พาณิชย์ แก้ปัญหาหมูแพง! ห้ามส่งออกชั่วคราว 3 เดือน พร้อมสั่ง ผู้เลี้ยง – ผู้ค้าส่ง เกิน 500 ตัว และห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป เช็คสต๊อกทั้งระบบและแจ้งราคาทุก 7 วัน เริ่มวันที่ 10 ม.ค. 65 เป็นต้นไป เพื่อนำข้อมูลปริมาณหมูเป็น หมูแช่แข็ง แช่เย็น ทั้งหมดที่อยู่ในระบบทั้งประเทศไปพิจารณาแก้ปัญหาต่อไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2565 โดยระบุว่า ที่ประชุม กกร. ได้พิจารณาประเด็นสำคัญเรื่องสุกร โดยหารือร่วมกับกรมปศุสัตว์ที่เป็นหน่วยงานดูแลการผลิตสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด
ตัวเลขเบื้องต้นในปี 2564 มีการเลี้ยงสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด ประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีสุกรหายไปจากระบบ เหลือประมาณ 13 ล้านตัว จาก 19 ล้านตัว ซึ่งบริโภคในประเทศประมาณ 18 ล้านตัว ทำให้ขาดสุกรประมาณ 5 ล้านตัวสำหรับการบริโภค
โดยที่ประชุมฯ ได้พิจารณาห้ามส่งออกสุกรมีชีวิต เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 ถึง 5 เมษายน 2565 เป็นการชั่วคราว และจะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คาดว่าจะช่วยให้มีหมูเป็นกลับเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมประมาณ 1 ล้านตัว
พร้อมกันนี้ ที่ประชุม กกร. ได้สั่งการให้ผู้เลี้ยงสุกรที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต็อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ต้องแจ้งสต็อกให้กรมการค้าภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาในทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ทราบปริมาณหมูเป็นทั้งหมดที่อยู่ในระบบ รวมทั้งหมูแช่แข็ง-แช่เย็น รวมกันทั้งประเทศ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยกรมการค้าภายในจะทำงานร่วมกันกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ กล่าวอีกด้วยว่า ในการจำหน่ายเนื้อหมูได้กำหนดให้มีการติดป้ายราคาให้ชัดเจน และห้ามขายเกินราคาป้ายที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์จังหวัด และกรมการค้าภายใน รวมทั้งปศุสัตว์ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการขายเกินราคา การเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมีมติเพิ่มเติม ให้กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานเจ้าของเรื่องโดยตรงในการผลิตสุกรเข้าสู่ระบบ เร่งดำเนินการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรเพิ่มเติม เพื่อให้สุกรมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศโดยเร็วที่สุด