ใครที่ชอบทานฟักทองมาทางนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเมนูเด้ดที่ทำจากฟักทองมาฝากกัน โดยเฉพาะใครที่ไม่ชอบทานแต่จำเป็นต้องได้รับสารอาหารจากฟักทองสามารถนำเมนูดังกล่าวไปทำตามได้เลย รับรองว่าอร่อยไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน หรือจะใช้เป็นสูตรสำหรับทำขายก้ได้ เรามาดูกันเลยว่าจะมีเมนูอะไรบ้าง และมีวิธีการทำอย่างไร
1.ฟักทองนึ่ง
สุดยอดอาหารเฮลธ์ตีที่คนรักสุขภาพหมายปอง จับจ้องเอาไว้กินตอนเย็น ๆ แต่ปัญหาของการทำฟักทองนึ่งก็คือ การนึ่งฟักทองอย่างไรให้อร่อย ไม่เละ ไมแข็งจนเกินไป
วิธีนึ่งฟักทองก็ง่ายสุดแสนจะง่าย
1.เตรียมฟักทองมาหั่นเป็นชิ้นหนา ๆ หน่อย อย่าหั่นให้เล็กมากเพราะตอนนึ่งจะเละไม่อร่อย จากนั้นใช้มีดคว้านเอาไส้ตรงกลางออกให้สวยงาม
2.จากนั้นก็หันไปต้มน้ำในชุดนึ่งให้เดือดพล่าน แล้วจัดแจงเอาฟักทองที่หั่นไว้วางเรียงลงไปแล้วปิดฝานึ่งประมาณ 5-10 นาที ขึ้นอยู่กับว่าขนาดของชิ้นฟักทองที่เราหั่นนั้นใหญ่ขนาดไหน
2.ซุปฟักทอง
ส่วนผสม ซุปฟักทอง
- ฟักทอง
- แครอท
- หอมหัวใหญ่
- เนยสด
- น้ำ หรือน้ำสต็อกไก่
- เกลือป่น
- พริกไทย
- นมสดหรือวิปปิ้งครีม
วิธีทำ
- ปอกเปลือกฟักทอง หอมหัวใหญ่ และแครอทมา ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ (ชิ้นเล็กทำให้สุกง่าย)
- นำฟักทอง หอมหัวใหญ่ และแครอท ไปผัดกับเนยสักครู่ ให้หอมหัวใหญ่สุกเล็กน้อย
- เติมน้ำให้ท่วมผัก (หรือจะใช้น้ำสต็อกไก่ก็ได้นะคะ เพื่อความเข้มข้น เราเคยลองใช้น้ำซุปต้มกระดูกหมู แต่เราว่ารสชาติไม่แตกต่างจากใช้น้ำเปล่านะคะ หรือเราแยกรสชาติไม่ได้เองก็ไม่รู้) ต้มจนเดือด จากนั้นลดไฟอ่อนลง นานประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าผักจะนิ่ม
- เทซุปลงในเครื่องปั่น ปั่นจนเนื้อละเอียด (เราแบ่งปั่นสองครั้ง)
- จากนั้นเทซุปกลับลงหม้อต้มอีกครั้ง ตั้งไฟอ่อน คนผสมสักพัก
- ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพริกไทย ชิมรสตามชอบ
- ใส่วิปปิ้งครีมหรือนมสดตามชอบ
- คนผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
3.ฟักทองผัดไข่
ส่วนผสม ฟักทองผัดไข่
- ฟักทอง (ปอกเปลือกเล็กน้อย) หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วย
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว (ปรุงรส)
- น้ำตาลทราย (ปรุงรส)
- น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
วิธีทำ
- เจียวกระเทียมกับน้ำมันพืชด้วยไฟปานกลางจนหอม จากนั้นใส่ไข่ไก่ลงไปยีจนเกือบสุก
- ใส่ฟักทองลงผัดเบา ๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนฟักทองสุกนิ่มตามต้องการ ชิมรสตามชอบ ตักใส่จาน พร้อมรับประทาน
4.สังขยาฟักทอง
ส่วนผสม สังขยาฟักทอง
- ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
- ไข่ไก่ 8 ฟอง
- น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- ฝอยทอง สำหรับหยอดหน้า
วิธีทำสังขยาฟักทอง
- ใช้มีดเจาะลงไปที่ขั้วฟักทองแล้ววนจนครบรอบออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ฟักทองออกจนหมดแล้วนำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
- ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองผ่านตะแกรง จากนั้นเทใส่ลงในผลฟักทอง โรยฝอยทองด้านบน
- ใส่สังขยาฟักทองลงชามกระเบื้องขนาดพอดีกัน จากนั้นนำไปนึ่งชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30-40 นาที หรือจนฟักทองสุก ยกออกจากชุดนึ่ง พักไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น พร้อมรับประทาน
4.ขนมฟักทอง
ส่วนผสม ขนมฟักทอง
- ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมัน 1/4 ถ้วย
- มะพร้าวขูด 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- กะทิ 1 ถ้วย
- ถ้วยตะไลสำหรับนึ่ง
วิธีทำขนมฟักทอง
- นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท
- ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน
- ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด
- ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาทีจนแป้งสุกและใส นึ่ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
- แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
5.แกงบวดฟักทอง
ส่วนผสม แกงบวดฟักทอง
- ฟักทอง (หั่นเป็นชิ้น) 300 กรัม (ถ้าจะให้อร่อยควรใช้ฟักทองแก่)
- น้ำปูนใส สำหรับแช่ฟักทอง (ถ้ามี)
- กะทิ หรือนมสด 500 มิลลิลิตร
- ใบเตย 2 ใบ
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
- เกลือป่นเล็กน้อย
วิธีทำแกงบวดฟักทอง
- แช่ฟักทองลงในน้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- เทนมสดลงในหม้อ ใส่ใบเตย น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือป่น ต้มด้วยไฟปานกลางจนเดือด
- ใส่ฟักทองลงต้มจนฟักทองสุกและนิ่มตามต้องการ หรือประมาณ 20 นาที ยกลงจากเตา
- ตักแกงบวดฟักทองใส่ถ้วย รับประทานขณะร้อน ๆ
6.น้ำฟักทอง
ส่วนผสม น้ำฟักทอง
- ฟักทองนึ่งสุก 1 ถ้วย
- น้ำสะอาด 3 ถ้วย (ถ้าต้องการความเข้มข้นสามารถลดได้)
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
วิธีทำน้ำฟักทอง
- ใส่ฟักทองนึ่งลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นจนเป็นเนื้อเนียนละเอียด เทลงกรองด้วผ้าขาวบาง
- เทส่วนผสมน้ำฟักทองใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง เติมน้ำตาลทรายลงไป คนจนน้ำตาลทรายละลายและเดือด ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา สามารถเสิร์ฟได้ทั้งร้อน ๆ หรือรอจนเย็นแล้วเทใส่แก้ว นำไปแช่เย็นก่อนดื่ม