปเลย ดังนั้นวิธีการแบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ขนส่ง รวมถึงจ้างคนอื่นหาสินค้ามาให้ ทั้งนี้หากซื้อสินค้าจากแหล่งจริงๆ ราคาต้นทุนสินค้าต้องไม่เกิน 15 บาท เพื่อเราจะได้กำไรจากการขาย 20 บาท ขายมากชิ้นก็ได้กำไรมาก

3.ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย

วิธีการแบบนี้หมายความว่าให้ไปซื้อจากร้านที่เปิดขายส่งให้กับร้าน 20 บาทอีกที แต่ไม่ใช่แบบซื้อจากเจ้าของแฟรนไชส์ ไม่ต้องมีข้อผูกมัดใดๆ แต่ต้องเข้าไปเลือกสินค้าเอง ซื้อเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ไปร้านเดียวได้ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ทั้งเครื่องครัว ของใช้ประจำวัน ของใช้ทั่วไป ในราคาส่งที่ต่ำกว่า 20 บาท ซึ่งแน่นอนวิธีนี้น่าจะเหมาะสมหากใครต้องการเลือกสินค้าเอง

สำหรับ 9 วิธีการเริ่มต้นกิจการให้อยู่รอดและมีกำไร ดังนี้

1.ทำเลที่ตั้ง

หาทำเลในพื้นที่ชุมชนที่ลูกค้าจะเข้าถึงได้ง่าย เดินทางมาซื้อสินค้าได้สะดวก

2.บริการที่เป็นมิตร

การมีมิตรไมตรีที่ดีต่อลูกค้า เช่น ยิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวคำทักทาย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่รู้จักหรือไม่ก็ตาม จะทำให้ลูกค้าอยากเข้ามาใช้บริการซ้ำ และเกิดการบอกต่อได้ง่าย ดังนั้น เรื่องนี้สำคัญ

3.ให้คำแนะนำได้

สินค้าในปัจจุบันมีหลากหลายและมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป คนขายต้องมีความรู้เพียงพอที่จะอธิบายถึงวิธีการใช้งาน การแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากผู้ขาย

4.สินค้าหลากหลายครบทุกหมวดหมู่

ร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 เปรียบเสมือนร้านขายของทั่วไป การมีสินค้าที่หลากหลายจะทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบาย ในการเลือกซื้อไม่ต้องไปหลายที่ เรียกว่าได้สินค้าครบในราคาประหยัด

5.สินค้าไม่ขาดสต๊อก

เป็นเรื่องน่าเบื่อที่ลูกค้ามักรู้สึก คือ สินค้าที่ต้องการใช้ขาดสต๊อกหรือหมด ทำให้เสียเวลาเดินทาง การจัดการเรื่องสต๊อกสินค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ จะได้งบไม่บานปลายและมีสินค้าจำหน่ายตลอด

6.มีสินค้าแปลกใหม่เป็นประจำ

ปัจจุบันสินค้ามีความหลากหลายต้องหาสินค้าที่แปลกใหม่มาขายบ้าง เช่นคราวนี้ขายหูฟังแบบหนึ่ง คราวหน้าก็มีหูฟังเข้ามาเพิ่มแต่เป็นหูฟังแบบใหม่ จะทำให้ร้านมีสีสัน ลูกค้าก็อยากเข้ามาเลือกซื้อ

7.มีสินค้าให้ตรงกับเทศกาลต่างๆ

ในแต่ละช่วง ในแต่ละเทศกาล ลูกค้าจะซื้อสินค้าที่ตรงกับเทศกาลให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง เช่น ใกล้สงกรานต์ ก็จะซื้อขันน้ำ ซื้อปืนฉีดน้ำ หรือช่วงปีใหม่ ก็จะเป็นอุปกรณ์ประดับประดา ให้ตรงกับปีใหม่ การเตรียมสินค้าตรงกับเทศกาล จะทำให้ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล มาร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 ได้ครบจบในที่เดียว

8.การจัดวางสินค้าเป็นหมวดหมู่

ไม่ว่าร้านสินค้าราคาเริ่มต้น 20 จะมีขนาดเล็กหรือมีขนาดใหญ่ก็ตาม การจัดหมวดหมู่ ให้เลือกสินค้าได้ง่าย

9.มีต้นทุนที่คุ้มค่า

เรื่องต้นทุนเป็นอีกเรื่องสำคัญ เพราะราคาขายหน้าร้านถูกจำกัดที่เริ่มต้น 20 บาท หลายคนจึงมองที่จะทำอย่างไรให้ต้นทุนถูกที่สุด ใครคิดเช่นนี้ต้องระวังมากๆ เพราะจากการสอบถามลูกค้าที่เป็นผู้ใช้ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าสินค้าที่ดูแล้วคุณภาพไม่ดีก็จะไม่ซื้อเพราะซื้อให้ใช้ได้ไม่ดี จึงอยากบอกว่าเวลาเลือกซื้อสินค้าเข้าร้านจึงจำเป็นที่จะต้องตาถึง เลือกสินค้าที่คุ้มค่า ถึงจะแพงกว่าเล็กน้อยแต่ลูกค้าชอบ ลูกค้าปัจจุบันก็ช่างเลือกเรียกว่าคุ้มค่าของลูกค้าที่ลูกค้าซื้อก็น่าจะดีกว่า ผู้ขายบางคนเลือกที่จะซื้อสินค้าที่ต้นทุนต่ำมาก แต่ถ้าลูกค้าไม่มีต้องการ จะทำให้ค้างสต๊อกขายไม่ได้ อย่างนี้ก็จะขาดทุนแน่