ข้อมูลจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ชี้ว่าธุรกิจสมุนไพรไทยในอนาคตจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 10% จากการหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงความกังวลในการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ขณะนี้มีผู้ประกอบการมากมายต่างนำสมุนไพรไทยไปแปรรูปเป็นสินค้ามากมาย เช่น ยารักษาโรค เครื่องสำอาง อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอื่น ๆ โดยเฉพาะแนวโน้มการพัฒนาสินค้าจากสมุนไพรไทย เพื่อทดแทนการสังเคราะห์จากสารเคมีที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ ครั้งนี้เราพามารู้จักกับอีกแบรนด์สมุนไพรชั้นนำที่มีความโดดเด่นเรื่องการใช้สมุนไพรไทยมาสร้างความงามทั้งภายในและภายนอก เพื่อเป็นอีกไอเดียต่อยอดธุรกิจสมุนไพรไทยให้เติบโต
ดร. กัญยฐ์ชรฏ์ จันทร์สว่าง ธรรมเพชร ประธานบริษัท จันทร์สว่าง กรุ๊ป เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจจันทร์สว่างเกิดจากตนเองประสบปัญหาเรื่องสิวฝ้ามาตั้งแต่ช่วงทำงานประจำ พอไปหาหมอตามคลินิกต่าง ๆ ก็ไม่หาย จึงตัดสินใจหันมาลองใช้สมุนไพรจนดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงกลายเป็นความหลงใหลในสมุนไพรไทย และได้ศึกษาค้นคว้า จนจบแพทย์แผนไทย สาขาเภสัชกรรม และในขณะเดียวกันก็พัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์จันทร์สว่างขึ้น ซึ่งผู้บริโภคต่างให้การตอบรับอย่างล้นหลาม สามารถเติบโตเรื่อยมา ถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลากว่า 47 ปีแล้ว จึงได้รับสมญานามว่า "ราชินีแห่งสมุนไพรไทย"
‘จันทร์สว่าง’ มืออาชีพด้านสมุนไพรเพื่อความงาม ที่เข้าใจความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง
ปัจจุบันจันทร์สว่างมีสินค้าภายใต้แบรนด์กว่า 50 ชนิด แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า การจัดการปัญหาของผิวหน้า การบำรุงผิว การปกป้องผิว การดูแลเส้นผม การยกกระชับทรวงอก อาหารเสริม รวมถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะ สำหรับแฟรนไชส์ศูนย์ความงามที่กระจายอยู่ทั่วประเทศและต่างประเทศรวมกว่า 500 แห่ง มีโรงงานมาตรฐาน GMP (บริษัท จันทร์สว่าง อินเตอร์แล็บ จำกัด) ทั้งผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ และรับ OEM มีทีมนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคมากที่สุด และการฝึกอบรมออนไลน์และออฟไลน์พร้อมรางวัล 1 ใน 5 สุดยอดแบรนด์ OTOP โกอินเตอร์ จากกองยาไทยและแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข ได้รับเครื่องหมาย Thailand Trust Mark ที่ช่วยการันตีสินค้ายอดเยี่ยมและคุณภาพที่ได้รับการยอมรับ จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์
จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจยุคนี้จำเป็นต้องเปิดรับสิ่งใหม่ กระหายความสำเร็จ ใฝ่รู้ และกล้าเปลี่ยนแปลง ซึ่งการที่จันทร์สว่างพัฒนาโซลูชั่นเหล่านี้ ก็เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจร่วมธุรกิจกับจันทร์สว่างสามารถมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกันจากการสร้างรายได้ได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น นั่นเพราะปัญหาสิวฝ้า รอยเหี่ยวย่น รอยหมองคล้ำ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้น ทุกเพศ ทุกวัย ทุกชั้นวรรณะ ซึ่งจันทร์สว่างก็เป็นองค์กรที่สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ครบทุกบริการ ส่วนใครที่มีเงินทุนอยู่แล้วก็สามารถมาลงทุนแฟรนไชส์ศูนย์ความงามภายใต้คอนเซ็ปต์ "ลงทุนน้อย คืนทุนไว ไม่เสี่ยง" ภายในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศของจันทร์สว่าง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ ในราคาลงทุน 42,500 บาท (แต่จะได้รับสินค้ามูลค่ารวมทั้งสิ้น 54,000) โดยแบ่งค่าใช้จ่าย ดังนี้
• ค่าแฟรนไชส์ ราคา 18,000 บาท โดยจะได้รับอุปกรณ์ตกแต่งร้าน ผลิตภัณฑ์ครบชุด และการช่วยทำการตลาดออนไลน์-ออฟไลน์
• ค่าอบรมออนไลน์ผ่านโปรแกรมซูม 2 วันและฝึกปฏิบัติที่ศูนย์อีก 20 ชม. ราคา 3,500 บาท
• ค่าสินค้าแบบจัดเต็มทั้งร้าน ราคา 21,000 บาท
สวยภายในสู่ภายนอก หัวใจหลักการทำ R&D เพื่อผู้บริโภคยุคใหม่
จันทร์สว่างมีทีมงานวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง มีการพัฒนาสูตรทั้งทางด้านกายภาพและจุลชีววิทยาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน บนความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ต่างชาติให้การยอมรับจากการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น อังกฤษ เยอรมนี ลาว กัมพูชา จีน และกลุ่มลูกค้ายังยกย่องให้เป็นแบรนด์ “ราชินีแห่งสมุนไพร” เนื่องจากใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเห็นผลได้จริง โดยไม่พึ่งพาสารเคมีใด ๆ เหตุนี้ทำให้จันทร์สว่างได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารเสริมเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความสวยทั้งภายในและภายนอก อาทิ Chansawang Skin Glow สมุนไพรที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาของสุภาพสตรี ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล เรือนร่างกระชับ และ Chansawang Pro Cordy สมุนไพรที่ให้ประโยชน์ในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุล และบำรุงร่างกายให้ทำงานดีขึ้น
อย่างล่าสุดก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ CS Herbs จันทร์สว่าง อาหารเสริมที่พัฒนามาเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันจากเชื้อไวรัส ประกอบด้วยสารสกัดจากสมุนไพรอายุวัฒนะ 7 ชนิด ได้แก่ กระชายขาว ใบบัวบก กล้วยดิบ ขิง มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภก ขนาด 30 แคปซูล ราคาปกติ 430 บาท โดยสามารถรับประทานได้วันละ 2 เม็ด ก่อนนอนเพื่อบำรุงร่างกาย
เปิดเทรนด์สมุนไพรไทยเพื่อความงามแห่งอนาคต รับโอกาสโตธุรกิจ SMEs
สำหรับสมุนไพรไทยเพื่อความงาม ที่คาดว่าจะมาแรงในอนาคต ทางแบรนด์ได้มองจากทิศทางตลาด รวมถึงสินค้าที่ได้รับความนิยมจากฐานลูกค้า โดยคัดจาก 39 ชนิด มาให้ 12 ชนิด ที่คาดว่าจะมาแรงมากในอนาคต ดังนี้
เกสรดอกบานเย็น: มีสรรพคุณต่อต้านสิวฝ้า อนุมูลอิสระ
ตำลึง: ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และทำให้ผิวกระชับ
สะเดา: ช่วยรักษารอยแผลเป็นจากสิว และมีเบต้าแคโรทีนสูง
ขิง: ช่วยบำรุงผิวจากการแห้งกร้าน และฟื้นฟูผิวจากแดดเผา
ใบบัวบก: ทำให้ผิวพรรณอ่อนกว่าวัย ลดเลือนริ้วรอย ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลเจนและอิลาสติน
ขมิ้น: ช่วยให้ผิวพรรณกระจ่างใส รักษาผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรีย และลดการงอกของขน
ไพล: ช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส ลดการอักเสบของผิว
มะขามเปียก: ลดริ้วรอยด่างดำ และทำให้ผิวกระจ่างใส
น้ำมันกัญชา: สามารถนำมาทาผิวเพื่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเสื่อมของเซลล์ผิว และยับยั้งการอักเสบของผิว
ใบกระท่อม: ช่วยรักษาอาการติดเชื้อในลำไส้ ลดไข้ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และท้องร่วง
กระชายขาว: ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส บำรุงร่างกาย ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน และปรับสมดุลเลือด
ฟ้าทะลายโจร: ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส ลดไข้ ลดอาการเจ็บคอ ต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย รักษาโรคผิวหนัง ระงับอาการอักเสบ และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
‘ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งสมุนไพร และได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เทรนด์ในอนาคตจะมีการใช้สมุนไพรไทย ร่วมกับสมุนไพรจากชาติอื่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง บวกกับผู้คนที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง นี่จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะต่อยอดเทรนด์สมุนไพรไทยให้เติบโตได้อย่างมั่นคง’ ดร. กัญยฐ์ชรฏ์ จันทร์สว่าง ธรรมเพชร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02 548 5800
LINE : @chansawang หรือคลิก http://line.me/ti/p/~
http://www.chansawang.co.th/
https://www.facebook.com/chansawangthailand/
พร้อมพบกับบริการใหม่ล่าสุดของจันทร์สว่าง ซึ่งออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่มีปัญหาเรื่องผิวหน้า แต่กังวลเรื่องความเสี่ยงจากโควิด และต้องการความสะดวกสบาย กับบริการให้คำปรึกษาผ่านช่องทางออนไลน์ E-Consultation โดยผู้เชี่ยวชาญแบบ One-on-one