กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาสินค้าและการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่เชียงราย ช่วยเกษตรกรและผู้ประกอบการชาปรับตัวรับความท้าทายใหม่ๆ แนะใช้โอกาสจาก FTA ขยายส่งออก พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการจัดตั้งกองทุน FTA
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เตรียมนำทีมกูรูด้านพัฒนาสินค้าและการค้าระหว่างประเทศ ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรและผู้ประกอบการชาจังหวัดเชียงรายอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 13-14 กันยายน 2563 หลังพบว่า ยังมีความท้าทายใหม่ๆ ที่เกษตรกรและผู้ประกอบการชาควรทราบและเตรียมพร้อมรับมือ
รวมถึงเตรียมแสวงหาโอกาสในการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ โดยในวันที่ 14 กันยายน 2563 จะเปิดเวทีสัมมนา “โอกาสของชาไทยในยุคการค้าเสรี” ณ โรงแรมภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการชา
ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการพัฒนาสินค้าและการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งการรับมือกับปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นต้น และการแข่งขันเสรีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งจะได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเออีกด้วย
“สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศที่สามารถเพาะปลูกชาในระดับอุตสาหกรรมได้ เนื่องจากไร่ชาภาคเหนือมีจำนวนมาก ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้าชา โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชาร่วมแสดงสินค้าในงานไทยเฟกซ์ อุตสาหกรรมชาไทยเริ่มมีการสร้างแบรนด์สินค้าของคนไทยเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เป็นในลักษณะ OEM
ซึ่งจะเน้นผลิตเพื่อส่งขายเป็นวัตถุดิบหรือเป็นชาสำเร็จรูป ถือเป็นโอกาสดีในการขยายตัวของอุตสาหกรรมชาไทย ผ่านการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าชาโดยการผลิตชาอินทรีย์ ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคทั้งในไทยและต่างประเทศนิยมรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น กรมฯ จึงเน้นส่งเสริมการพัฒนาความพร้อมของอุตสาหกรรมชาตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการต่อเนื่อง และการใช้ประโยชน์จาก FTA ในการลดต้นทุนการส่งออกในต่างประเทศ” นางอรมน เสริม
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค. – ก.ค.) ไทยส่งออกชาเขียว 492,999 กิโลกรัม มูลค่า 4,663,670 เหรียญสหรัฐ การส่งออกชาดำ 601,818 กิโลกรัม มูลค่า 2,810,489 เหรียญสหรัฐ และส่งออกชาสำเร็จรูป 4,971,111 กิโลกรัม มูลค่า 19,605,063 เหรียญสหรัฐ สำหรับในปี 2562 ไทยส่งออกชาเขียว 1,057,772 กิโลกรัม
มูลค่า 9,487,872 เหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดหลัก คือ อินโดนีเซีย 38% เนเธอร์แลนด์ 12% และมาเลเซีย 9% การส่งออกชาดำ 2,256,078 กิโลกรัม มูลค่า 9,627,122 เหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดหลัก คือ อินโดนีเซีย 40% สหรัฐอเมริกา 18% และกัมพูชา 14% และส่งออกชาสำเร็จรูป 7,032,328 กิโลกรัม มูลค่า 24,577,655 เหรียญสหรัฐ โดยมีตลาดหลัก คือ กัมพูชา 31% เมียนมา 20% และสหรัฐอเมริกา 18%
สำหรับผู้สนใจข้อมูลการค้าระหว่างประเทศและการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ สามารถสืบค้นได้จากเว็บไซต์กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ www.dtn.go.th หรือติดต่อได้ที่ FTA Center โทร 0 2507 7555