โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

รู้ทัน ดอกเบี้ย “หนี้นอกระบบ” กับ 3 วิธีการจัดการหนี้ที่จะทำให้หลุดพ้นจากวงโคจรหนี้

เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ตำเป็น “หนี้นอกระบบ” กับดอกเบี้ยแสนโหดจนไม่สามารถหลุดออกจากวงโคจรนี้ได้ ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยอะไรก็ตามที่ทำให้คุณจะต้องหันไปกู้หนี้ยืมสินจากแห่งเงินกูดอกเบี้ยแสนโหดจนดิ้นไม่หลุด วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาบอกให้เข้าใจถึงอัตราดอกเบี้ยที่คุณจะต้องเจอ พร้อมกับแนะ 3 วิธีแก้ให้คุณหลุดออกจากวงจรนี้ให้ได้

ดอกเบี้ยน้อยในเงินกู้นอกระบบไม่มีอยู่จริง หากาคิดออกมาเป็นรายปีแล้วมักเจอความจริงที่แสนรันทดใจว่ามันสูงจนน่าสะพรึงกลัว มาดูกันสัก 1 ตัวอย่างว่าเจ้าหนี้นอกระบบคิดดอกเบี้ยสูงสักแค่ไหน

สมมติกู้เงิน 10,000 บาท จ่ายคืนวันละ 150 บาท เป็นเวลา 3 เดือน จริง ๆ แล้วเค้าคิดดอกเบี้ยเราเท่าไหร่ คำนวณคร่าว ๆ ได้ตามขั้นตอน ดังนี้

1.ขั้นแรกต้องคำนวณหาจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมดก่อน

เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด = จำนวนเงินจ่ายคืนรายวัน x จำนวนวันใน 1 เดือน x จำนวนเดือน

= 150 × 30 x 3 = 13,500 บาท

2.เมื่อได้เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมดแล้ว ให้นำไปลบจำนวนเงินที่กู้เพื่อหาจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด

ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = เงินที่ต้องจ่ายคืนทั้งหมด – จำนวนเงินกู้

= 13,500 – 10,000 = 3,500 บาท

3.นำดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมดมาคำนวณหาอัตราดอกเบี้ยจ่ายตามระยะเวลาที่กู้เงิน (3 เดือน)

4.ขั้นสุดท้ายให้นำไปหาอัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อปี เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบกับสินเชื่ออื่น ๆ ได้

จะเห็นได้ว่าเงินกู้ตามตัวอย่างข้างต้นที่จ่ายคืนเป็นรายวันในจำนวนไม่มากนักนั้น เราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 140% ต่อปีเลยทีเดียว

เมื่อติดอยู่ในวงจรหนี้นอกระบบแล้วหาทางออกไม่ได้จะทำอย่าไร หลายคนมักเลือกที่จะหนีหนี้ไปเลย แต่การเผชิญหน้าและแก้ปัญหาน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า จึงขอเสนอ 3 วิธีดังต่อไปนี้

1.หาเงินมาปิดหนี้

เริ่มต้นด้วยการลดรายจ่ายไม่จำเป็นลง เช่น ค่าชอปปิง ค่าอาหารมื้อพิเศษ ค่ากาแฟ ค่าเหล้า ค่าบุหรี่ ค่าหวย หารายได้เพิ่มเติมจากความถนัดหรืองานอดิเรกของตัวเอง และลองรวบรวมข้อมูลทรัพย์สินที่มีอยู่ว่ามีอะไรที่น่าจะมีคนสนใจซื้อและขายออกไปได้บ้าง เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ซึ่งการตัดใจขายทรัพย์สิน คนส่วนใหญ่คงบอกว่าทำใจลำบาก แต่เมื่อผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ค่อยทยอยเก็บเงินซื้อทรัพย์สินใหม่ก็ยังไม่สายเกินไป

2.หาแหล่งเงินกู้ในระบบ

สอบถามธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งอาจมีโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบออกมาเป็นระยะ หรือขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งมีทั้งแบบที่ไม่มีหลักประกันและมีหลักประกัน (เช่น บ้านหรือทะเบียนรถ) นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์และสินเชื่อพิโกพลัส ซึ่งดอกเบี้ยของสินเชื่อเหล่านี้น้อยกว่าดอกเบี้ยของหนี้นอกระบบ มีสัญญาชัดเจน และมีหน่วยงานทางการกำกับดูแลอีกด้วย

3.หาคนกลางมาช่วยไกล่เกลี่ยประนอมหนี้

ติดต่อสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด สายด่วน 1157 โดยคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบประจำจังหวัดจะช่วยเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้นอกระบบให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย (ที่มา : https://bit.ly/3aojiur ) สำหรับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการชำระหนี้น้อย จะมีคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการหารายได้ของลูกหนี้นอกระบบในทุกจังหวัดช่วยฝึกอบรมอาชีพ ฝีมือแรงงาน และให้ความรู้ทางการเงิน

นอกจากนี้ ลูกหนี้นอกระบบสามารถขอคำปรึกษาและร้องเรียนปัญหาหนี้นอกระบบได้ที่หน่วยงานราชการดังต่อไปนี้

  • ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง โทร. 1359
  • ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ กระทรวงมหาดไทย โทร. 1567
  • ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม โทร. 0 2575 3344

ไม่ว่าอดีตที่ผ่านมาจะจำเป็น หลวมตัว หรือจำใจจนต้องเป็นหนี้นอกระบบ ถึงเวลาสะสางหนี้ให้หมดไป พร้อมกับเริ่มต้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ด้วยการได้เงินมาแล้วให้เก็บออมทันทีก่อนใช้ ถ้ายังไม่มีเงินออมเผื่อฉุกเฉิน ให้รีบตั้งเป้าหมายและลงมือออมเงินเพื่อเป้าหมายนี้เป็นอย่างแรกเพื่อปิดทางสู่อบายภูมิทางการเงินเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝันที่ต้องใช้เงินแก้ปัญหา ใช้เงินน้อยกว่าที่หาได้ และไม่ก่อหนี้เกินตัว จะได้ไม่ต้องกลับไปสู่วังวนของหนี้นอกระบบอีก

ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ศคง)