ก่อนการระบาดของโควิด-19 การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทำสถิติสูงสุดแตะระดับเกือบ 40 ล้านคน ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวมีสัดส่วนสูงถึงราว 16% ต่อ GDP ไม่เพียงสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว แต่ยังส่งผลดีต่อกลุ่มสินค้าที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่มีอัตลักษณ์ความเป็นไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและถูกมองว่าเป็นของที่ต้องซื้อเมื่อมาเที่ยวเมืองไทย
ในปี 2563 เป็นที่ทราบกันดีว่า จากวิกฤตโควิด-19 ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศมีข้อจำกัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว รวมถึงกลุ่มสินค้าของฝากด้วย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการวิเคราะห์โดยใช้ข้อมูลจาก Google Trend มีข้อสังเกตที่น่าสนใจว่า กลุ่มสินค้านี้หลายรายการถูกค้นหาทางช่องทางออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2563 ก่อนเกิดโควิด-19 สะท้อนว่า สินค้ากลุ่มนี้ได้รับความสนใจและยังเป็นที่ต้องการจากชาวต่างชาติแม้ไม่ได้เดินทางมาซื้อที่ประเทศไทย ดังนั้น หากผู้ประกอบการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยไม่ต้องรอให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ แต่ใช้โอกาสนี้ในการติดปีกสินค้าของฝากไปสู่ตลาดโลก ขยายช่องทางการขายจากในประเทศไปสู่การส่งออก อาจบรรเทาผลกระทบและช่วยให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้
ตัวอย่างสินค้าของฝากที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิกางเกงมวยไทย สืบเนื่องจากมวยไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลก โดยติด 1 ใน 10 ศิลปะการต่อสู้ (Martial Arts) ที่ดีที่สุดในโลก ดังนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทยจึงนิยมซื้อกางเกงมวยใส่ และมักซื้อติดมือกลับประเทศจนกลายเป็นของฝากยอดนิยมจากไทย กางเกงมวยไทยจึงเป็นของฝากอันดับต้นๆ ของไทยจากผลสำรวจของเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างชาติหลายแห่ง เช่น Travelvui, Holidify, Bodega Hostels และ Trip 101 รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์แฟชั่นระดับโลกต่อยอดการออกแบบและจัดแสดงในงาน Milan’s Fashion Week ปี 2562
กางเกงลายช้าง กางเกงเล ผลสำรวจจากเว็บไซต์ The Star ระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะ Backpacker ชื่นชอบกางเกงลายช้างมาก เนื่องจากเวลาเห็นหรือสวมใส่จะนึกถึงประเทศไทย บางรายให้สัมภาษณ์ว่าซื้อทุกครั้งที่มาไทย รวมถึงดาราเกาหลีใต้หลายรายสวมกางเกงลายช้างเมื่อเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกจากนี้ กางเกงลายช้างยังเป็นหนึ่งในสินค้าที่นักท่องเที่ยวอินเดียนิยมซื้อมากที่สุดเมื่อมาเที่ยวไทย
ยาดม เป็น 1 ใน 10 ของฝากที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องไม่พลาดซื้อเมื่อเดินทางมาเที่ยวไทย สะท้อนจากผลสำรวจของเว็บไซต์ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น New York Magazine, Holidify นอกจากนี้ รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่นได้นำเสนอข้อมูลของยาดมและแจกให้ดาราผู้ร่วมรายการ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและเป็นที่ชื่นชอบ ทำให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางมาเที่ยวไทยมักหาซื้อกลับไปด้วย
ยาหม่อง ยาหม่องแบรนด์ไทยได้รับความนิยมและครองส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับต้นๆ ในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านเดินทางมาไทย จึงนิยมซื้อกลับไปด้วยเสมอ
ผลิตภัณฑ์สปาและที่เกี่ยวเนื่อง TripAdvisor เว็บไซต์ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลกจัดให้สปาไทยเป็น “Things to Do in Thailand” และยังเป็น 1 ใน 5 สปาที่ดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของเว็บไซต์ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น Etravel และ TripHobo ดังนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวมาใช้บริการสปาที่ไทย จึงมักซื้อผลิตภัณฑ์สปากลับไปใช้ที่บ้านด้วย เนื่องจากยอมรับในคุณภาพ รวมถึงเพื่อสร้างบรรยากาศการทำสปาที่บ้านให้เหมือนที่ใช้บริการสปาในไทย นอกจากนี้ มีข้อสังเกตว่า สบู่น้ำนมแพะไทยได้รับความนิยมอย่างมากในอินโดนีเซีย หลังจาก Youtuber ชื่อดังของอินโดนีเซียรีวิวว่ามีกลิ่นหอมและให้ความชุ่มชื้น อีกทั้งมีเครื่องหมายฮาลาล ส่งผลให้คำค้นหาเกี่ยวกับสบู่น้ำนมแพะไทยเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด
ผลไม้แปรรูปและอบแห้ง ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้พบว่า 84% ของกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อผลไม้แปรรูปเป็นของฝาก เช่น มะม่วงอบแห้ง ทุเรียนอบแห้ง ทุเรียนกวน และลำไยอบแห้ง นอกจากนี้ ผลไม้แปรรูปและอบแห้งยังเป็น 1 ใน 9 สินค้าไทยขายดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจากการจัดอันดับของ Thaiemarket.com
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า แม้การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลให้การท่องเที่ยวไทยสะดุดลง แต่กลุ่มสินค้าของฝากหลายรายการยังได้รับความสนใจและมีชาวต่างชาติค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการเติบโตของการท่องเที่ยวไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้สินค้าของฝากกลุ่มนี้ที่มีอัตลักษณ์หรือเอกลักษณ์ของไทยได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมในวงกว้าง จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะต่อยอดสู่การส่งออกในตลาดโลกต่อไป อย่างไรก็ตาม การยกระดับจากการขายภายในประเทศไปสู่การส่งออกอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ดังนั้น EXIM BANK จึงพร้อมให้การสนับสนุนด้านการอบรมความรู้แก่ผู้สนใจจะเริ่มต้นธุรกิจส่งออกผ่านศูนย์ความเป็นเลิศด้านการค้า (EXIM Excellence Academy : EXAC) เพื่อบ่มเพาะให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ติดปีกสินค้าของฝากของประเทศไทยไปสู่ตลาดโลก บรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและช่วยให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งขยายตลาดในต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้นในระยะต่อไป