อย่างเรื่องฮวงจุ้ยก็เหมือนกัน ถ้าผู้บริหารไม่สนใจเรื่องนี้ ไม่เชื่อ วิสัยทัศน์ก็จะแคบกว่าผู้บริหารที่สนใจ และนำศาสตร์นี้ไปใช้กับธุรกิจ แล้ว “ทำไมต้องรู้เรื่องฮวงจุ้ยด้วยล่ะ” จากการได้พูดคุยกับผู้บริหารองค์กรหลายต่อหลายท่าน คำตอบของคำถามนี้ ก็คือ
การดูฮวงจุ้ยเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจ เพราะการบริหารงานส่วนใหญ่จะเน้นข้อมูลทาง การตลาดเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่วิชาฮวงจุ้ย สามารถให้ข้อมูลที่แตกต่างออกไปจากข้อมูลทางการตลาดทั่วไป ซึ่งช่วยให้นักบริหาร วางแผนงานได้รัดกุมมากขึ้น หน้าที่ของผู้บริหารที่ดีจะต้องบริหารความเสี่ยงในทุกๆปัจจัย เพื่อให้กิจการดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด
ผมเจอผู้บริหารหลายคนไม่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยเลย แต่ก็ต้องดูฮวงจุ้ยเพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนงาน เรียกว่าอุดช่องว่างในทุกๆปัจจัยที่จะส่งผลต่อธุรกิจได้ ผู้บริหารบางคนต้องเช็คดวงชะตาทุกครั้งที่มีการขยายธุรกิจ หรือต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เพื่อดูจังหวะและโอกาสในการลงมือทำ ดูฤกษ์ยามที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลกระทบที่มองไม่เห็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ผู้บริหารที่มีแนวคิดแบบนี้ ไม่ได้เรียกว่า “งมงาย” นะครับ แต่เรียกว่า รอบคอบ อะไรก็ตามที่คิดว่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจจะต้องดูทั้งหมด ไม่ใช่ดูแค่ปัจจัยทางการตลาดเพียงอย่างเดียว ผู้บริหารบางคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล จะใช้วิชาฮวงจุ้ยดูถึงอนาคตกันเลยทีเดียว
เช่น ปัจจุบันผู้บริหารจะเริ่มมองไปที่ฮวงจุ้ยยุคที่ 9 กันแล้ว (ปัจจุบันเป็นยุคที่ 8 เริ่มตั้งแต่ปีพ.ศ. 2547-2566) โดยดูจากทิศประจำยุคว่า ยุค 9 ทิศใดรุ่งเรืองที่สุด
ตัวอย่างฮวงจุ้ยยุคที่ 7 (พ.ศ. 2527-2546)
ทิศตะวันตก รุ่งเรืองที่สุด ในยุคนั้นซีกโลกตะวันตก ถือว่ามีบทบาทอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรืออเมริกา พอเข้ายุคที่ 8
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ รุ่งเรืองที่สุด ซึ่งถือเป็นโซนตะวันออก มีประเทศจีนตั้งอยู่ทางทิศนี้ กำลังก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจแทนอเมริกาและยุโรปแล้ว
เท่าที่ผมทราบมามีผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆ ของเมืองไทย เลือกไปลงทุนที่ประเทศจีนตั้งแต่ยุค 7 กันแล้ว ซึ่งการคาดการณ์ถือว่าไม่ผิดเลย ส่วนใครที่คิดจะขยายธุรกิจ การลงทุน ตอนนี้คงต้องมองกันที่ยุค 9 (พ.ศ.2567-2586) ซึ่งมีทิศรุ่งเรืองที่สุด ก็คือ “
ทิศใต้” ครับ ส่วนจะเป็นประเทศไหนนั้น คงต้องไปหาข้อมูลกันเอาเองแล้วล่ะครับ
คงจะเริ่มมองเห็นประโยชน์ของวิชาฮวงจุ้ยกันบ้างแล้ว ความจริงยังมีอีกหลายเรื่องที่นักบริหารจะต้องรู้โดยใช้วิชาฮวงจุ้ย เช่น การเลือกประเภทของธุรกิจในการลงทุนในแต่ละยุค โดยดูจากธาตุประจำยุค การเลือกหุ้นส่วน หรือเลือกคนเข้าทำงาน โดยดูจากธาตุของบุคคล
การรู้จักวางผังภายในองค์กรเพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมไปถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างป้ายชื่อ โลโก้ ของบริษัท เอาไว้ผมจะทยอยเขียนมาให้อ่านกันนะครับ