เข้าสู่ช่วงปลายปีที่หน้าหนาวกำลังจะได้มาเยี่ยมเยือนประเทศไทย ก่อนเข้าสู่ปี 2564 มีหลายคนตั้งคำถามว่า ช่วงหน้าหนาวเราควรทำอะไรดี ให้ผลประกอบการในปลายปีนี้ดีที่สุด ชี้ช่องรวยมี4ธุรกิจที่ทำในช่วงหน้าหนาวแล้วมีโอกาสรุ่งที่สุดมาแนะนำ
1.ธุรกิจเสื้อผ้า
ในปี 2563 นี้แม้จะเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโควิท -19 และมูลค่าตลาดเสื้อผ้าไทยยังอยู่ที่ 3,186 ล้านบาท คนไทยยังมีการช้อปกระจายถึง 58% หรือมีการซื้อเสื้อผ้าทุกเดือนและเดือนละมากกว่า1ครั้ง โดยเปลี่ยนวิธีการช้อปมาเป็นการสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นในช่วงหน้าหนาวจึงเป็นโอกาสทองของธุรกิจเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวก ถุงเท้า ผ้าห่ม
โดยเฉพาะกลุ่มลุกค้าที่จะหาซื้อเสื้อผ้าคอลเลคชั่นนี้มาใส่ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการลงทุน
แหล่งรับสินค้าที่คนนิยม คือ จากร้านส่งเสื้อผ้าญี่ปุ่นมือสอง ที่ต้นทุนจะอยู่ที่ตัวละ 35 บาท นำไปขายตัวละ 100 บาท กำไรต่อตัว 65 บาท ปัจจุบันมีร้านขายส่งให้ลูกค้ารับไปขายต่อหลายร้าน มีทั้งแบบเปิดหน้าร้านและเปิดเป็นแฟนพจ
2.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ตลาดอาหารและเครื่องดื่มในช่วงครึ่งปีแรกแม้จะซบเซาลงด้วยพิษโควิท-19 แต่ในช่วงปลายปี ที่แนวโน้มตลาดดีขึ้น ทำให้ทั้งร้านอาหารเครื่องดื่มออกโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และมีการเปลี่ยนพฤติกรรมการขายเป็นระบบออนไลน์มากขึ้น ทำให้แม้มูลค่าตลาดทั้งปี 2563 จะเหลือเพียง 3.85-3.89 แสนล้านบาท แต่ก็มีแนวโน้มไปทิศทางที่ดีขึ้นในต้นปี2564ถึง1-5%
เมื่อร่างกายต้องการความอบอุ่นในช่วงหน้าหนาว ธุรกิจอาหารร้อนและเครื่องดื่มอุ่นจึงเป็นที่นิยม เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง สุกี้ ชาบู ข้าวต้ม หรืออาหารว่างกับกาแฟร้อน นมร้อน น้ำเตาหู้ รวมไปถึงผลไม้ตามฤดูกาลที่หาซื้อกินยากหรือราคาค่อนข้างสูงเมื่อซื้อนอกฤดูกาล เช่น สรอเบอรี่ ลูกพลับ
การลงทุนที่เป็นที่นิยมในช่วงนี้ หากมีหน้าร้านก็จะเป็นการเพิ่มเมนูที่เพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย หรือหากจะเริ่มลงทุนที่ไม่ใช้เงินลงทุนมาก ก็สามารถค้นหาสูตรเครื่องดื่มในโลกออนไลน์ แล้วใช้การโพสต์ขาย มีระบบส่งแบบ Delivery ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
3.ธุรกิจเรื่องประทินผิว
ตลาดเครื่องสำอางไทยถือเป็นตลาดเดียวที่ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โรคโควิท แถมยังโตขึ้นถึง 6.7% คิดเป็นมูลค่า 2.18 แสนล้านบาท โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคิดเป็น 42% ของตลาดประทินผิว ในช่วงหน้าหนาววงการเครื่องสำอางค์จึงจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะคนส่วนใหญ่หันมาใส่ใจผิวพรรณมากขึ้น เนื่องจากอากาศหนาว ทำให้ผิวแตกแห้งได้ง่าย สินค้าที่ขายดีและเป็นที่นิยมในช่วงนี้คือ โลชั่นทาผิว ที่ออกมาในรูปแบบต่างๆ ทั้งครีมหรือโลชั่น โดยเน้นไปที่สารให้ความชุ่มชื้น
โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการรับมาขายด้วยระบบตัวแทน ระบบเฟรนไชน์ และต่อยอดไปถึงการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
ปัจจุบันโรงงานผลิตครีมที่ได้มาตรฐาน มีการจัดโปรโมชั่นสำหรับเจ้าของแบรนด์รายย่อยที่ถือว่าใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก โดยเริ่มต้นการผลิตที่ 100 รวม กับเงินลงทุนหลักพันบาท พร้อมมีระบบการตลาดเป็นบริการให้กับลุกค้าที่มาจ้างผลิตอีกด้วย
4.ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ
แม้ในปีนี้ธุรกิจท่องเที่ยวจะซบเซามากทีสุด และมูลค่าการท่องเที่ยวลดลง 84% เมื่อเทียบกับปีก่อน มูลค่าตลาด 7.5 แสนล้านบาท แต่ในปี 2564 นั้นมีแนวโน้มเติบโต 100% โดยการท่องเที่ยวในประเทศจะมีมากถึง 6-7 แสนล้านบาท
ในช่วงหน้าหนาวปลายปีนี้จึงเป็นช่วงที่คนไทยไปเที่ยวมากที่สุด ทั้งเป็นการเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือแม้แต่การวางแผนพักผ่อนมาตั้งแต่ต้นปี ธุรกิจท่องเที่ยในช่วงปลายปีจะเริ่มคึกคักมากขึ้น
การจัดโปรแกรมการท่องเที่ยว แพคเกจท่องเที่ยวในประเทศที่ทำให้น่าดึงดูดใจ การจัดโปรโมชั่นให้ตรงความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมไปถึงการจัดภูมิทัศน์ให้กลายเป็นแหล่งเชคอิน จะส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวขยายวงกล้างมากขึ้น และสามารถสร้างรายได้ในช่วงหน้าหนาวนี้ได้แน่นอน