ก.เกษตรฯ เตือนชาวสวนทุเรียน อย่าตัดผลอ่อนขาย หวั่นฉุดราคาตกต่ำ ขู่ตรวจพบฟันไม่เลี้ยงโทษจำคุก 3 ปี ย้ำ หากตัดก่อน 10 เม.ย.64 ต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรอำเภอ คุมคุณภาพผลผลิต
จากกรณีพบขบวนการลักลอบตัดทุเรียนอ่อนส่งขายตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และใกล้เคียง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะล้งรับซื้อผลิตผลิตจากชาวสวนเพื่อส่งออก
ทั้งนี้ ในช่วง เดือนมีนาคม – พฤษภาคม ของทุกปี จะเป็นช่วงที่ผลผลิตทุเรียนในภาคตะวันออกเริ่มออกสู่ตลาด โดยในช่วงต้นฤดูกาลจะมีราคาสูง เนื่องจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดยังมีปริมาณน้อย และมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าผ่านพ่อค้าคนกลาง รวมถึงล้งอีกจำนวนมาก ทำให้อาจเกิดแรงจูงใจรีบตัดทุเรียนขายก่อนจะถึงเวลาเพื่อทำกำไร
ดังนั้น เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของผลผลิต ในเรื่องคุณภาพของทุเรียนและผลกระทบด้านการตลาด หากเกษตรกรมีผลผลิตที่พร้อมตัดจำหน่ายก่อนวันที่ 10 เม.ย.64 หากต้องการจะตัดจำหน่ายจะต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครเกษตร หรือเกษตรอำเภอ ก่อนตัด ซึ่งจะช่วยควบคุมคุณภาพผลผลิตก่อนออกสู่ตลาดได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การตัดทุเรียนอ่อน หรือด้อยคุณภาพออกจำหน่ายนั้น มีความผิดทั้งเกษตรกรผู้ปลูก และพ่อค้าคนกลางที่รับมาจำหน่าย โดยเป็นการทำลายความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคและอาจส่งผลให้ราคาทุเรียนตกต่ำลงและสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนเองในระยะยาวด้วย
สำหรับบทลงโทษทางกฎหมาย ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 ผู้ใดขายโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพ หรือปริมาณแห่งของอันเป็นเท็จนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 47 ผู้ใดเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ