สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ออกมาตรการเข้มเพื่อเสริมสร้างวินัยจราจรและลดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่ที่มีใบสั่งจราจรค้างจ่าย ที่กระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ( ไม่มีผลย้อนหลัง ) เมื่อไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ทางกรมการขนส่งทางบก โดยนายทะเบียนรถยนต์จะไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีหรือป้ายภาษีตัวจริงให้ จะได้เพียงหลักฐานชั่วคราวใช้แทนได้ 30 วันเท่านั้น
ยกเว้น จะจ่ายค่าปรับตามใบสั่งจราจรที่ค้างอยู่ทั้งหมดกับนายทะเบียนจึงจะได้รับป้ายภาษีตัวจริง ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ที่ไม่มีป้ายภาษี มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 1 คะแนน
สำหรับช่องทางตรวจสอบใบสั่งจราจรค้างจ่าย ประชาชนสามารถตรวจสอบ ใบสั่งค้างจ่าย และชำระผ่านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เว็บ https://ptm.police.go.th/eTicket โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ลงทะเบียนใช้งาน โดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน / หมายเลขใบขับขี่หรือหมายเลขทะเบียนรถและกำหนดรหัสผ่าน
- เข้าสู่ระบบหลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
- ค้นหาใบสั่งโดยระบุวันที่กระทำผิด
- ระบบจะแสดงใบสั่งที่เคยได้รับ สามารถคลิกดูรายละเอียดของแต่ละใบได้ หากมีรถหลายคัน ระบบจะแสดงใบสั่งตามชื่อผู้ครอบครองรถคนเดียวกัน
- สามารถชำระค่าปรับออนไลน์ได้เลย โดยจ่ายแอป Krungthai NEXT หรือสถานีตำรวจ ธนาคารกรุงไทย ไปรษณีย์ไทย ตู้ ATM กรุงไทยหรือตู้บุญเติม
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบใบสั่งจราจรค้างจ่ายและชำระใบสั่งผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้ พร้อมติดตามสถานะการชำระใบสั่งได้ด้วย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร โทร.1197
สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ออกมาตรการเข้มเพื่อเสริมสร้างวินัยจราจรและลดอุบัติเหตุโดยผู้ขับขี่ที่มีใบสั่งจราจรค้างจ่ายที่กระทำความผิดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป ( ไม่มีผลย้อนหลัง ) เมื่อไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปีทางกรมการขนส่งทางบกโดยนายทะเบียนรถยนต์จะไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีหรือป้ายภาษีตัวจริงให้จะได้เพียงหลักฐานชั่วคราวใช้แทนได้ 30 วันเท่านั้น
ยกเว้นจะจ่ายค่าปรับตามใบสั่งจราจรที่ค้างอยู่ทั้งหมดกับนายทะเบียนจึงจะได้รับป้ายภาษีตัวจริงทั้งนี้ผู้ขับขี่ที่ไม่มีป้ายภาษีมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 1 คะแนน
สำหรับช่องทางตรวจสอบใบสั่งจราจรค้างจ่ายประชาชนสามารถตรวจสอบ ใบสั่งค้างจ่าย และชำระผ่านออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เว็บ https://ptm.police.go.th/eTicket โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. ลงทะเบียนใช้งานโดยใช้หมายเลขบัตรประชาชน / หมายเลขใบขับขี่หรือหมายเลขทะเบียนรถและกำหนดรหัสผ่าน
2.เข้าสู่ระบบหลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
3. ค้นหาใบสั่งโดยระบุวันที่กระทำผิด
4.ระบบจะแสดงใบสั่งที่เคยได้รับสามารถคลิกดูรายละเอียดของแต่ละใบได้หากมีรถหลายคันระบบจะแสดงใบสั่งตามชื่อผู้ครอบครองรถคนเดียวกัน 5.สามารถชำระค่าปรับออนไลน์ได้เลยโดยจ่ายแอป Krungthai NEXT หรือสถานีตำรวจธนาคารกรุงไทยไปรษณีย์ไทย ตู้ ATM กรุงไทยหรือตู้บุญเติม
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบใบสั่งจราจรค้างจ่ายและชำระใบสั่งผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้พร้อมติดตามสถานะการชำระใบสั่งได้ด้วยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรโทร.1197