กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย กรมกิจการผู้สูงอายุ แจ้งหลักเกณฑ์ใหม่ในการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพของกองทุนผู้สูงอายุ เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ดังนี้
คุณสมบัติของผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
- มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านเงินทุนประกอบอาชีพ (จากเดิม มีความจำเป็นขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมประกอบาชีพ)
- มีความสามารถในการประกอบอาชีพ ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมืนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (จากเดิม มีสภาพร่างกายแข็งแรงประกอบาชีพได้)
- มีปัจจัยในการประกอบอาชีพ
- มีสถานที่ในการประกอบอาชีพในจังหวัดเดียวกันกับที่ได้ยื่นคำร้องขอกู้ยืมไว้
- ไม่เป็นผู้กู้ หรือผู้ค้ำของกองทุนผู้สูงอายุ
- คู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส ต้องไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ (กำหนดเพิ่มเติม)
คุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
- เป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย และมีอายุ ไม่เกิน 57 ปีบริบูรณ์ (จากเดิม มีอายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์)
- มีภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่จังหวัดเดียวกับผู้ขอกู้ยืม
- เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำไม่น้อยกว่า 9,000 บาท (จากเดิม เป็นผู้มีรายได้หรือเงินเดือนประจำ)
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ (กำหนดเพิ่มเติม)
- ไม่เป็นผู้ค้ำประกันหนี้ผู้สูงอายุบุคคลอื่น
- ไม่เป็นคู่สมรส หรือบุคคลซึ่งอยู่กินกันฉันสามีภรรยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้กู้ (กำหนดเพิ่มเติม)
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่สนใจกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพและมีคุณสมบุติตามเกณฑ์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก กองทุนผู้สูงอายุ โทร.0-2354-6100 หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั่วประเทศ