แน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ประกอบการไม่ว่าจะอาชีพไหนธุรกิจอะไรต้องมี คือ การเป็นนักขายที่ดี ซึ่งการเป็นนักขายที่ดีและประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีเทคนิคที่จะเอาชนะใจลูกค้าให้ได้ วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะขอนำเสนอ เทคนิคจบการขายพิชิตใจ “ลูกค้า” ยอดขายทะลุเป้า มาให้ดูกันมาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
1.เข้าถึงพฤติกรรมของลูกค้าให้ได้
ปัจจุบัน ลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าตามความพอใจ ถ้าเราพอใจกับสินค้านั้น ๆ แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง ก็ยังมีแนวโน้มที่จะซื้อ ดังนั้นการทุ่มเงินไปกับงบโฆษณาอย่างเดียวก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากคนในยุค 4.0 การซื้อสินค้ามักมาจากความพึงพอใจมากกว่า หากสินค้ามีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของลูกค้า มีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนชัดเจน เรื่องราคาก็เป็นเพียงปัจจัยรอง ดังนั้นการที่จะเข้าถึงลูกค้าคุณต้องเข้าถึงพฤติกรรมการซื้อของคนในยุคนี้ และทำการตลาดให้ตรงจุดจึงจะประสบความสำเร็จ
2.สินค้าต้องสร้าง Passion ได้
การเพิ่มยอดขายนั้นไม่ใช่เพียงตัวเลขอย่างเดียว การมุ่งเน้นไปที่ตัวเลขเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะล้าสมัย สำหรับนักการตลาดที่ต้องการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ SME ของตนเองนั้น การมุ่งเป้าไปยังสิ่งที่ท้าทายกว่ามากมายเป็นเรื่องที่แสนสนุก แถมยังได้ยอดขายเพิ่มกลับมาแบบอัตโนมัติอีกด้วย เราคงเคยเห็นแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกที่เน้นไปที่ Passion หรือแรงบันดาลใจของลูกค้า
ยกตัวอย่างเช่น สินค้าประเภทอุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า รองเท้า จะเน้นไปที่การสร้างแรงบันดาลใจมากกว่าประสิทธิภาพของสินค้า แต่แน่นอนที่สุดว่า คุณภาพของสินค้าต้องดีด้วย ลองเปลี่ยนแนวคิดพิชิตความสำเร็จดู หันมาสร้างแรงบันดาลใจ ให้มีกลิ่นอายของความสำเร็จในสินค้าของเรา แล้วยอดขายจะตามมาเอง
3.สินค้าต้องเหนือความคาดหมาย
ลองนึกดูว่าสินค้าหนึ่งชิ้นที่เราตัดสินใจซื้อนั้น เราคาดหวังกับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน แต่สินค้าชิ้นนั้นกับมีคุณสมบัติหรือสามารถใช้งานได้มากกว่าที่เราคาดไว้ เราจะรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าเราต้องประทับใจกับสินค้าชิ้นนั้น จนอาจทำให้เรากลับมาซื้อซ้ำ
ดังนั้นการทำให้สินค้ามีคุณสมบัติที่ใช้งานได้มากกว่า 1 หรือ ดีกว่า จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำตลาด และจะเพิ่มยอดขายให้กับเราได้อย่างไม่ต้องสงสัย เปลี่ยนวิธีคิด แทนที่จะเอา กลับเป็นผู้ให้ ให้กับลูกค้าของเรา ให้เขารักเราจากข้างใน และย้อนกลับมาซื้อ หรือใช้บริการของเราอีกอย่างเต็มอกเต็มใจจะดีที่สุด
4.ใช้ช่องทางออนไลน์เข้าถึงลูกค้า
ในอดีต เราอาจจะคุ้นเคยกับการประชาสัมพันธ์สินค้า หรือบริการให้เกิดการรับรู้เป็นวงกว้าง ผิดกับในปัจจุบันที่เน้นประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ เคล็ดไม่ลับ คือ การไปหาคนที่มี IMPACT กับคนหมู่มาก อย่างเช่น พวกบล็อกเกอร์ หรือแฟนเพจต่าง ๆ มาช่วยโปรโมตสินค้าให้กับเรา แถมค่าใช้จ่ายยังถูกกว่าช่องทางอื่น ๆ มากมาย ลองปรับไปใช้ดูแล้วจะรู้ว่ามันมีอิทธิพลกับคนในยุคโซเชียลอย่างคาดไม่ถึงทีเดียว
5.เปิดรับตัวแทนจำหน่าย
นี่อาจจะไม่ใช่วิธีการใหม่อะไร แต่แน่นอนเป็นวิธีที่ขาดไม่ได้การรับตัวแทนจำหน่ายเป็นหนึ่งในแนวทางการเพิ่มยอดขาย ซึ่งอาจจะช่วยให้กิจการ สินค้า บริการ ของเราเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งการมองหาตัวแทนจำหน่ายก็มีอยู่มากมายหลายวิธีแล้วแต่ว่าช่องทางนั้นๆจะเหมาะกับสินค้าของเราหรือไม่
6.พัมฒนาอยู่เสมอและต้องนำหน้าคู่แข่ง
ในสงตรามการค้า หากเราหยุดนิ่งหรือไม่พัฒนา นั่นหมายถึงเรากำลังปิดฉากธุรกิจของตัวเอง สำหรับผู้ประกอบกิจการโดยเฉพาะธุรกิจ SMEs การที่เราช้ากว่าคนอื่นอาจหมายถึง หายนะของกิจการ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ จงก้าวให้เร็วกว่าคนอื่น เมื่อเราก้าวออกไปจาก comfort zone หรือจุดที่เรารู้สึกสบาย ออกไปสู่สิ่งใหม่ ๆ ไกลจากความเคยชิน หากเราทำสำเร็จเราก็จะสามารถยึดพื้นที่ในใจลูกค้าได้ก่อน นั่นหมายถึงยอดขายที่จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน