ช่วงนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพง โดยเฉพาะมะนาวบางร้านขายกันถึงลูกละ 7 - 8 บาท วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการ "ปลูกมะนาวในกระถาง" เพื่อเก็บเอาไว้กิน หรือไว้ขายก็ได้ โดยจะแนะวิธีการโดยละเอียดมาดูกันเลยว่าจะมีวิธีการอะไรบ้าง
พันธุ์มะนาวแนะนำ
พันธุ์มะนาวที่แนะนำให้ปลูก ได้แก่ มะนาวแป้น มะนาวแป้นพันธุ์พิจิตร มะนาวพันธุ์พวงเพชร และมะนาวไข่
ข้อดีการปลูกมะนาวในกระถาง
- ประหยัดพื้นที่ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินหรือมีที่ดินน้อย
- สามารถปลูกได้บนดาดฟ้าหรือระเบียงห้องบนตึกหรืออาคารสูง
- ง่ายต่อการดูแล และการให้น้ำ
- สามารถบังคับให้ออกลูกนอกฤดูกาลได้ง่าย
- ยกหรือเคลื่อนย้ายได้ง่าย
- สามารถจัดเป็นไม้ประดับได้อีกทาง
วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- กระถางดินเผาหรือกระถางพลาสติก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว และต้องมีรูระบายน้ำด้านล่าง นอกจากนั้น เราสามารถประยุกต์ใช้ภาชนะอื่นสำหรับการปลูกได้ เช่น ถัง กะละมัง ตุ่มน้ำ เป็นต้น
- ดิน ที่ใช้ปลูกจะใช้ดินร่วนผสมกับมูลสัตว์หรือผสมวัสดุอื่น เช่น ขี้เถ้า แกลบ กากมะพร้าว เป็นต้น ในอัตราส่วน 1: 2 ผสมด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ขนาด 1 กำมือ
- กิ่งพันธุ์มะนาวตอนสามารถหาซื้อได้ตามสวนมะนาวหรือตลาดเกษตรทั่วไป
- ไม้ไผ่
- ก้อนอิฐหรือแท่งไม้
การปลูกมะนาว
- จัดเรียงอิฐวางในที่ตั้งกระถาง โดยให้มีช่องว่างตรงกลางบริเวณรูกระถาง แล้วนำกระถางเปล่าตั้ง การเลือกสถานที่ตั้งนั้น สำคัญต้องให้มีแดดส่องถึง
- นำดินที่ผสมวัสดุปลูกอื่นๆแล้วเข้าใส่ในกระถาง โดยให้ระดับดินอยู่ต่ำจากปากกระถางประมาณ 1 ใน 3
- ใช้มีดปลายแหลมกรีดถุงมะนาว และดึงถุงพลาสติกออก แล้วนำลงปลูก โดยให้ดินกลบเหนือเขตลำต้นประมาณ 5 เซนติเมตร และให้ดินต่ำกว่างระดับขอบกระถางประมาณ 1 นิ้ว
- รดน้ำให้ชุ่ม และนำฟางข้าว แกลบหรือเศษใบไม้มากลบบริเวณโคนต้น และปากกระถาง
การดูแล
การให้น้ำ จะทำการให้น้ำด้วยการดหรือให้น้ำผ่านอุปกรณ์การให้น้ำ เช่น อุปกรณ์ให้น้ำหยด โดยให้วันละครั้งในระยะแรก และเมื่อมะนาวตั้งต้นได้อาจให้ให้น้ำเป็นวันเว้นวัน การใส่ปุ๋ย ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณครึ่งกำมือ 2 เดือน/ครั้ง หรืออาจผสมกับน้ำรดบริเวณโคนต้นก็ได้ การตัดแต่งกิ่ง ให้ตัดแต่งกิ่งที่ยาวหรือสูงเกินไป หากมีทรงพุ่มขนาดใหญ่ให้ใช้ไม้ไผ่สอบที่ประถางในทั้ง 4 มุม และใช้เชือกหรือตีกรอบด้วยไม้ไผ่ขึงรอบบริเวณทรงพุ่ม เพื่อไม่ให้ทรงพุ่มแพร่กว้าง
การทำให้ออกลูกนอกฤดู
- ให้เลือกต้นมะนาวที่มีอายุการปลูกตั้งแต่ 8-12 เดือน
- ทำการตัดปลายกิ่งที่ต้องการให้มีการติดลูก และควรเลือกกิ่งแก่
- ทำการไม่ให้น้ำมะนาวเป็นเวลา 7-10 จนใบเหี่ยวหรือเริ่มร่วง
- ให้ปุ๋ยสูตร 12-12-24 หรือ 15-15-15 พร้อมรดน้ำให้ชุ่มหรืออาจให้ปุ๋ยด้วยการละลายน้ำ
- ให้น้ำปกติ วันละครั้งหรือวันเว้นวัน
- มะนาวจะแตกกิ่ง และออกใบใหม่ประมาณ 15-20 วัน พร้อมแตกดอก
- ให้ฉีดพ่นด้วยน้ำต้มสมุนไพรหรือสารป้องกันหนอนหรือแมลงขณะแตกใบอ่อน
เทคนิคการปลูกให้มะนาวออกลูกอย่างต่อเนื่อง และมีอายุหลายปี
1.การคัดเลือกกิ่งพันธุ์
กิ่งพันธุ์มะนาวที่เหมาะสมสำหรับการปลูกในกระถาง ควรเป็นกิ่งพันธุ์ที่ตอนมาจากต้นพันธุ์ที่เริ่มให้ลูกมะนาวแล้ว และกิ่งตอนควรเป็นกิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยออกลูกหรือออกลูกมะนาวแล้วไม่เกิน 1 ครั้ง อายุกิ่งประมาณ 4 เดือน ถึง 8 เดือน แต่ปัจจัยนี้ ผู้ชื้อกิ่งพันธุ์ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ผู้ซื้อสามารถสังเกตได้จากลักษณะสีของกิ่งพันธุ์ และลักษณะใบ คือ กิ่งพันธุ์ที่นำมาขายควรมีสีเขียวแก่หรือสีเขียวปนน้ำตาลเล็กน้อย ส่วนใบจะมีลักษณะใบใหญ่ อ่อน ไม่แข็งก้าน ใบมีลักษณะเรียบ ไม่พับงอ ซึ่งแสดงถึงกิ่งพันธุ์ที่ยังมีอายุไม่มาก แต่บางครั้งอาจเป็นผลมาจากการใส่ปุ๋ยบำรุงมากก็ได้ โดยเฉพาะระยะก่อนนำออกขายของเจ้าของไร่ ดังนั้น กิ่งพันธุ์ที่มีอายุที่เหมาะสมจะสามารถติดลูกมะนาวในเวลาภายในปีเดียว และสามารถให้ลูกมะนาวต่อเนื่องนานได้มากกว่า 5 ปี
2.การเลือกใช้วัสดุปลูกที่เหมาะสม
วัสดุปลูกควรเป็นดินผสมกับอินทรีย์วัตถุ ดินที่ใช้ควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ส่วนอินทรีย์วัตถุ ได้แก่ ปุ๋ยคอกที่เป็นมูลสัตว์ต่างๆ ปุ๋ยหมัก ขี้เถ้า และขุ๋ยมะพร้าว โดยเฉพาะปุ๋ยคอก และปุ๋ยหมักจะเหมาะสมที่สุด อัตราส่วนผสมระหว่างดินกับอินทรีย์วัตถุ 2:1 หรือ 3:1 โดยการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้แก่ดินปลูกจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดินให้เหมาะสม การเพิ่มความร่วนซุยของดิน ช่วยให้ดินในกระถางไม่แน่น และช่วยเก็บรักษาความชื้นในดิน
3.การเลือกใช้กระถาง และวางกระถาง
กระถางที่ใช้ปลูกมี 3 แบบ คือ กระถางพลาสติก กระถางดินเผา และกระถางจากวัสดุไม่ใช้ต่างๆ ซึ่งผู้ปลูกส่วนใหญ่มักหาซื้อกระถางพลาสติกหรือกระถางดินเผา ที่มีขนาดแตกต่างกัน หากใช้กระถางที่มีขนาดใหญ่ย่อมทำให้มีปริมาตรดินมากขึ้น หากใช้กระถางเล็กย่อมต้องใช้ดินน้อย ปัจจัยนี้มีผลต่อการแผ่ขยายของราก และสารอาหารที่มะนาวต้องการ ดังนั้น การใช้กระถางขนาดใหญ่ย่อมทำให้ต้นมะนาวเจริญเติบโตดี และมีอายุต้นได้นานมากกว่ากระถางขนาดเล็ก ทั้งนี้ ขึ้นกับปัจจัยการดูแลเป็นสำคัญ และการเลือกใช้ขนาดกระถางต้องเหมาะสมกับพื้นที่วาง หากต้องยกหรือเคลื่อนกระถางต้องยกหรือเคลื่อนที่ได้ง่ายการใช้กระถางพลาสติกจะมีราคาถูกกว่ากระถางดินเผา แต่กระถางพลาสติกจะทำให้สูญเสียความชื้นในกระถางได้ง่ายกว่ากระถางดินเผา และมีอายุการใช้นานน้อยกว่า ซึ่งหากเป็นพลาสติกธรรมดาจะมีอายุประมาณ 3-5 ปี เท่านั้น
4.การให้น้ำ ให้ปุ๋ย และการดูแลอื่นๆ
การให้น้ำ โดยทั่วไปมักให้น้ำธรรมดา แต่หากให้น้ำที่ได้จากการแช่ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์เคี้ยวเอื้องจะเป็นการให้น้ำ และให้ปุ๋ยไปพร้อมๆกัน ความถี่การให้น้ำ ควรให้อย่างสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง ในปริมาณที่พอให้หน้าดินกระถางชุ่ม 5-10 เซนติเมตร และควรหลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยเคมีในระยะที่ไม่ใช่การบังคับให้มะนาวออกผล เพราะจะทำให้ดินมีสภาพความเป็นกรดเร็วขึ้น หน้าดินแห้ง และแน่นเร็ว บริเวณหน้ากระถางควรนำซากพืช เศษใบไม้ หรือฟางข้าววางคลุมหน้ากระถาง ซึ่งการให้ปุ๋ยอินทรีย์จะให้ดินไม่เสื่อมสภาพเร็ว ส่วนการวางวัสดุจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดิน ทำให้มะนาวเติบโตในดินที่จำกัดได้อย่างต่อเนื่อง และอยู่ได้นานมากขึ้น
5.การตัดแต่งกิ่ง และบังคับให้ออกลูก
การบังคับมะนาวให้ออกลูกนอกฤดูกาล หากทำบ่อยครั้งจะทำให้ต้นเสื่อมสภาพเร็ว และจำเป็นต้องบำรุงดินอย่างสม่ำเสมอ และจำเป็นต้องต้องใช้ปุ๋ยเคมีในระยะนี้ เนื่องจากการบังคับให้มะนาวออกผล มะนาวจะต้องการแร่ธาตุอาหารมาก การบังคับให้มะนาวออกผลควรทำปีละครั้งเท่านั้น และจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยให้เพียงพอ โดยเริ่มตั้งแต่การให้ปุ๋ยน้ำอินทรีย์ตามที่กล่าวในข้างต้นอย่างต่อเนื่อง และปุ๋ยเคมีที่ใช้ควรใส่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป อัตราปุ๋ยเคมีที่ใช้ประมาณ 1 กำมือ/ต้น เท่านั้น
การตัดแต่งกิ่งมีความจำเป็นเพื่อไม่ให้ต้นมีกิ่งมาก ทรงพุ่มใหญ่ หากมีกิ่งมากหรือทรงพุ่มใหญ่จะทำให้มะนาวมีรากมาก รากจะแตกแขนงเต็มกระถางเร็วขึ้น เนื่องจากมีความต้องการสารอาหารมากขึ้นกับขนาดของลำต้นที่ใหญ่ขึ้น ดังนั้น การตัดแต่งกิ่งไม่ใช่เพื่อควบคุมขนาดทรงพุ่มเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยควบคุมปริมาณรากในกระถางได้ด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ต้นมะนาวเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีอายุต้นที่นานขึ้นหลายปีได้
ข้อเสีย
- ต้นเจริญเติบโตไม่ค่อยดีเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกบนดินหรือในท่อซีเมนต์
- ต้องมั่นเปลี่ยนดินบ่อยหรือต้องให้ปุ๋ยหรือธาตุอาหารมากเพื่อให้ดินมีธาตุอาหารที่เพียงพอต่อการเติบโต และให้ผล
- ต้นจะโทรมเร็ว และอายุของต้นมะนาวสั้นกว่าการปลูกโดยทั่วไปแต่ไม่แตกต่างกันมาก
- ต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งไม่ให้มีขนาดสูงหรือทรงพุ่มใหญ่เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ และขนาดของกระถางที่ใช้
- อาจเกิดการล้มของกระถาง ทำให้กระถางแตกง่าย