จากมาตรการควบคุมโรคที่เพิ่งประกาศออกมาให้ “ร้านอาหาร” ที่อยู่ใน “พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด” เปิดจำหน่ายเฉพาะซื้อกลับเท่านั้น วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำช่องทางการขายที่ผ่านแอปฯ Delivery แบรนด์ต่างๆ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ มาดูกันว่าจะมี แอปฯ และขั้นตอนอย่างไรบ้าง
1.GrabFood
5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood
- สมัครเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood ผ่านเว็บไซต์ Grab
- ภายใน 5 นาที รับอีเมลพร้อมรหัสร้านค้าเพื่อกรอกแบบฟอร์มข้อมูลร้านค้าและแนบเอกสารสำคัญ กดส่ง
- Grab ทำการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารของร้านค้า และจะได้รับอีเมลแจ้งผลภายใน 3-5 วันทำการ เมื่อเอกสารผ่าน ร้านค้าจะได้รับเอกสารสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอีเมล และเซ็นชื่อในสัญญา
- ภายใน 2 ชั่วโมง หลังจากเซ็นสัญญา ร้านค้าจะได้รับอีเมลเพื่อศึกษาวิธีการเปิดระบบร้านค้า ดาวน์โหลดแอปฯ
- เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านชั่วคราวจาก Grab ก่อนกำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานด้วยตนเอง จากนั้นเพิ่มเมนูอาหาร เปิดสถานะร้านค้า และเสิร์ฟออเดอร์ของคุณได้เลย!
หมายเหตุ หากมีข้อมูลหรือเอกสารไม่ผ่าน (หลังจากการตรวจสอบในขั้นตอนที่ 3 หรือหลังจากเซ็นสัญญาในขั้นตอนที่ 4) ร้านค้าจะได้รับอีเมลเพื่อแจ้งแก้ไขข้อมูลและแนบเอกสารที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ จะต้องส่งมอบเมนูอาหาร หลักฐานและเอกสารต่าง ๆ เพื่อทำการอัปโหลดขึ้นทางหน้า App Grab Food ด้วย โดยเอกสารที่ใช้ในการทำสัญญา ได้แก่
สำหรับบุคคลทั่วไป
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือกรุงศรีอยุธยา (ต้องมีรายการเคลื่อนไหว)
สำหรับร้านค้าเป็นนิติบุคคล
- สำเนาใบจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)
- สำเนาใบจดทะเบียนรับรองบริษัท ที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (โดยวันที่ออกหนังสือรับรองจะต้องไม่เกินระยะเวลา 3 เดือน นับจากวันที่มีผลบังคับใช้)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ
- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทย หรือกรุงศรีอยุธยา (ต้องมีรายการเคลื่อนไหว)
ข้อควรรู้เบื้องต้นกับการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Grab Food
- GrabFood มีการเก็บค่าบริการรายเดือน คิดเป็นเปอร์เซ็นจากยอดขายผ่านแกร็บฟู้ดเท่านั้น และไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเรียกเข้าแต่อย่างใด
- ราคาอาหารใน Grab Food บางร้านจะมการบวกราคาเพิ่ม
- ทำให้ราคาหน้าร้านกับราคาใน App ไม่ตรงกัน
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GrabFood
2.Line Man
สมัครง่ายๆ ด้วย 4 ขั้นตอน
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Wongnai Merchant App (RMS) ฟรี ! iOS หรือ Android
- กรอกข้อมูลร้านค้าลงบน Wongnai Merchant App (WMA) เปิดแอปพลิเคชันขึ้นมา แล้วกด "ลงทะเบียนร้าน" (Sign up) ระบบจะพาไปหน้าลงทะเบียนร้านเดลิเวอรี่
- เพิ่มข้อมูลร้านให้ครบถ้วน กรอกชื่อร้าน แล้วกดลงทะเบียน หากไม่พบ ให้กด “คลิกที่นี่ เพื่อใส่ข้อมูลเอง” จากนั้น กรอกชื่อร้าน ประเภทธุรกิจ หมวดหมู่ เลือกตำแหน่งร้านค้าจากแผนที่ รายละเอียดผู้ติดต่อ ให้ครบถ้วนและเลือกความสนใจ
- รอรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตน
หลังจากลงทะเบียนแล้วจะได้รับรหัส OTP และคู่มือการใช้งานแอปพลิเคชัน ผ่านทาง SMS กรอกรหัส OTP ลงไปในแอปพลิเคชัน จากนั้นกรอกข้อมูลร้านและเมนูที่ขายตามคู่มือที่ได้รับ ก็เป็นอันเสร็จ เตรียมเริ่มขายผ่าน LINE MAN ได้ทันที
-------------------
3.Foodpanda
วิธีสมัคร
- ลงทะเบียนออนไลน์ที่ foodpanda.co.th
- รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่ออนุมัติร้านอาหาร หลังจากผ่านการตรวจสอบร้านค้าจะได้รับอีเมลเพื่อกรอกข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง
- ร้านค้าจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมผ่านลิงก์ที่แนบไปในอีเมลในข้อที่ 2. ให้ถูกต้องครบถ้วน
- รอทางเจ้าหน้าที่ของ Foodpanda ติดต่อกลับเพื่อขอรายละเอียดเมนูและยืนยันการเซ็นสัญญา
- ทำการตรวจสอบเมนูอาหารและสร้างร้านค้าบนระบบ
- Foodpanda จะมอบแท็บเล็ตให้ใช้งาน
- เจ้าหน้าที่ Foodpanda ให้คำปรึกษาและแนะนำการใช้งานแท็บเล็ตผ่านทางโทรศัพท์
- สามารถเปิดร้านอาหารบน Foodpanda เพื่อรับออร์เดอร์ได้เลย
ข้อควรรู้เบื้องต้นกับการเป็นพาร์ทเนอร์กับ Food Panda
- Food Panda จะคิดค่าคอมมิชชัน 35% จากมูลค่าของออเดอร์ทั้งหมดที่สั่งผ่านทาง Food Panda สำหรับออเดอร์ที่ชำระผ่านบัตรเครดิต จะทำการละเว้นค่าธรรมเนียม 3% ให้
- ร้านค้าที่ใช้บริการผ่าน Food Panda จะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม แม้ไม่ได้เป็นร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจาก Food Panda เป็นบริษัทที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยภาษีมูลค่าเพิ่มจะถูกคำนวณจากค่าคอมมิชชั่นที่ทางร้านจะต้องจ่ายเรา (ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าออเดอร์ 100 บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ส่วนแบ่งของ Food Panda จะเท่ากับ 35 บาท + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.45 บาท ในขณะที่ส่วนแบ่งของทางร้านจะเป็น 62.55 บาท)
สอบถามเพิ่มเติมสามารถส่งอีเมลมาได้ที่ [email protected]
4.Gojek
วิธีสมัคร
เดิมคือ Get Food แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น Gojek Thailand โดยหากต้องการเป็นพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร สามารถสมัครได้ดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ gojek.com
- กดเลือกพาร์ตเนอร์ร้านอาหาร
- กรอกข้อมูลเบื้องต้น และกดยอมรับ
- หากร้านอาหารตรงตามเงื่อนไข จะได้เข้าสู่หน้ากรอกรายละเอียด และเขียนสัญญาการเข้าขายอาหารกับ Gojek ต่อไป
ข้อควรรู้ก่อนสมัครเป็นพาร์ทเนอร์กับ Gojek
- การบริการของ Gojek จะมีค่าคอมมิชชันที่ 30% (ไม่รวม VAT 7%)
- ร้านค้าจะต้องมีสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในระบบ Android เพื่อใช้สำหรับแอปพลิเคชัน GoBiz ในการจัดการร้านค้า
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Gojek
5.Robinhood
วิธีสมัคร
ผู้สมัครต้องมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ก่อน จึงสามารถลงทะเบียนร้านอาหารของตัวเองได้ หากมีบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์แล้วให้ทำตามขั้นตอนนี้
- ดาวน์โหลดแอปฯ Robinhood Shop (ดาวน์โหลดสำหรับ iOS และ Android)
- กดสมัครผ่านแอปฯ SCB EASY (ถ้ายังไม่มีแอปฯ SCB EASY ให้ดาวน์โหลดและลงทะเบียนก่อน)
- เข้าสู่ระบบแอปฯ SCB EASY
- กดอนุญาตให้ Robinhood เข้าถึงข้อมูล
- กดยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ
- เลือกผู้ให้บริการจัดส่ง และกดตกลง
- กรอกข้อมูลเจ้าของร้าน และรายละเอียดต่าง ๆ
- อัปโหลดรูปอาหาร
- กรอกรายละเอียดของร้าน เลือกประเภทอาหาร
- กรอกข้อมูลที่ตั้งร้านค้า
- เลือกบัญชีรับเงินและหักเงิน (เฉพาะบัญชีออมทรัพย์ หรือเดินสะพัดส่วนบุคคลเท่านั้น) แล้วกดยอมรับเงื่อนไข
- กรอกรหัส OTP ที่ได้รับทางโทรศัพท์
- สมัครใช้งานสำเร็จ รอรับอีเมลแจ้ง password เข้าใช้งาน จากนั้นล็อกอินเข้าระบบ Robinhood ได้เลย
เงื่อนไขการสมัครเบื้องต้น
- ต้องมีบัญชี SCB ประเภทออมทรัพย์ หรือเดินสะพัด
- มีแอปพลิเคชัน SCB EASY
- เป็นร้านขายอาหาร รวมขนม และเครื่องดื่ม พร้อมสั่ง พร้อมส่ง พร้อมทาน ไม่รวมการขายอาหารสัตว์เลี้ยง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Robinhood