จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ตามแนวทาง Social Distancing ทำให้ประชาชนต้องอยู่บ้าน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงในการติดโรคโควิด -19 และควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด วิกฤตโควิด –19 จึงเป็นบททดสอบของทุกอาชีพในเวลานี้ วิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยองก็เช่นกัน วิกฤตดังกล่าวส่งผลให้การท่องเที่ยวต้องหยุดชะงัก การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนลดลง กิจกรรมต่างๆของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักก็น้อยลง รายได้ของวิสาหกิจชุมชนจึงลดลงตามไปด้วย
สมาคมเพื่อนชุมชน ยังคงเป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชนใน จ.ระยอง ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการเพื่อนชุมชนธรรมศาสตร์โมเดล ให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมั่นคง แม้รายได้จะลดลง แต่ก็สามารถปรับตัวได้ เพราะในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ
โดย นายวริทธิ์ นามวงษ์ นายกสมาคมเพื่อนชุมชน กล่าวว่า สมาคมเพื่อนชุมชนเป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งในการพัฒนาสร้างอาชีพให้มั่นคง แต่วิสาหกิจชุมชนต้องพัฒนาและต่อยอดความรู้ความสามารถที่ได้รับไปปรับใช้กับกิจการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ หรือการหาตลาดและช่องทางการขายใหม่ๆของวิสาหกิจชุมชน อาทิเช่น วิสาหกิจชุมชนแตนบาติก เสื้อผ้าจากผ้ามัดย้อม, วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์จากผ้าชุมชนมาบชลูด จาก กระเป๋าผ้า, วิสาหกิจชุมชนคลองน้ำหูผ้าหมักน้ำนมข้าว จากเสื้อผ้าหมักน้ำนมข้าว ปรับตัวให้สามารถอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤติ ได้ร่วมกลุ่มกันทำ “หน้ากากผ้า”
แม้ว่าโครงการ “เพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล” รุ่นปัจจุบันจะถูกชะลอการดำเนินงานชั่วคราว แต่สมาคมเพื่อนชุมชนยังคงช่วยเหลือชุมชนโดยการหาช่องทางกระจายสินค้าให้วิสาหกิจชุมชน เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยเฉพาะช่องทางการตลาดออนไลน์ เพราะมองเห็นว่าเมื่อความต้องการบริโภค และความต้องการในการหารายได้ยังคงมีอยู่ ในวิกฤตที่คนไม่ยอมออกจากบ้าน ช่องทางออนไลน์จึงเป็นอีกทางเลือกในการซื้อสินค้าและบริการที่ต้องการ ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมเพื่อนชุมชนส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนทุกราย ที่เข้าร่วมพัฒนากับโครงการเพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล มีช่องทางการตลาดออนไลน์ จึงยังคงสามารถซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดีจากฝีมือวิสาหกิจชุมชนของ จ.ระยอง ผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นเดิม
ทางด้าน นายมนตรี นามสง่า รองประธานวิสาหกิจชุมชนคลองน้ำหูผ้าหมักน้ำนมข้าว หนึ่งในวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการเพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล กล่าวว่า แต่เดิมจำหน่ายผ้าหมักน้ำนมข้าว แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เสื้อ กางเกง กระโปรง ผ้าพันคอ จำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด -19 ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 62 ทำให้ขาดรายได้อย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องปรับตัว ได้มองเห็นโอกาสว่าหน้ากากอนามัยเป็นที่ต้องการสูงมากและขาดตลาด จึงหันมาผลิตหน้ากากผ้าจำหน่าย ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แรกเริ่มนั้นได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมเพื่อนชุมชนและผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม สั่งหน้ากากผ้าจำนวนมากเพราะมั่นใจได้ในคุณภาพของสินค้า ทำให้เกิดการบอกต่อและมียอดสั่งซื้อจำนวนมาก ปัจจุบันมียอดการผลิตและจำหน่ายประมาณ 3,000-4,000 ชิ้นต่อเดือน แม้ว่ารายได้ต่อเดือนเทียบไม่ได้กับก่อนเกิดวิกฤตที่สร้างรายได้เกือบ 1 แสนบาท แต่ตอนนี้มีรายได้ไม่ถึง 1 หมื่นบาท แต่อย่างน้อยก็ช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชนได้มีงานทำ โดยคำสั่งซื้อส่วนใหญ่มาจากช่องทางออนไลน์ และโทรศัพท์เข้ามาสั่งซื้อ
สำหรับผลิตภัณฑ์หน้ากากผ้าหมักน้ำนมข้าว มี 2 แบบ ทั้งแบบผ้ามัสลิน 2 ชั้น ราคาชิ้นละ 16 บาท และแบบ 3D 4 ชั้น โดยชั้นที่ 1 และ 4 ประกบหน้า-หลัง เป็นผ้าฝ้ายที่ผ่านการต้มน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคแล้วนำไปหมักน้ำนมข้าวเพื่อให้ผ้านุ่ม ฟู ชั้นที่ 2 เป็นผ้ามัสลินเกรดกันน้ำ และชั้นที่ 3 แผ่นกรองอาการที่ผ่านการอบความร้อน ราคาชิ้นละ 45 บาท เรายังคงเน้นคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเราเช่นเดิมในราคาที่ไม่แพง สมกับสโลแกน “ผลิตภัณฑ์เพื่อคนที่คุณรัก สวมใส่สบายกาย หอมสดชื่นสบายใจ” นายมนตรี กล่าว
สำหรับ โครงการเพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล ปัจจุบันมีทั้งหมด 5 รุ่น 38 ราย ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลายประเภท ทั้ง อาหารแห้ง ขนมทานเล่น เครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน ของใช้จำเป็น อาทิ ขนมเปี๊ยะ ตรา 8 เซียน จาก วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านทิวลิปเนินพยอม, น้ำใบชะมวง ตรา รสชะมวง จากวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์ป่าชุมชนเนินพระ, ขนมข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ ตรา ไรซ์ มี (Rice me) จาก วิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพชุมชนเกาะกก, แชมพูสมุนไพร ตรา Chao Claire by Ariya (เจ้าแคลร์) โดย วิสาหกิจชุมชนกลุ่มสมุนไพรบ้านศาลเจ้า และ งานกระเป๋าถักแฮนด์เมด ตรา PAVAN (พาวัน) จาก วิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพสตรีบ้านฉาง เป็นต้น ทั้งหมดนี้แค่เพียงตัวอย่างวิสาหกิจชุมชน ยังมีวิสากิจชุมชนอีกหลายรายที่สมาคมฯส่งเสริมและต่อยอดสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงอยากเชิญชวนประชาชนอุดหนุนวิสากิจชุมชนใน จ.ระยอง ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเป็นการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย และกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้อีกทางหนึ่ง
ผู้สนใจผลิตภัณฑ์หน้ากากผ้าฝ้ายหมักน้ำนมข้าว สั่งซื้อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิสาหกิจชุมชนคลองน้ำหูผ้าหมักน้ำนมข้าว ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง โทรศัพท์ 081-572-8560 หรือ เฟซบุ๊ก วสช.คลองน้ำหูผ้าหมักน้ำนมข้าว หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมเพื่อนชุมชน และโครงการเพื่อนชุมชน-ธรรมศาสตร์โมเดล ได้ที่ โทรศัพท์ 038 685 666 หรือ เฟซบุ๊กเพื่อนชุมชน และ http://www.community.or.th/