ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ อะไรที่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ก็ควรประหยัด หรือมองหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้มาไว้ใช้จ่ายกันในครอบครัว วันนี้ ชี้ช่องรวยมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเราประหยัดค่าใช้จ่าย แถมต่อยอดสร้างรายได้โดยการปลูกพืชผักไว้รับประทาน มีเหลือเยอะก็สามารถเอาไปขายได้ มาดูกันว่าจะมีพืชผักชนิดไหนบ้าง

1.ผักบุ้งจีน

จัดเป็นพืชผักที่นิยมปลูกรับประทานเองในบ้าน และยังใช้พื้นที่เพาะปลูกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ในแปลงปลูก ในกระบะ ยางรถยนต์ กระถางต้นไม้ หรือจะทำกระถางโมบายจากขวดพลาสติกก็จะช่วยประหยัดพื้นที่ไปได้อีกเยอะ และเนื่องจากธรรมชาติของผักบุ้งจะเติบโตเร็ว ซึ่งหลังจากหว่านเมล็ดผักบุ้งจีนเพียงระยะเวลาเพียง 2 วัน ก็จะเริ่มงอกเป็นต้นกล้า

ซึ่งปัจจุบันมีผู้บริโภคนิยมรับประทานต้นอ่อนของผักบุ้งเนื่องจากมีวิตามินและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย หรือหากปลูกไว้ประมาณ 20 – 25 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว นอกจากนี้ ผักบุ้งจีนยังปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด ปลูกได้ทั้งแบบหว่านเมล็ด หรือแบบแยกหน่อ และยังชอบแสงแดดเต็มที่ซึ่งเหมาะกับประเทศไทยมาก

2.ต้นอ่อนทานตะวัน

ปัจจุบันต้นอ่อนทานตะวันเป็นพืชผักที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากสามารถนำไปทำอาหารรับประทานได้อย่างหลากหลาย แถมยังมีแร่ธาตุสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย จะเห็นว่ามีผู้บริโภคไม่น้อยที่นำยอดอ่อนทานตะวันไปทานเป็นอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก เพราะมีกากใยสูง

นอกจากนี้ยังเป็นพืชผักที่ปลอดสารพิษเพราะไม่ใช้สารเคมีในการเพาะปลูก แถมยังเก็บเกี่ยวได้ไวเพียงแค่ 7 วัน ตั้งแต่เริ่มเพาะเมล็ดก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว แถมยังเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ย โดยเพาะเมล็ดทานตะวัน 1 กก. ใช้น้ำรดวันละ 1 ลิตร 7 วันก็แค่ 7 ลิตรเท่านั้นเอง ใครที่สนใจหารายได้เสริม พืชชนิดนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีพอสมควร

3.ผักกาดหอม หรือ ผักสลัด

เป็นพืชผักที่กำลังฮิตติดกระแสผู้รักสุขภาพอย่างมาก จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพแห่งไหน จะต้องมีพืชผักชนิดนี้ประดับกับเมนูอาหารในทุกรูปแบบ บางคนเริ่มจากการปลูกในกระถางหรือกระบะแปลงปลูกเล็กๆ ก็สามารถมีผลผลิตส่งขายตามร้านอาหารเพื่อสุขภาพ หรือผักที่นิยมปลูกและรับประทานมาก ผักกาดหอม หรือ ผักสลัด สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ แต่จะปลูกได้ดีในดินร่วน และเป็นพืชที่ชอบแดดจัด เพียงให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 40-50 วัน หลังเมล็ดงอก

4.ถั่วงอก

เป็นพืชผักที่เพาะง่ายและใช้เวลาการเพราะปลูกน้อยที่สุด ในบรรดาพืชผักทั้งหลาย โดยใช้เวลาเพียงแค่ 4 วันเท่านั้นก็สามารถนำมาทำอาหารหรือส่งขายได้ ความพิเศษของถั่วงอกคือ ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ย เพียงให้น้ำอย่างเดียว ที่สำคัญไม่จำกัดพื้นที่เพาะปลูก จะปลูกที่ไหนอย่างไรก็ได้

5.กวางตุ้ง

ผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ความพิเศษ คือ สามารถปลูกในพื้นที่ขนาดเล็ก หรือในกระถางได้ โดยที่นิยมปลูกแบบ 2 วิธี คือ การปลูกแบบหว่านเมล็ดโดยตรง และการปลูกแบบโรยเมล็ดเป็นแถว ผักชนิดนี้ต้องน้ำในปริมาณมาก จึงควรหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้หยุดชะงักการเจริญเติบโต โดยใช้ระบบพ่นฝอยหรือใช้สายยางติดหัวฝักบัวในการรดน้ำ ผักกวางตุ้งยังใช้ระยะเวลาประมาณแค่ 30-35 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว

6.มะระ

เป็นพืชผักล้มลุกลำต้นเป็นเถา ชอบดินร่วนซุย น้ำไม่ขัง เป็นพืชผักที่มีอายุสั้น หากนับจากวันเริ่มปลูกถึงวันเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 45-55 วันขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก การปลูกมะระต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษโดยเฉพาะในเรื่องการดูแลกำจัดแมลง เนื่องจากเมื่อแมลงเข้าทำลาย จะทำให้ผลร่วงหรือแคระแกร็นได้

7.ต้นหอม

ที่ปลูกด้วยเมล็ดระยะเวลาการเก็บเกี่ยวจะอยู่ที่ 45 วัน ส่วนต้นหอมที่ปลูกโดยใช้รากจะสามารถเก็บกินได้เมื่อมีอายุ 30-32 วัน ถ้าไม่สะดวกนับวันก็ให้สังเกตจากความสูงของต้น ถ้าต้นหอมยาวเกือบถึงฟุตก็สามารถตัดใบกินได้เลย

8.ผักชี

เป็นพืชผักสมุนไพร มีกลิ่นหอม อายุสั้นประมาณ 40-60 วัน สามารถขึ้นได้ในดินทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำที่ดี ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ผักชีเป็นผักที่ใช้ใบ ก้านใบและลำต้นบริโภค เป็นผักเครื่องเคียงและปรุงแต่งอาหาร ให้มีรสชาติและกลิ่นหอมน่ารับประทาน

9.คื่นฉ่าย

ผักในตระกูลเดียวกันกับผักชีที่ให้ใบ และก้านใบ สำหรับรับประทานสด หรือนำมาประกอบอาหาร คื่นฉ่ายมีลักษณะกอ และลำต้นคล้ายผักชี แต่จะแตกต่างกันที่ขนาด และลักษณะของใบ และลำต้นที่ใหญ่กว่า คื่นฉ่ายสามารถปลูกได้หลายแบบ ถ้าพื้นที่บริเวณรอบบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มากสามารถปลูกในกระถางก็ได้ เพียงหยอดเมล็ดลงกระถาง ให้น้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง เช้าเย็น และรอหลังจากเมล็ดงอกประมาณ 40 – 50 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ ควรทยอยเก็บให้หมดก่อนถึงระยะที่คื่นฉ่ายจะออกดอก

10.เห็ดนางฟ้า

เป็นพืชที่ใช้ใช้ต้นทุนไม่สูง และได้ผลผลิตรวดเร็ว เพาะได้เกือบทุกฤดูยกเว้นในช่วงฤดูร้อน เพราะเห็ดชอบอากาศเย็นชื้น ถ้าปลูกไว้ในสวนรอบบริเวณบ้าน อาจนำภาชนะที่เก็บความชื้นได้ เช่น โอ่งมาเป็นภาชนะในการเพาะก็ได้ ตั้งไว้บริเวณที่ร่มรื่น หมั่นพรมน้ำ เช้า กลางวัน เย็น จนดอกเห็ดออกมาพร้อมเก็บเกี่ยว ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 7 – 15 วัน ก็นำไปขายได้แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีพืชผักที่น่าสนใจที่เหมาะจะปลูกไว้เพื่อเป็นพืชผักสวนครัว เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พริก กะเพรา โหระพา ตะไคร้ มะนาว เป็นต้น แม้พืชผักบางชนิดจะใช้เวลาในการเพาะปลูกนาน แต่เมื่อผลผลิตออกมาแล้วนับว่าคุ้มค่ากับการรอคอย อย่างเช่น มะนาว กับ พริก นั้น ใน 1 ต้นสามารถให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก

หากเหลือกินเหลือเก็บก็สามารถนำมาวางขายตามตลาดนัด หรือวางขายในที่ชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน สร้างรายได้ให้กับเราได้อย่างต่อเนื่องด้วย เพียงแค่ดูแลให้ดี ยิ่งถ้าเป็นผลผลิตที่ปลอดสารพิษด้วยแล้ว มูลค่าราคาขายเรายังสามารถตั้งราคาได้เองอีกด้วย