ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยหันมาทำเลือกอาชีพอิสระมากขึ้น หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Freelance แต่มีคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ตั้งคำถามว่าอาชีพอิสระมีความมั่นคง หรือสามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อจะสร้างอนาคตได้หรือไม่ โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน วันนี้ ชี้ช่องรวยมีเคล็ดลับดีๆ มานำเสนอว่าจะทำอย่างไรให้คนที่ทำอาชีพอิสระอย่างเราๆ นั้นสามารถกู้ซื้อบ้านได้
เราจะพามาดู 5 เทคนิคขอสินเชื่อสำหรับอาชีพอิสระให้ผ่านฉลุย
1. เตรียมเอกสารยื่นกู้ให้พร้อม โดยเอกสารพื้นฐานมักประกอบไปด้วย
- สำเนาบัตรประชาชนผู้กู้
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้กู้
- ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล/ทะเบียนสมรส/ใบหย่า (ถ้ามี)
- บัญชีเงินเดือนหรือบัญชีรายรับ/รายการเดินบัญชี Statement ย้อนหลัง 6 เดือน – 1 ปี
- ใบจองซื้อ/สำเนาโฉนดที่ดิน
- เอกสารเพิ่มเติมสำหรับอาชีพ Freelance
- Statement แสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง อย่างน้อย 12 เดือน
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป (ภ.ง.ด.90)
- ใบเสร็จรับเงินชำระภาษีประจำปี
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร (ใบ 50 ทวิ)
- ใบสัญญาจ้างงาน อาจมีเอกสารอื่น ๆ ร่วมด้วย
2. จ่ายภาษีและยื่นแบบครบถ้วนทุกปี
การจ่ายภาษีเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอาชีพ Freelance ไม่ว่าเราจะมีรายได้มากหรือน้อยก็ตาม ทุก ๆ ปีเราต้องยื่นแบบภาษีภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด เมื่อยื่นแบบภาษีแล้วก็จะได้รับเอกสาร ภ.ง.ด.90 และใบเสร็จ เราควรเก็บย้อนหลังนาน 2-3 ปี เพื่อความฝันอยากมีบ้าน โดยเราจะมาลองแบ่งขั้นตอนจัดการภาษีผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้
- รวบรวมเงินได้พึงประเมิน คำนวณเงินได้สุทธิ
สิ่งที่เอามาคำนวณภาษี คือ จำนวนเงินได้สุทธิ ที่คิดจากเงินได้พึงประเมิน (หรือทำความเข้าใจง่าย ๆ ว่าเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษี) ต้องเตรียมเอกสาร และคำนวณเงินได้พึงประเมินด้วยตัวเอง หลักฐานสำคัญชิ้นนี้ ก็คือ ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ซึ่งนายจ้างที่จ้างงาน ที่เราจะได้รับจากผู้ว่าจ้าง จ้างด้วยเงินค่าจ้างเกิน 1,000 บาทขึ้นไป ต้องเก็บไว้ให้ดี ๆ เพราะจะสามารถทำให้เราลดหย่อนภาษีได้ดีเลยทีเดียว
- ค่าใช้จ่าย และการลดหย่อนภาษี
ซึ่งเราจะหักจากเงินได้พึงประเมิน โดยหักแบบเหมา 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ส่วนรายการที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ก็มาจากการทำประกัน ทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันสังคม หรือแม้แต่ หุ้น กองทุน LTF หรือ RMF นั่นเอง
- พร้อมแล้วยื่นภาษีเลย!
สำหรับการยื่นภาษีสามารถก็ทำได้ 2 วิธี คือ
- ยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 90 ด้วยตัวเอง ที่สำนักงานกรมสรรพากรในจังหวัดที่เราอยู่
- ยื่นออนไลน์ ในเว็บไซต์กรมสรรพากร แล้วชำระภาษีผ่านธนาคาร ไปรษณีย์ และบัตรเครดิต สะดวกสบายชำระได้หลายทาง
3.ไม่มีหนี้สิน ไม่ติดเครดิตบูโร
เนื่องจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อธนาคารจะขอให้เราเซ็นยินยอมให้มีการตรวจสอบประวัติทางธุรกรรมโดยผู้ดำเนินการเก็บข้อมูลไม่ว่าจะเป็น ผ่อนจ่ายบัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนสินค้า บัตรกดเงินสด หรือรายการทำธุรกรรมต่าง ๆ คือบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือที่เรียกติดปากว่า “เครดิตบูโร” นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากเรามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ดี ไม่มีหนี้สินก็จะทำให้ธุรกรรมต่าง ๆ ของเราสะดวกยิ่งขึ้น
4. วินัยในการออมเงินสำคัญมาก
การที่เรามีบัญชีเงินออม ฝากเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยแสดงศักยภาพและความมีวินัยด้านการเงินของเรา แม้ว่าจะทำอาชีพ Freelance ก็ตาม ทั้งนี้สามารถเลือกบัญชีเงินออมทรัพย์ของธนาคารไหนก็ได้อีกเช่นกัน
5. กู้ร่วม คือทางเลือกเพื่อให้สินเชื่อผ่านง่ายขึ้น
“กู้ร่วม” คือ การร่วมทำสัญญาเงินกู้สินเชื่อก้อนเดียวกัน เพื่อให้ทางธนาคารเห็นว่าจะมีอีกคนมาช่วยรับผิดชอบในวงเงินกู้ เพิ่มความมั่นใจความสามารถในการผ่อนชำระได้ตามกำหนด ทำให้ขออนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เปรียบเสมือนทางเลือกที่ทำให้ง่ายขึ้นด้วยวิธีการหาผู้กู้ร่วมในเครือญาติ หรือสามีภรรยามาร่วมรับภาระผ่อนวงเงินกู้ด้วยกัน ซึ่งผู้ที่กู้ร่วมกับเราก็จำเป็นต้องมีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจนเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : ธนาคารกรุงศรี