อีกหนึ่งปลาเศรษฐกิจที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานนั่นคือ “ปลาดุก” ซึ่งถือเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายโตไว วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำว๊การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์เพื่อขายสร้างรายได้ โดยในการเลี้ยงไม่จำเป็นต้องมีบ่อปลาใหญ่ต่อ เพียงแค่มีบ่อซีเมนต์ก็สามารถเลี้ยงได้ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงปลาดุก
- ท่อปูนซีเมนต์ขนาด 100*50 เซนติเมตร
- ท่อพีวีซี ขนาด 1 นิ้ว ยาว 20 เซนติเมตร จำนวน 1 เส้น และยาว 40 เซนติเมตร
- จำนวน 1 เส้น และ ข้องอพีวีซีขนาด 1 นิ้ว จำนวน 1 อัน
- ตาข่าย
- น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
- อาหารสำหรับเลี้ยงปลาดุก
- พืชผักที่ปลากิน เช่น ผักบุ้ง ผักตบชวา ฯลฯ
- ลูกปลาดุก 70-80 ตัว
ขั้นตอนที่ 2 การเตรียมบ่อปูนซีเมนต์เลี้ยงปลาดุก
- จะต้องทำการฆ่ากรดฆ่าด่างในบ่อปูน โดยให้นำหัวกล้วยหรือโคนกล้วยมาสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ นำมูลวัวมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำใส่ไปในบ่อใส่น้ำให้เต็ม แล้วหมักไว้ 5 วัน จากนั้นให้เปิดน้ำทิ้งแล้วเอาโคนกล้วยออกทิ้งด้วย
- นำน้ำสะอาดใส่ไปในบ่อแล้วแช่ทิ้งไว้ 1 วัน หลังจากนั้นก็ให้เปิดน้ำทิ้ง
- นำผักบุ้งมาถูให้ทั่วบ่อ ทิ้งไว้ตากบ่อให้แห้ง
ขั้นตอนที่ 3 การเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
- นำท่อปูนที่มีรอยคราบผักบุ้ง หรือบ่อปูนที่ไม่มีกรดไม่มีด่าง ใส่น้ำให้มีความสูง 10 เซนติเมตร แล้วเติมน้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะ
- นำปลาดุกมาแช่น้ำในบ่อปูนทั้งถุง แล้วค่อยๆเปิดปากถุงให้ปลาว่ายออกมาเอง
- วันแรกที่นำปลามาปล่อยไม่ต้องให้กินอาหาร
- นำพืชผักที่ปลากิน เช่นผักบุ้ง ผักตบชวาและอื่นๆมาใส่ในบ่อ
ขั้นตอนที่ 4 การจำหน่าย
- ก่อนจะมารับประทานหรือจำหน่าย 2 วัน ให้นำดินลูกรังสีแดงหรือซังข้าวมาแช่ไว้ในบ่อ จะทำให้ปลาดุกมีสีเหลืองสวย ขายได้ราคาดีและน่ารับประทาน
- ปลาดุก 3 เดือนครึ่ง จำนวน 70 ตัว จะมีน้ำหนัก 14-15 กิโลกรัม หรือประมาณ 4-5 ตัว/กิโลกรัม จำหน่ายได้กิโลกรัมละ 60-70 บาท ขึ้นอยู่กับราคาตลาด ณ. ช่วงนั้น
- ต้นทุนอาหารกิโลกรัมละ 19-20 บาท
หมายเหตุ ก่อนให้อาหารต้องนำอาหารมาแช่น้ำก่อนเสมอประมาณ 10-15 นาที เหตุผลเพื่อ
- ปลาจะได้กินอาหารทุกตัว
- ปลาตัวที่แข็งแรงจะทำให้ท้องไม่อืด
- ปลาไม่ป่วย
- การเจริญเติบโตใกล้เคียงกัน
- อาหารไม่เหลือในบ่อและน้ำก็ไม่เสีย
- ถ่ายน้ำทุกๆ 7 วัน หรือ 10 วัน/ครั้ง ทุกครั้งที่ถ่ายน้ำจะต้องใส่น้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะเสมอ
เคล็ดไม่ลับการเลี้ยงปลาดุก
การทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
- ถังพลาสติกที่มีฝาปิดจำนวน 1 ถัง
- น้ำตาลทรายแดง 3 กิโลกรัม
- ฟักทองแก่ 3 กิโลกรัม
- มะละกอสุก 3 กิโลกรัม
- กล้วยน้ำหว้าสุก 3 กิโลกรัม
วิธีทำน้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
หั่นมะละกอ, กล้วยน้ำหว้า, ฟักทองทั้งเปลือกและเมล็ดใส่ไว้ในภาชนะที่มีฝาปิด ผสมน้ำตาลทรายแดง แล้วคนให้เข้ากันและปิดฝาให้แน่นหมักทิ้งไว้ 7 วัน แล้วเติมน้ำสะอาด 9 ลิตร ปิดฝาให้แน่นแล้วหมักต่ออีก 15 วัน
ประโยชน์ น้ำหมักสูตรเลี้ยงปลา
- ปลาไม่เป็นโรค
- ปลาไม่มีกลิ่นสาบ
- ปลาไม่มีมันในท้อง
- ปลาจะมีเนื้อหวานรสชาติอร่อย
ขอบคุณข้อมูลจาก : สาระเกษตร