ด้วยหลายๆองค์กร ทั้งเล็กและใหญ่ในทุกวันนี้ ต่างลุกขึ้นมาปรับตัวในมิติต่างๆ ทั้งเพื่อก้าวข้ามวิกฤติ เพื่อการ ScaleUp ไปจนถึงใส่ใจดูแลสังคมอย่างยั่งยืน ครั้งนี้ขอพาไปศึกษาแนวคิดจากผู้บริหารบริษัท แม่ไก่ กรุ๊ป ที่กล้าเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร และรูปแบบการทำงานใหม่ จนเติบโตได้อย่างน่าประทับใจ
พ่อไก่ ธนพล โวหารบัณฑิตย์ และแม่ไก่ กรรณิการ์ สิริทรัพย์เพิ่มโชค สองผู้บริหารกลุ่มบริษัท แม่ไก่ กรุ๊ป เล่าว่า หลังจากวิกฤติโรคระบาดเมื่อช่วงต้นปี บริษัทได้ปรับเปลี่ยนจากธุรกิจรูปแบบเดิมที่เน้นการขายสินค้าโรงงานผ่านตัวแทนจำหน่าย มาเป็นการชูโมเดลธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์สองแบรนด์หลัก นั่นก็คือ แม่ไก่ค้าส่ง และตลาดนัด 20 พร้อมแตกไลน์ผลิตสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากการขายไส้กรอกอีสานแม่ไก่เพียงอย่างเดียว เช่น ลูกชิ้น หมูปิ้ง ปูอัด ฮอทด็อก รวมถึงผักสด และเนื้อสัตว์ต่างๆ ซึ่งเป็นอาหารรูปแบบเกี่ยวข้องกับสตรีทฟู้ด และใช้ปรุงอาหารในชีวิตประจำวัน พร้อมนำระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในทุกขั้นตอนการทำงาน เน้นการเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านการเรียนรู้ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นสังคมขนาดเล็กที่น่าอยู่
ผู้บริหารแม่ไก่ กรุ๊ป ย้ำว่า การทำธุรกิจอาหารทุกวันนี้ แค่อร่อย คุณภาพดี และสะดวกอย่างเดียวไม่ได้ จึงต้องพัฒนาให้เป็น Multi-Functional เพื่อตอบโจทย์คู่ค้า และผู้บริโภค จึงคัดสรรกลุ่มคู่ค้า และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพอย่างเต็มกำลัง ซึ่งกลุ่มคนที่จะมาเป็นคู่ค้า ไม่จำเป็นต้องเป็นพ่อค้าแม่ค้าอยู่แล้ว แต่ต้องเริ่มจากความต้องการที่จะทำอะไรบางอย่างที่ตัวเองชอบ เพราะถ้าไม่เกิดจากความชอบ เมื่อทำไปซักระยะก็จะหมดไฟ จึงต้องการคุยกับแฟรนไชส์ซีเหมือนเพื่อน เพื่อส่งต่อการทำธุรกิจให้สนุก ควบคู่ไปกับความเข้าใจใส่ใจลูกค้าผู้บริโภค
‘รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์คือการเป็นเพื่อนกัน แล้วค่อยๆ เรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน มันไม่มีใครบนโลกนี้ที่เกิดมาเพอร์เฟค แล้วทำอะไรถูกใจกันไปซะหมด แต่เราเรียนรู้เพื่อไปด้วยกันได้’
แม่ไก่ กรุ๊ป มั่นใจว่าธุรกิจแม่ไก่ค้าส่ง หรือแฟรนไชส์ใส้กรอกอีสานแบบสตรีทฟู้ด และโมเดลตลาดนัด 20 ที่เน้นขายวัตถุดิบสดแช่เย็น และแช่แข็งราคาเดียว แพ็กละ 20 บาท ผ่านการลงทุนตั้งแต่รูปแบบแฟรนไชส์ร้าน Fresh Mart แบรนด์ตลาดนัด 20 หรือการนำตู้แช่แข็งไปวางขายต่างจุดต่างๆ เช่น หอพักนักศึกษา แหล่งชุมชน ฯลฯ ไปจนถึงการลงทุนเริ่มต้น 500 บาท เพื่อซื้อสินค้าราคาส่งได้มากถึง 35 รายการ แล้วนำไปขายปลีกต่อตามตลาดนัดใกล้บ้าน จะสามารถช่วยผู้ประกอบการ SMEs ได้อีกมาก
เพราะรูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนไป วันนี้จึงต้องมองให้เห็นภาพใหญ่ว่าธุรกิจเราจะช่วยใครได้บ้าง ซึ่งภาพที่เราเห็นคือกลุ่มคนมีหลักธรรมาภิบาลนำธุรกิจ โดยจะเริ่มจากช่วยเหลือพนักงานของเราให้เขาทำงานอย่างมีความสุข พร้อมส่งต่อสิ่งดีๆ ไปถึงกลุ่มลูกค้า และแฟรนไชส์ซีก็จะช่วยส่งต่อสิ่งดีๆ ไปยังฐานลูกค้าของเขา จนเกิดเป็นการส่งต่อสิ่งดีๆ ภายในกลุ่มเล็กๆ ผ่านการส่งต่อแนวคิด We are MAEKAI (เราคือแม่ไก่)
M : Mind ใจ (Service Mind)
A : Attitude ทัศนคติคิดบวก
E : Experience เรียนรู้จากประสบการณ์จริง (นอกกรอบ นอกตำรา)
K : Keep Walking เมื่อผิดหวังผิดพลาดยังเดินหน้าก้าวต่อไป
A : Active จริงจัง และทำจริง
I : Innovation นวัตกรรม
‘เราคงไม่สามารถทำให้โลกนี้เป็นสีเหมือนที่เราต้องการได้หมด แต่เราจะเริ่มต้นจากจุดของเราก่อน’
สำหรับการลงทุนกับธุรกิจแฟรนชส์แม่ไก่ค้าส่ง และตลาดนัด 20 นอกจากจะได้รับสินค้า และอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว ยังมีระบบบริหารจัดการ แผนการตลาด พร้อมทีมที่ปรึกษาคอยให้ความรู้ และเทรนนิ่งเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจ ไปจนถึงหาแหล่งเงินทุน ซึ่งทีมงานแม่ไก่ กรุ๊ป มีความพร้อมที่จะมอบองค์ความรู้ และแนวทางการทำงานที่มีประสิทธิภาพให้แฟรนไชส์ซีมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง
ทางด้านการบริการธุรกิจ ผู้บริหารจะเน้นการค่อยๆ ขับเคลื่อนแต่หนักแน่นทุกย่างก้าว เพื่อให้บริษัทเติบโตไปในทิศทางที่ยั่งยืน เพราะวันนี้เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในอดีตบริษัทพยามวิ่งไปข้างหน้าให้ไกลมากที่สุดตามโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนลืมมองคนรอบข้าง และเมื่อถึงจุดที่เริ่มหมดแรงเลยทำให้ต้องหันมานับหนึ่งใหม่ แล้วมองถึงการทำธุรกิจในระยะยาว นั่นคือการทำธุรกิจควบคู่กับส่งต่อโอกาสเพื่อช่วยเหลือสังคม ผ่านการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคง กลับไปสู่คนในชุมชนต่างๆ โดยเป้าหมายภายใน 10 ปี คือการเพิ่มกลุ่มคู่ค้าไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผ่านจุดกระจายสินค้าหลักตามภูมิภาคต่างๆ และระบบ Fulfillment ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับสินค้าแม่ไก่ค้าส่ง และตลาดนัด 20
นอกจากนี้ แม่ไก่ กรุ๊ป ก็ต้องบริหารความเสี่ยงด้วยการทำทุกอย่างให้เหมาะสม และพอดีกับองค์กร เพราะอีกเป้าหมายในอนาคตคือการพาธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ ให้กลายเป็นธุรกิจเพื่อสังคม มีคนเก่งๆ เข้ามาช่วยบริหาร ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ทำกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่ต่อเนื่อง เช่น การมอบทุนการศึกษากับบุตรของพนักงานให้เขาได้เรียนสูงที่สุดตามต้องการ รวมถึงจัดกิจกรรมแจกสิ่งของ-ทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดีตามสถานศึกษาต่างๆ การผลิตน้ำดื่มแจกตามหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะการไปร่วมทำโรงทานในงานวัด ซึ่งได้ทั้งบุญ และทำให้คนรู้จักสินค้าเราด้วย
‘เราพยายามมอง ซีพี เป็นคู่แข่ง เพราะอยากเติบโตให้ได้แบบนั้น พร้อมกับมองเขาเป็นไอดอล ซึ่งเราไม่ได้มองเขาแค่มุมใดมุมหนึ่ง แต่เรามองเขาทุกด้าน 360 องศา ตั้งแต่การทำวิจัยและพัฒนา การบริหารธุรกิจ วิสัยทัศน์ รวมถึงการเป็นผู้นำ และเป็นผู้ให้’
ด้วยจุดแข็งคือเรื่องโปรดัคท์ที่เน้นความอร่อย ขายง่าย กำไรดี มีคุณภาพ วันนี้จึงมีโรงงานผลิตอยู่ 2 แห่ง คือที่บางแค และบางเลน ตามมาตรฐานสากล GMP, HACCP และ ISO ซึ่งนอกจากจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องระบบบริหารจัดการ การหาพาร์ทเนอร์ และการทำแบรนด์ดิ้งแล้ว เรื่องการสร้างทีมที่แข็งแกร่งก็เป็นอีกสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาก เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้งกัน หรือปัญหาต่างๆ เราก็จะผ่านพ้นไปได้ เนื่องจากเรามองเป้าหมายเดียวกัน โดยผู้บริหารจะใช้หลักเมตตาธรรมกับพนักงานทั้งหมดกว่า 300 คน พร้อมใส่ใจเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการต่างๆ ตัวอย่างเช่น เรื่องหอพักพนักงาน ที่เราพยายามทำให้เขาอยู่ดีที่สุด สะดวกสบายที่สุด เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราเป็นครอบครัว
‘มีที่ปรึกษาหลายคนมาดูโรงงาน แล้วบอกว่าที่นี่เจ้านายรักลูกน้องนะ เราถามเขาดูจากอะไร เขาบอกว่าตั้งแต่ไปโรงงานมามากมาย หอพักพนักงานที่นี่ดีมาก ซึ่งเราลงทุนสร้างหอพักพนักงานหลัก 10 ล้าน เพราะเรามองว่าพนักงานคือคนในครอบครัว เขาต้องใช้ชีวิตด้วยความปลอดภัย มั่นคง และแข็งแรงเหมือนกับเรา’
หลังจากได้ปรับโครงสร้างใหม่ เราเชื่อมั่นว่าธุรกิจเรามีความแข็งแรง เพราะจากพาร์ทเนอร์ที่มีอยู่มากมาย ทำให้เราเป็นผู้รับผลิตอาหารรูปแบบ Ready-to-Eat ของธุรกิจขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอีที่มีชื่อเสียงร้านดังหลายแบรนด์ เช่น ร้านหมูทอดเจ๊จง ฯลฯ และล่าสุดที่ไปออกบูธงาน Smart SME Expo 2020 เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็สามารถต่อยอดธุรกิจสูงถึง 70 ล้านบาท และมีโอกาสนำสินค้าจากแบรนด์ตลาดนัด 20 ไปวางจำหน่ายในปั้ม พีที แม็กซ์มาร์ท ส่วนเร็วๆนี้ก็จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ในกรณีฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ เราก็จะเข้าไปเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายที่วางขายเฉพาะไส้กรอกอีสาน ให้มาขายสินค้าหลากหลายมากขึ้น ตามโมเดลธุรกิจตลาดนัด 20 เพื่อเป็นอีกโอกาสการขาย และเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายเล็กๆ
ติดต่อธุรกิจแม่ไก่ 02-100-1605 , 082-553-2896
www.maekai.co.th