การเลือกทำเลให้เหมาะสมส่วนใหญ่แล้วจะขึ้นอยู่กับว่าเราจะเปิดธุรกิจอะไร ซึ่งแต่ละทำเลความเหมาะสมแตกต่างกันออกไป ถ้าเป็นธุรกิจค้าปลีก ย่อมให้ความสำคัญกับทำเลที่มีผู้ซื้อหนาแน่น

แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการโรงงาน ก็คำนึงถึงความสะดวกในการส่งมอบสินค้าให้ทันเวลา แรงจูงใจจากภาครัฐ ความใกล้แหล่งวัตถุดิบและลูกค้า และองค์ประกอบอีกมากมายเป็นข้อควรพิจารณาตามมา แต่วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาพูดถึง 5 เรื่องที่ต้องพิจารก่อนตัดสินใจเลือก “ทำเลเปิดแฟรนไชส์” มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง

1.จำนวนประชากรต่อพื้นที่

อันดับแรกสุด คุณต้องมองหาที่ที่มีคนมากพอที่จะซื้อสินค้าของคุณ ถ้าสมมติว่าคนเดินผ่านหน้าร้านคุณ 100 คน มี 10 คนที่จะเข้ามาซื้อสินค้าของคุณ สถานที่แห่งนั้นควรจะเป็นที่ไหน ห้างสรรพสินค้า หน้าโรงเรียน ใกล้มหาวิทยาลัย ในโรงพยาบาล ใต้อาคารคอนโดมิเนียม ตลาดนัด ตลาดสด บนสถานีรถไฟฟ้า BTS ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในขนส่งหมอชิต ริมทางเท้า หน้าโรงงาน ห้องแถวหน้าหมู่บ้าน หรือแม้แต่หน้าบ้านของคุณเอง ทำเลที่ตั้งจะเป็นตัวกำหนดประเภทของธุรกิจที่เหมาะสมให้กับคุณไปโดยปริยาย

2.คาดการณ์รายได้ประชากรในพื้นที่นั้น

ตัวแปรข้อที่สองคือความสามารถในการจับจ่ายซื้อของ ถ้าคุณได้ทำเลขายของหน้าโรงเรียน สินค้าไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่ต้องซื้อได้บ่อย ยิ่งมีคู่แข่งน้อยๆ โอกาสขายดีก็มีมาก แต่ถ้าเปิดร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ถึงผู้ที่เดินเข้ามาช้อปปิ้งจะมีความสามารถในการจับจ่ายซื้อหา แต่ด้วยความที่มีคู่แข่งล้นหลาม คุณก็ต้องแน่ใจว่าธุรกิจของคุณ โดดเด่น มีเอกลักษณ์ เป็นที่ต้องการอย่างแท้จริง รายได้ประชากรในพื้นที่ก็อาจจะไม่ต้องสูงเสมอไป สมมติว่าคุณเปิดร้านที่ตอบโจทย์พนักงานโรงงาน สินค้าของคุณอาจไม่จำเป็นต้องแพง แต่มีคุณภาพ สมราคา และตอบโจทย์ลูกค้า ซื้อหาได้บ่อยๆ คุณก็มีสิทธิ์รวยเท่ากับเปิดร้านในห้างเหมือนกัน

3.ความสะดวกสบายมีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าร้านของคุณอยู่ริมถนน ก็ต้องดูที่จอดรถว่าสะดวกมากน้อยแค่ไหน ถ้าร้านอยู่ซอยลึกเกินไปควรจะทำป้ายชี้ทางอย่างไร ลูกค้าจึงจะอยากเดินเข้าไปถึง แต่ถ้าร้านของคุณตั้งอยู่ในห้าง ก็ต้องดูว่าโซนที่ตั้งของร้านอยู่ในตำแหน่งไหน ถูกจัดวางอย่างไร หายาก หาง่ายเพียงใด อยู่หน้าประตูห้าง อยู่กลางห้าง ใกล้น้ำพุ ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต หรืออยู่ในหลืบมุมในสุด หากเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันทั้งหมด เช่น โซน IT ทุกร้านขายโทรศัพท์และสินค้าที่เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรให้ร้านคุณแตกต่างจากร้านที่อยู่ติดกัน ข้อนี้ก็เป็นศิลปะในการตกแต่งร้านให้ดึงดูดใจลูกค้าอีกที

4.สภาพการแข็งขันและค่าเช่าพื้นที่

เป็นปัจจัยที่คุณต้องนำมาพิจารณาควบคู่กัน ค่าเช่าที่แพงแต่แนวโน้มจะมีรายได้ที่คุ้มค่าการลงทุนเนื่องจากไม่มีคู่แข่ง หรือค่าเช่าที่ปานกลางแต่ค่อนข้างมีคู่แข่งสูง หรือค่าเช่าที่ถูกแต่เจ้าของร้านนั่งหาวและตบยุงทั้งวัน เพราะไม่มีทั้งคนเดิน ไม่มีทั้งคู่แข่งที่เป็นแรงดึงดูดลูกค้า เหล่านี้มีผลต่อความสำเร็จทั้งมวล

5.รูปแบบผังของพื้นที่

ให้ดูว่าที่เหมาะสมกับการจัดวางสินค้าหรืออกแบบบริการของคุณหรือไม่ เพียงใด พื้นที่ใหญ่ๆ เล็กไป เป็นแนวลึก เป็นแนวตื้น ก็ต้องดูที่ผังพื้นที่อีกที

หากมีพื้นที่หลายแห่ง ตัดสินใจไม่ถูกเนื่องจากมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน อาจจะต้องลงไปสำรวจพื้นที่ นั่งสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า ลองสอบถามพูดคุยกับร้านค้าในละแวกนั้นดูเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม แล้วลองนำปัจจัยทั้งหมดมาลงในตารางเพื่อเปรียบเทียบให้คะแนน หาจุดคุ้มทุนของทำเลที่ตั้ง ตลอดจนการเปรียบเทียบระยะทางที่จะเอื้ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของคุณหรือของพนักงาน รวมถึงดูเงื่อนไขของอายุสัญญาการให้เช่าพื้นที่ด้วย