โฆษก ศบค. ชี้แจง มาตรการ “ล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด” ขอความร่วมมืองดออกจากบ้านช่วงกลางวัน หากไม่มีเหตุจำเป็น พร้อม “เคอร์ฟิว” กลางคืนตั้งแต่ 21.00-04.00 น. พื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม มีผล 14 วัน ตั้งแต่วันนี้ 20 ก.ค.เป็นต้นไป
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด 19 (ศบค.) กล่าว ในวันที่ 20 ก.ค.64 จะเริ่มใช้ "มาตรการล็อกดาวน์ขั้นสูงสุด" ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และจังหวัดที่เพิ่มมา ได้แก่ อยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา
ทั้งนี้ขอให้ประชาชน งดภารกิจที่ต้องออกเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น นอกจากเคอร์ฟิวแล้ว ในช่วงเวลากลางวันขอให้งดการเดินทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
โดยกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นให้สามารถเดินทางออกนอกเคหสถานในเวลากลางวัน ได้แก่ การจัดการเครื่องอุปโภคบริโภค อาหาร ยา เวชภัณฑ์ การพบแพทย์ รับบริการสาธารณสุข รักษาพยาบาล รับวัคซีน หรืออาชีพที่มีความจำเป็นต้องปฏฺิบัติงานที่ไม่สามารถทำงานที่บ้านได้
ขณะเดียวกันจะมีการตั้งด่านตรวจ และจุดสกัดของทหาร ตำรวจ ภายในพื้นที่ 13 จังหวัดดังกล่าว รวมทั้งด่านตรวจเพื่อควบคุมการเดินทางเข้าออก 6 จังหวัด กทม.-ปริมณฑล โดยใช้ชุดตรวจที่ชื่อว่า "ชุดตรวจเข้มแข็ง"
สำหรับบุคคลที่ได้รับการยกเว้นเรื่องการงดออกนอกเคหสถาน 6 กลุ่ม ได้แก่
- เจ้าหน้าที่ทางด้านการสาธารณสุข
- การขนส่ง อาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมัน เชื้อเพลิง ไปรษณีย์ พัสดุ สิ่งพิมพ์ สินค้าเพื่อส่งออก นำเข้า
- การขนย้ายประชาชน
- การให้บริการประชาชน
- การประกอบอาชีพจำเป็น ไม่สามารถทำงานนอกสถานที่ได้
- กิจกรรมอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวลากลางคืนนั้น ยังคงมาตรการ “เคอร์ฟิว” โดยให้งดออกจากบ้านในเวลา 21.00-04.00 น. ซึ่งขยายไปอีก 14 วัน นับจากวันที่ 20 ก.ค.64 เป็นต้นไป