การจะเจริญก้าวหน้าในอาชีพรับราชการให้มีความมั่นคงนั้น “ไม่มีทางลัด” หากมีแต่เพียง “เส้นทางตรง” ที่ถูกต้องและชอบธรรมเท่านั้น จะทําให้ผลงานที่สั่งสมมานั้นเป็นที่ประจักษ์ โดยหนึ่งในต้นแบบของบุคคลที่เลือกเดินบนเส้นทางนี้ นางสาวศิริวรรณ สาลีเจริญ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย ส่วนนิติการ สำนักกฎหมายและที่ดินสุภาพสตรีที่ดำรงตนเป็นข้าราชการที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่ได้รับเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับประเทศ พ.ศ. 2563 ของกรมชลประทาน
เส้นทางสายนิติกร
ศิริวรรณ เล่าว่า ภูมิลำเนาของเธอเป็นคนจังหวัดกรุงเทพมหานคร จบชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสายน้ำผึ้ง และจบปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พื้นฐานทางครอบครัวบิดาประกอบอาชีพทนายความและดำรงตำแหน่งอดีตผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานกลาง กระทรวงยุติธรรม ส่วนมารดาเป็นแม่บ้าน
ศิริวรรณ ยอมรับว่า เส้นทางทำงานของเธอนั้นเป็น เส้นตรงที่ไม่เคยแตกแถว ภายหลังจากสำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรีแล้ว ด้วยความประสงค์ของบิดาผู้ที่ต้องการ ให้เธอรับราชการ โดยมองแล้วว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง และเป็นอาชีพที่มีเกียรติได้รับใช้ประชาชน เธอจึงเริ่ม เส้นทางสายอาชีพของตนเอง ด้วยการเป็นนิติกรลูกจ้าง ชั่วคราวที่กรมบังคับคดี หลังจากนั้นจึงสอบบรรจุเป็นนิติกร ระดับ 3 ของสำนักงาน ก.พ. เมื่อ พ.ศ. 2538 และได้เริ่มบรรจุเข้ารับราชการที่กรมชลประทานเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2539
“ตำแหน่งแรกที่บรรจุใน กรมชลประทาน คือ ตำแหน่งนิติกร ระดับ 3 สังกัดฝ่ายกฎหมาย กองกฎหมายและที่ดินมีหน้าที่ พิจารณาวินิจฉัยข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย แล้วนำหลักกฎหมายมาปรับใช้ในการทำความเห็นเสนอกรมชลประทาน
นิติกร ชลประทานกับผลงานส่วนร่วมในระดับประเทศ
สำหรับเรื่องงานแล้ว ศิริวรรณเปิดใจว่า เธอจะปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ได้รับโอกาสในการทำงานที่ท้าทายความรู้ความสามารถจากผู้บริหารโดยผลงานอันภาคภูมิใจที่นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบของสำนักกฎหมายและที่ดินแล้ว เธอเคยได้รับความไว้วางใจจากกรมชลประทานมีคำสั่ง มอบหมายให้ช่วยปฏิบัติราชการด้านกฎหมายกลั่นกรองงานด้านกฎหมาย ให้ความเห็นและคำปรึกษาให้กับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ รองปลัด กระทรวง 2 ท่าน และของกรมชลประทาน ได้แก่ นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานคนที่ 28 นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทานคนที่ 31 และ ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ์ รองอธิบดีฝ่ายบริหาร
นอกจากนี้ศิริวรรณ ยังเคยได้รับการมอบหมายให้เป็นผู้แทนกรมชลประทาน ในการตอบชี้แจงสภานิติบัญญัติ แห่งชาติการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติครั้งที่ 15/2557 รัฐสภา อภิปรายแสดงความคิดเห็นในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกร่างพระราชบัญญัติการชลประทานราษฎร์ พุทธศักราช 2482 พ.ศ.... ซึ่งมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 ไว้พิจารณา เป็นงานชั้นนิติบัญญัติระดับประเทศ
อีกหนึ่งผลงานที่ภาคภูมิใจ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ...ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บท เพื่อเป็นกติกากลางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อสอดรับกับการปฏิรูปประเทศ เธอจึงได้ร่วมมีบทบาทส่วนหนึ่งในการปฏิบัติ หน้าที่นําเสนอให้ข้อมูลข้อกฎหมายให้คำปรึกษา แนะนำและแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้อง
“ดิฉันรู้สึกภูมิใจที่สามารถทำงานยากและท้าทาย ได้ศึกษากฎหมายใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงของส่วน ราชการอื่นๆ นอกเหนือจากของกรมชลประทาน เป็นประสบการณ์ที่ดี ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดกระทั่งประสบความสําเร็จลุล่วงด้วยดี เป็นประสบการณ์อันมีค่าเรียนรู้จาก การทํางานร่วมกับผู้บริหารแต่ละท่าน และท่านผู้ทรงเกียรติ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องได้เป็นอย่างดี”
พ่อผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
ความสำเร็จที่ผ่านมาในชีวิตของศิริวรรณนั้น เธอยอมรับ ว่ามีต้นแบบการทํางานมาจากบิดาผู้เป็นนักกฎหมายที่สุจริตและยุติธรรม
“ในขณะที่ศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จนกระทั่งดิฉันรับราชการที่กรมชลประทานได้เห็นบิดา ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานกลาง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่รุ่น 5 พ.ศ. 2527 จนถึงรุ่นที่ 21 พ.ศ. 2547 รวม 9 รุ่น ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ดิฉันได้เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบิดา ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาสมทบหลายสมัยท่านดำรงตนให้ความยุติธรรมแก่คู่ความทั้งสองฝ่ายและปฏิบัติ
ผลงานที่ประจักษ์สู่รางวัลข้าราชการดีเด่นระดับประเทศ
ด้วยคุณงามความดีและผลงานที่สั่งสมตลอดมา จึงทําให้ในปีนี้ศิริวรรณได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ระดับประเทศ พ.ศ. 2563
“ดิฉันมีความรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้รับรางวัลอันมีเกียรตินี้ เป็นรางวัลตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเท แรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตประพฤติปฏิบัติตนเป็นข้าราชการที่ดีเพื่อทําหน้าที่ รับใช้แผ่นดิน นอกจากตนเองภาคภูมิใจแล้วยังสามารถ ทําให้บิดามารดาได้ภูมิใจ สมปรารถนาที่อยากให้ลูกสาว รับราชการซึ่งเป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติและศักดิ์ศรี จนประสบความสําเร็จในชีวิตรับราชการ”
สุดท้ายนี้ ศิริวรรณ ฝากบอกถึงน้องๆ ที่เป็นข้าราชการกรมชลประทานเรื่องการปฏิบัติงานว่า การจะเจริญก้าวหน้า ในอาชีพรับราชการตัวเราต้องพร้อมรับการเพิ่มพูนการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ขยันเอาใจใส่ไม่ย่อท้อในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ตัดสินใจด้วยเหตุผลไม่เลือกปฏิบัติและปราศจากอคติ และเมื่อได้รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จงทำงานให้ดีมีคุณภาพผลงานเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งผู้บังคับบัญชาจะเห็นความสามารถของเราและให้การสนับสนุนให้มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ราชการก่อให้เกิดผลดีทั้งต่อตนเองและประโยชน์ต่อทางราชการทั้งจะเป็นเกียรติประวัติกับตนเองตลอดไป