ใครกำลังมองหาแฟรนไชส์อาหารลงทุนน้อย ขายง่าย กำไรดี และที่สำคัญคือรสชาติความอร่อย ขอแนะนำให้รู้จักกับ “ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า” ธุรกิจลูกชิ้นระดับตำนานกว่าครึ่งศตวรรษ ที่ใส่ใจในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมในราคาแสนคุ้มค่า
คุณธนิตศักดิ์ อิงคะกิตติโรจน์ หรือ เฮียโค้ว เจ้าของธุรกิจ “ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า” ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 2511 หรือกว่า 50 ปีแล้ว โดยตนเองเป็นทายาทรุ่นสองที่เข้ามาสานต่อโรงงานผลิตลูกชิ้นจากคุณพ่อ ที่มาของชื่อแบรนด์เกิดจากช่วงแรกเริ่มทำธุรกิจคุณพ่อได้เข้าไปซื้อทำเลเปิดร้านบริเวณศูนย์การค้าพิษณุโลกราม่า ซึ่งในอดีตจะเป็นแลนด์มาร์คของการท่องเที่ยว ดูหนัง และจากการบอกเล่าถึงความอร่อยปากต่อปาก จึงทำให้ร้านมีชื่อเสียงมากขึ้น แต่ในขณะนั้นยังไม่ได้สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ซึ่งจะใส่ถุงผูกเชือกสีแดงเท่านั้น ทำให้ลูกค้าบางกลุ่มเรียกว่าลูกชิ้นโบว์แดง และคนพิษณุโลกส่วนใหญ่ก็จะเรียกสั้น ๆ ว่าลูกชิ้นราม่า
จนมาถึงปี 2540 ตนเองจึงเข้ามาต่อยอดกิจการของคุณพ่อ โดยนำประสบการณ์ความรู้จากการทำงานประจำในธนาคารมาใช้ขับเคลื่อนธุรกิจ และจากนั้นก็เข้าไปศึกษาหลักสูตรการสร้างแฟรนไชส์มาตรฐานจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มายกระดับธุรกิจและสร้างแบรนด์ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่าอย่างในทุกวันนี้ ซึ่งการต่อยอดธุรกิจแฟรนไชส์ มีสาเหตุมาจากหลายครั้ง ธุรกิจได้ตกอยู่ในสงครามราคากับผู้ค้ารายอื่น ที่เน้นขายลูกชิ้นเกรดธรรมดาผสมแป้ง โดยเฉพาะการถูกขายตัดราคาจนยอดขายลดลงอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้จึงต้องการชูความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบที่เน้นใช้เนื้อหมูและเนื้อวัวแท้ ๆ ขึ้นมาต่อสู้กับผู้ค้ารายอื่น รวมถึงเพื่อแก้ปัญหาการแอบอ้างในชื่อแบรนด์หรือตราสินค้า โดยขณะนี้ได้ขยายแฟรนไชส์ไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 300 สาขา ทั้งในไทยและลาว
จุดเด่นของลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า คือความกรอบและหอมของผิวด้านนอก แต่เนื้อข้างในยังคงนุ่ม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการทำลูกชิ้นโบราณ ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีผู้ผลิตลูกชิ้นรูปแบบนี้แล้ว เมื่อกินกับน้ำจิ้มสูตรน้ำมะขามเปียกแบบดั้งเดิมก็จะช่วยเสริมกลิ่นและรสสัมผัส ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อในครั้งแรกมักจะกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องมาตรฐานและความสะอาดในการผลิต และความปลอดภัยไร้สารเจือปน
สำหรับการลงทุนแฟรนไชส์ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่ามีให้เลือกทั้งสิ้น 4 รูปแบบ
รูปแบบที่ 1 ราคา 4,999 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่มีเคาน์เตอร์ รถเข็น และอุปกรณ์ขายอยู่แล้ว โดยจะได้รับลูกชิ้น 10 กิโลกรัม น้ำจิ้ม 3 กิโลกรัม และชุดพนักงาน เพื่อไปลองขายก่อน ถ้าขายดีก็สามารถขยับขยายได้
รูปแบบที่ 2 ราคา 9,999 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนอุปกรณ์ในลักษณะถอดประกอบง่าย เพื่อไปขายตามที่ต่าง ๆ อย่าง ตลาดนัด งานเทศกาล งานวัด แหล่งชุมชน ฯลฯ โดยจะได้รับคีออส ขนาด 1 เมตร อุปกรณ์พร้อมขาย ลูกชิ้น 10 กิโลกรัม น้ำจิ้ม 5 กิโลกรัม และชุดพนักงาน
รูปแบบที่ 3 ราคา 19,999 บาท จะได้รับทุกอย่างเหมือนรูปแบบที่ 2 แต่จะปรับโครงสร้างคีออสให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
รูปแบบที่ 4 ราคา 29,999 บาท เหมาะสำหรับขายในห้างสรรพสินค้า คีออสมีการตกแต่งสวยงาม โดดเด่นสะดุดตา
สิ่งที่ต้องสั่งกับทางแบรนด์มีทั้งสิ้น 3 อย่าง คือ ลูกชิ้น แพกเกจจิ้ง และน้ำจิ้ม ทั้งเมนูลูกชิ้นทอดและปิ้งมีราคาขายปลีกเริ่มต้นไม้ละ 5 บาท ลูกชิ้นถุง 1 กิโลกรัม บรรจุ 220 ลูก และสำหรับ 1 ไม้ใช้ลูกชิ้น 4 ลูก คิดเป็นกำไรเฉลี่ยต่อไม้ไม่ต่ำกว่า 40% ซึ่งหากเป็นทำเลดี หรืออยู่ในทำเลที่มีการจัดงานเทศกาลต่าง ๆ จะสามารถขายได้สูงถึงวันละ 50-60 กิโลกรัม จึงทำให้ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่าเป็นแฟรนไชส์ที่สามารถคืนทุนได้ง่ายใน 1 วัน แต่เฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาคืนทุนไม่เกิน 15 วันเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่าประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ มองว่ามาจากความพร้อมปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยของเจ้าของกิจการ รวมถึงความซื่อสัตย์และความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะนำพาธุรกิจไปถึงเป้าหมาย โฟกัสให้ชัดเจนและตรงจุดไม่ออกนอกเส้นทาง ส่วนใครที่อยากมีธุรกิจลูกชิ้นเป็นของตนเอง ต้องบอกว่าธุรกิจลูกชิ้นเป็นการลงทุนที่ไม่สูง เหมาะกับการลงทุนในสภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และถ้าหากผู้ดำเนินกิจการมีความขยันซื่อสัตย์ มีทำเลที่ใช่ ก็จะสามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำได้ไม่ยากเลย
ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังไม่มีเงินทุน หรือใครที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน ตอนนี้ทางธนาคาร ออมสิน ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มาเริ่มต้นธุรกิจกับแบรนด์ ลูกชิ้นพิษณุโลกราม่า ได้ โดยสามารถติดต่อขอ “สินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ” เพื่อประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สแกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนขอสินเชื่อ วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ต้องขอขอบคุณ ธนาคารออมสิน ที่สนับสนุนให้คนไทยมีอาชีพ มีรายได้