โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

อยากเปิดร้านขาย “เครื่องสำอาง” ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ ต้องเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง

สินค้าสำหรับคุณผู้หญิงยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมที่ทำยอดขายได้ดีอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะยุคไหน โดยเฉพาะ “เครื่องสำอาง” วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงได้รวบรวมข้อมูลการเปิดร้านเพื่อเป็นแนวทางให้กับใครก็ตามที่กำลังอยากจะทำธุรกิจนี้ได้นำไปใช้ประกอบ มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง

1.งบประมาณ

ในเรื่องของงบประมาณ อันดับแรกเราต้องรู้ก่อนว่าความต้องการเปิดร้านอยู่ที่ขนาดไหน เพราะขนาดของร้านมีผลต่อต้นทุนมาก เบื่องต้นควรมีงบประมาณตั้งแต่ 50,000 – 100,000 บาท โดยต้นทุนส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้แก่

  • ค่าสินค้า ประมาณ 50,000 บาท
  • ค่าเช่าพื้นที่ ประมาณไม่เกิน 10,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ภายในร้าน ประมาณ 10,000 – 15,000 บาท
  • เงินทุนสำรอง 20,000 – 30,000 บาท

หมายเหตุ : ความผันแปรของงบประมาณจะขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าหรือเกรดของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับว่าผู้ลงทุนจะเลือกกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน รวมไปถึงค่าเช่าสถานที่ ต้นทุนผันแปรต่างๆ

2.ต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ

เรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ปัจจุบันนี้เครื่องสำอางมีอยู่หลายประเภท หลายแบรนด์ และหลายระดับ มีทั้งอย่างที่เป็นการทำจากสารสังเคราะห์ อย่างที่เป็นสมุนไพร คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป

3.ประเภทของสินค้าที่จะนำมาขาย

  • เครื่องสำอาง
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับผม
  • ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย
  • อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับทำผม แปรงต่างๆ กระเป๋า เป็นต้น
  • สินค้าเบ็ดเตล็ด เช่น กิ๊ฟติดผม ยางรัดผม เล็บปลอม ขนตาปลอม กาว หวี กระจก เป็นต้น

หมายเหตุ : ในช่วงเริ่มต้นนั้นอาจจะเน้นไปที่ เครื่องสำอาง และค่อยขยับขยายไปยังหมวดสินค้าอื่นๆ ข้างต้น

4.เลือกสินค้าที่ได้มาตรฐาน

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าที่มีความอ่อนไหวมาก หากสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือเป็นสินค้าลอกเลียนแบบอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจหรือมากไปกว่านั้นลูกค้าอาจเกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นเวลาเราซื้อจากแหล่งผลิต เราต้องแน่ใจ มีการรับประกันคุณภาพ สินค้าไม่บุบสลาย ไม่หมดอายุ ในส่วนของร้านค้าเองก็ต้องมีการรับประกันคุณภาพกับลูกค้าด้วย นับเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการระหว่างการขายและหลังการขายและที่สำคัญที่สุด

5.เลือกทำเลที่ตั้งให้เหมาะสม

ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมลคนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น

6.จัดร้านให้เหมาะสม

สิ่งสำคัญของร้านเครื่องสำอางต้องแบ่งหมวดหมู่ให้ชัดเจนเพื่อง่ายต่อการค้นหา จัดโชว์สินค้าให้เห็นเด่นชัด พร้อมติดป้ายราคาให้ชัดเจน มีตัวเทสสินค้าให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ และต้องมีกระจกติดไว้ตามที่ต่างๆ ด้วย

7.เน้นการบริการ

เนื่องจากร้านค้าเรามีหน้าร้าน จึงมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาหาเราอยู่ตลอดเวลา เราหรือพนักงานขายของเราต้องมีความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถตอบคำถามต่างๆ ให้ลูกค้าได้อย่างกระจ่าง สามารถแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ หรือหากเรามีระบบการขายออนไลน์ด้วย ก็ต้องสามารถตอบคำถามลูกค้าบนออนไลน์อย่างทันท่วงที เพราะหากปล่อยนานไป การขายบนออนไลน์จะไม่ประสบความสำเร็จ

8.การทำการตลาด

นอกจากมีหน้าร้านและการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เช่น ซื้อครบ 2,000 บาท รับส่วนลด 20 เปอร์เซ็นต์ ช่องทางออนไลน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย ควรมุ่งเน้นไปทาง Social media ต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์หรือเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขาย

9.สินค้าต้องห้าม

สินค้าที่ไม่ผ่าน อย. มาขายในร้าน นอกเหนือจากไม่ได้มาตรฐานแล้ว เมื่อ อย.จับได้ ยังผิดกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ยิ่งหากมีการแนะนำสินค้าลงไปบนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือโซเชียลต่างๆ หาก อย.จับได้ จะถูกลงโทษทั้งในแง่ปรับและจำคุก