นายพลเชษฐ์ ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันพริกขี้หนูผลใหญ่พันธุ์จินดา (พริกเขียวมัน) เป็นพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เนื่องจากตลาดในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มความต้องการพริกเขียวมันอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจังหวัดสงขลาเป็นอย่างมาก ผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 90 ส่งจำหน่ายประเทศมาเลเซีย โดยผ่านพ่อค้าคนกลางเป็นผู้รวบรวมส่งผ่านด่านศุลกากรสะเดา และด่านตรวจพืชปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศมาเลเซียจะนำไปใช้ในการบริโภคผลสดภายในประเทศ ทำเครื่องเทศ และเป็นวัตถุดิบในการผลิตซอสพริก บางส่วนมีการส่งต่อไปยังประเทศสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการส่งออกพริกเขียวมันของจังหวัดสงขลาสูงถึงประมาณ 1,969 ตัน/ปี ส่วนผลผลิตอีกร้อยละ 10 ส่งจำหน่ายตลาดในประเทศ ได้แก่ ตลาดราชบุรี ตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท โดยผ่านพ่อค้าคนกลางเป็นผู้รวบรวม ซึ่งมารับซื้อถึงแหล่งผลิต สำหรับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตพริกแต่อย่างใด ราคาสินค้ายังคงเป็นไปตามกลไกของตลาด อีกทั้งด่านสินค้าเกษตรยังคงมีการขนส่งได้ตามปกติ ประกอบกับจังหวัดสงขลามีการส่งเสริมองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับเกษตรกร จึงส่งผลให้เกษตรกรมีการตื่นตัวและมั่นใจที่จะทำการเพาะปลูก รวมถึงเกษตรกรบางส่วนมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกพริกเขียวมันเพิ่มขึ้น
ด้าน นายสุธรรม ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 จังหวัดสงขลา (สศท.9) กล่าวเสริมว่า จากการลงพื้นที่ของ สศท.9 เพื่อศึกษาสถานการณ์การผลิตและการตลาดพริกขี้หนูผลใหญ่พันธุ์จินดา (พริกเขียวมัน) ในจังหวัดสงขลา พบว่า เกษตรกรนิยมปลูกช่วงต้นเดือนมกราคม เก็บเกี่ยวประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ -ตุลาคม ระยะเก็บเกี่ยว 7-8 เดือน (ใน 1 รอบการผลิต สามารถเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 8-10 ครั้ง) ผลผลิตจะออกมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ประมาณร้อยละ 39 และผลผลิตส่วนที่เหลือจะกระจายออกในเดือนอื่น ๆ ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมันในจังหวัดสงขลา จำนวน 569 ราย ซึ่งพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในอำเภอระโนด และอำเภอกระแสสินธุ์ รวมประมาณ 1,064 ไร่ ผลผลิตรวม 2,188 ตัน โดยต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 56,859 บาท/ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 2,056 กิโลกรัม/ไร่ ผลตอบแทน 59,520 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ 2,661 บาท/ไร่ ราคาที่เกษตรขายได้ ปี 2563 (กุมภาพันธ์ - สิงหาคม) 22 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการของตลาด
สำหรับผลการศึกษาดังกล่าว หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมการผลิต และยังสามารถนำไปช่วยเกษตรกรใช้เป็นแนวทางวางแผนการผลิตในการบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะสม และพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของตลาด เกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งควบคุมคุณภาพการผลิต และควรเฝ้าระวังโรคระบาด เช่น แอนแทรคโนส หรือ โรคกุ้งแห้งในพริก ซึ่งเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum spp พบการระบาดในช่วงฤดูฝน หรือในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันหลายวัน อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลผลิตได้
หากท่านใดที่สนใจข้อมูลการผลิตและการตลาดพริกเขียวมันจังหวัดสงขลา สามารถสอบถามได้ที่ สศท.9 โทร. 0 7431 2996 หรือ อีเมล [email protected]