ในทุกการขายใช่ว่าขายดีแล้วจะประสบความสำเร็จ เชื่อหรือไม่ว่ามีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ขายของดีมาก แต่สุดท้ายแล้วกับต้องปิดกิจการลง หรือเรียกง่ายๆ ว่า “เจ๊ง” นั่นมาจากสาเหตุอะไร? วันนี้ ชี้ช่องรวย มีคำตอบ มาดูกันดีกว่าเหตุผลหลักที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาจากอะไร
1.ไม่ใส่ใจ ไม่รู้ต้นทุนสินค้า
สาเหตุนี้เป็นสาเหตุใหญ่เลย เพราะถ้าเราไม่รู้ต้นทุนที่แท้จริงของสินค้า เราก็จะไม่มีทางรู้ว่า ราคาสินค้าที่เราตั้งไว้จะสร้างกำไรต่อหน่วยให้แก่เราเท่าไหร่ และจะมีกำไรมากพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหรือไม่ แม้ว่าเราจะขายดีเท่าไหร่ แต่หากเรามีต้นทุนที่สูง โอกาสเจ๊งก็มีสูงเช่นกัน
2.ไม่มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย
ผู้ประกอบการ SME ขนาดเล็กโดยส่วนใหญ่มักจะละเลยเรื่องนี้ บางท่านไม่มีความรู้ด้านบัญชี บางท่านไม่มีเวลาทำเพราะขายดีมาก จึงคิดว่าไม่เป็นไรไว้ทำทีหลังก็ได้ แต่รู้ไหมว่า ถ้าเราไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่ายไว้ เราก็จะไม่รู้กระแสเงินสดของตนเอง สุดท้ายรายจ่ายอาจจะมากกว่ารายรับโดยที่เราไม่รู้ตัว
3.ไม่มีการจัดสรรเงินที่ได้มา
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนการทำธุรกิจแบบไม่เป็นระบบ เพราะไม่มีการวางแผนและการจัดสรรรายรับกับรายจ่ายของบริษัท อยากจ่ายอยากซื้ออะไรก็ทำตามใจ ไม่บริหารจัดการให้เป็นส่วนๆ เช่น ค่าใช้จ่ายวัตถุดิบกี่ %, ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกี่ %, เงินสดสำรองฉุกเฉินกี่ % เป็นต้น
4.ไม่ดูแลสต็อกสินค้า ทำให้เกิดต้นทุนจม
อีกเรื่องที่มักเป็นปัญหาสำหรับ SME พอขายดีก็สั่งสินค้าหรือผลิตสินค้าเข้าคลังสินค้าจำนวนมาก โดยไม่ได้คิดเลยว่า ปริมาณสินค้าที่อยู่ในคลังมีจำนวนที่สอดคล้องกับยอดขายหรือไม่ เพราะไม่ได้มีการเก็บข้อมูลสถิติการขายสินค้าในช่วงที่ผ่านมา เพื่อมาใช้ในการประเมินปริมาณของสินค้าที่จะสั่งหรือผลิตเข้ามาเก็บในสต๊อก สุดท้ายเมื่อมีสต๊อกสินค้ามากเกินไป นอกจากเงินจมแล้ว ถ้าสินค้าเสียหายก็จะกลายเป็นเงินที่สูญเปล่าไป
หลายคนคงคิดว่า ขอให้ขายดีก่อนแล้วค่อยมาคิดจัดการกับระบบต่างๆ ในภายหลัง ซึ่งมันอาจจะไม่ทันการ เพราะนอกจากจะเสียแรงที่ลงไปฟรีๆ แล้วยังต้องเสียเงินที่เป็นรายได้อีกด้วย